จีนเตรียมออกแผนพัฒนาอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ
27 Aug 2013จีนกำลังพิจารณาประกาศใช้แผนพัฒนาอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ ซึ่งนำโดยคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) กระทรวงอุตสาหกรรมและสารสนเทศจีน กระทรวงคมนาคมจีน กระทรวงการเคหะและก่อสร้างเมืองและชนบทจีน และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมกับผลักดันการพัฒนาของอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ
จากการคำนวณของทางการจีน ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (2554-2558) จีนมีแผนลงทุนในโครงการประหยัดพลังงานและลดการปล่อยมลพิษที่สำคัญๆ ถึง 2.3 ล้านล้านหยวน และวางแผนลงทุนเพื่อพัฒนาพลังงานทดแทนอีก 1.8 ล้านล้านหยวน ส่วนแบ่งตลาดของเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานและประสิทธิภาพสูงจะเพิ่มสูงขึ้นจากสัดส่วนปัจจุบันที่ร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 30
ปัจจุบัน จีนได้ตั้งเป้าหมายการประหยัดพลังงานของทั้งประเทศไว้ว่า ภายในปี 2558 การใช้พลังงานถ่านหินมาตรฐานต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ทุก 1 หมื่นหยวนจะต้องลดลงเหลือ 0.869 ตัน (คำนวณโดยราคาปี 2548) พร้อมกับประหยัดพลังงาน 670 ล้านตันถ่านหินมาตรฐานตลอดระยะเวลาแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12
นายเซี่ย เจิ้งหัว รองอธิบดี NDRC แนะนำว่า จีนกำลังเร่งทำวิจัยในด้านอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ คมนาคมคาร์บอนต่ำ อำเภอและเมืองคาร์บอนต่ำ นิคมอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ ชุมชนคาร์บอนต่ำ และย่านการค้าคาร์บอนต่ำ ตลอดจนพิจารณาขยายขอบเขตการใช้นโยบายชดเชยการบริโภค “ผลิตภัณฑ์สีเขียว” ผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงอุตสาหกรรมและสารสนเทศจีน เห็นว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำนั้น ควรเน้นการประหยัดพลังงานในสาขาอุตสาหกรรมสำคัญควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ
ทั้งนี้ จีนได้ลงรายละเอียดในการประหยัดพลังงานในหลายๆ ด้าน อาทิ ในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 การใช้พลังงานของบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ (รายได้ 20 ล้านหยวนต่อปีขึ้นไป) ต้องลดลงราวร้อยละ 21 การใช้พลังงานของรถยนต์ขนส่งและธุรกิจการบินต้องลดลงร้อยละ 5 และภายในปี 2558 อัตราส่วนของการปฏิบัติมาตรฐานการประหยัดพลังงานในโครงการก่อสร้างใหม่ต้องมากกว่าร้อยละ 95 เป็นต้น
สำหรับอุตสาหกรรมที่สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก อาทิ อุตสาหกรรมเหล็กกล้า โลหะที่ไม่ใช่เหล็ก (Non – Ferrous Metals) ปิโตรเคมี วัสดุการก่อสร้าง เครื่องจักร อุตสาหกรรมเบา สิ่งทอ อิเล็กทรอนิกส์ จีนกำลังพยายามประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์การผลิตที่ประหยัดพลังงานและประสิทธิภาพสูงแทน/ยกเลิกเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ล้าสมัย นอกจากนี้ จีนยังมีแผนทดลองสร้างตลาด “การค้าคาร์บอน (carbon trading)” ชุดแรกที่กรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ นคาเทียนจิง นคาฉงชิ่ง มณฑลหูเป่ย มณฑลกวางตุ่ง และเมืองเซินเจิ้น และทยอยขยายจุดทดลองไปถึงทั่วประเทศ ตลอดจนสร้างตลาดการค้าคาร์บอนทั่วประเทศในอนาคตอีกด้วย
สังเกตได้ว่า จากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงและปัญหามูลพิษที่หนักยิ่งขึ้นในการพัฒนาเศรษฐกิจ รัฐบาลจีนและชาวจีนทั่วไปตื่นตัวกับเรื่องสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยเน้นคุณภาพของการพัฒนาเศรษฐกิจและชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การที่จีนให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ อาจเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจไทยที่เกี่ยวข้องมาบุกตลาดจีน ในอีกทางหนึ่ง ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องที่กำลังดำเนินการธุรกิจในจีนหรือประสงค์ที่จะมาลงทุนในจีน ก็ควรพิจารณาถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วยนะครับ/ค่ะ