ซินเจียงกับการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพบนเส้นทางสายไหม
21 Jul 2014การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ Medical Tourism กำลังเป็นที่นิยมในหลายประเทศในเวลานี้ และเขตปกครองตนเองซินเจียง ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในภาคจีนตะวันตกก็ไม่รอช้าที่จะเร่งพัฒนาให้ซินเจียงเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพบนเส้นทางสายไหม โดยจะเน้นนักท่องเที่ยวจากเอเชียกลาง
เมื่อสิ้นปี 2556 สมาคมการท่องเที่ยวซินเจียงและโรงพยาบาลแห่งที่ 1 มหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ซินเจียงได้ลงนามเอกสาร การจัดตั้งระบบประสานงานสำหรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในซินเจียงของนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) โดยปัจจุบันได้กำหนดให้บริษัททัวร์จำนวน 11 บริษัทนำนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเข้ามารับบริการในซินเจียง ในทางปฏิบัติ บริษัททัวร์จะแจ้งโรงพยาบาล 3 วันล่วงหน้าก่อนที่คนไข้จะเดินทางมาที่โรงพยาบาล ในกรณีที่เกิดข้อขัดแย้งระหว่างการรักษา บริษัททัวร์จะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งนอกจากโรงพยาบาลภาครัฐแล้ว คลินิกท้องถิ่นก็เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยม ในแต่ละวัน คลินิกแต่ละแห่งจะรับรองผู้เข้ารักษาจำนวน 10 – 30 คนต่อวัน โดยเฉพาะด้าน ทันตกรรม อาการปวดเอว และระบบหลอดเลือดหัวใจ
หากเทียบกับประเทศในเอเชียกลางแล้ว อุปกรณ์และเทคนิคการรักษาของซินเจียงมีความทันสมัยมากกว่า และการรักษาแบบแผนโบราณจีนและแผนอุยกูร์ก็ได้รับการยอมรับ สถิติชี้ว่า ในแต่ละปีบริษัททัวร์ 9 แห่งในซินเจียงรองรับนักท่องเที่ยวจาก CIS ประมาณ 80,000 คน โดยนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพครองสัดส่วนร้อยละ 1 – 5 ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยผู้สูงอายุและเด็กเป็นหลัก
ปัจจุบัน ประชาชนจีนให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพมากขึ้น กอปรกับการที่จีนกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ภาครัฐและเอกชนของจีนต่างหาโอกาสและดำเนินการพัฒนาระบบการรักษาพยาบาลและการให้บริการทางการแพทย์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการพัฒนาประสิทธิภาพด้านการแพทย์และการพยาบาลของจีนเป็นทั้งโอกาสและข้อควรพิจารณาสำหรับไทย โดยเป็นโอกาสในการค้าขายสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องในตลาดจีน ซึ่งจีนเริ่มผ่อนคลายกฎระเบียบบางส่วนเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้ต่างชาติเข้ามามีส่วนร่วม อย่างไรก็ดี ก็เป็นหนึ่งในข้อเพื่อพิจารณาในด้านความท้าทายสำหรับไทยในการเป็น medical hub ของภูมิภาค