จีนห้ามภาคตะวันออกเฉียงหนือจีนสำรองข้าวโพดและถั่วเหลืองที่มาจากการนำเข้า
27 Nov 2013เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 56 คณะกรรมาธิการเพื่อการปฏิรูปและพัฒนาแห่งชาติ กระทรวงการคลังของจีนได้ประกาศเกี่ยวกับการห้ามสำรองข้าวโพดและถั่วเหลืองของภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นการชั่วคราว โดยห้ามรับซื้อข้าวโพดและถั่วเหลืองนำเข้า โดยมีคำสั่งว่า หากในการรับซื้อพบข้าวโพดและถั่วเหลืองที่อาจเป็นข้าวโพดและถั่วเหลืองนำเข้า ให้เลื่อนการรับซื้อ และส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบก่อน หากเป็นข้าวโพดและถั่วเหลืองนำเข้าจริง ต้องสำรวจแหล่งที่มา เพื่อกันการกักตุนข้าวโพดและถั่วเหลืองนำเข้า โดยผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกทำโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
การประกาศครั้งนี้มีผลบังคับใช้กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนและเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ซึ่งปัจจุบัน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนเป็นพื้นที่หลักที่ผลิตถั่วเหลืองธรรมชาติ ของจีน โดยปริมาณถั่วเหลืองที่มณฑลเฮยหลงเจียงผลิตได้ครองสัดส่วนประมาณร้อยละ 25 ของการผลิตในจีน แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองของมณฑลเฮยหลงเจียงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ลดลงกว่าครึ่งหนึ่ง และมีแนวโน้มลดลงอย่างรวดเร็ว
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปริมาณนำเข้าถั่วเหลืองและข้าวโพดของจีนเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยสถิติจากสถาบัน Jinshi Futures ชี้ว่า ในปี 2556 ปริมาณถั่วเหลืองนำเข้าครองสัดส่วนราวร้อยละ 84.98 ของปริมาณถั่วเหลืองทั้งหมดในตลาดจีน และปริมาณนำเข้าข้าวโพดครองสัดส่วนร้อยละ 3.21ของปริมาณข้าวโพดในตลาดจีน
อย่างไรก็ตาม รองหัวหน้าสถาบัน Jinshi Futures กล่าวว่า สุดท้าย ถั่วเหลืองที่สำรองไว้จะไหลเข้าตลาดตามช่องทางปกติได้ แต่สำหรับถั่วเหลืองที่นำเข้าจากต่างประเทศนั้น รัฐบาลจีนกำหนดว่าให้นำไปใช้สำหรับการสกัดน้ำมันเท่านั้น แต่เนื่องจากถั่วเหลืองนำเข้ามีราคาต่ำกว่าถั่วเหลืองธรรมชาติ จึงส่งผลทำให้โรงงานสกัดน้ำมันในจีนหันไปซื้อถั่วเหลืองนำเข้าแทน รัฐบาลจึงออกมาตรการกักตุนถั่วเหลืองธรรมชาติเพื่อเป็นการกระตุ้นการขายถั่วเหลืองธรรมชาติภายในประเทศ