จีนทำลายสถิตินำเข้าธัญญาหาร – ปรับขึ้นภาษีศุลกากรสินค้าเกษตร
3 Jul 2013ในปี 2556 จีนนำเข้าธัญญาหารสูงกว่าการส่งออกมาก การนำเข้าข้าวสาลี ข้าวโพดและข้าวสารได้ทำลายสถิติอย่างต่อเนื่อง
จากสถิติของกระทรวงพาณิชย์จีน ในปี 2555 จีนนำเข้าธัญญาหารปริมาณทั้งสิ้นกว่า 70 ล้านตัน ซึ่งเป็นปริมาณสูงสุดในประวัติศาสตร์ ในจำนวนนี้ เป็นการนำเข้าธัญญพืช 13.17 ล้านตัน (และนำเข้าข้าวสาลี ข้าวโพด ข้าวสารปริมาณ 3.42 5.15 และ 2.09 ล้านตัน ตามลำดับ) ถั่ว 58.38 ล้านตัน ในขณะเดียวกัน ปริมาณการผลิตธัญญพืชของจีนในปี 2555 เท่ากับ 589.57 ล้านตัน ซึ่งได้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นปีที่ 9 และครองสัดส่วนไม่ถึงร้อยละ 90 ของความต้องการภายในประเทศ
เหตุผลหลักที่ทำให้การนำเข้าธัญญาหารของจีนเติบโตอย่างพุ่งกระฉูดคือ ราคาการนำเข้าธัญญาหารบางประเภทต่ำกว่าราคาของธัญญาหารภายในประเทศ รวมทั้งภาษีศุลกากรต่ำเกินจนไม่สามารถปกป้องสินค้าเกษตรที่ผลิตภายในประเทศให้แข่งขันในตลาดได้ อาทิ ข้าวสารที่นำเข้าจากประเทศเวียดนาม ปากีสถานและเมียนมาร์มีราคาเท่ากับ 344 หยวนต่อกิโลกรัม แต่ข้าวสารของมณฑลหูหนาน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตข้าวสารสำคัญของจีนมีราคาเท่ากับ 360 – 380 หยวนต่อกิโลกรัม โดยเปรียบเทียบแล้ว ธุรกิจข้าวสารภายในประเทศไม่มีความได้เปรียบด้านราคา
ปัจจุบัน ภาษีศุลกากรของสินค้าเกษตรในทั่วโลกเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณร้อยละ 62 สูงสุดถึงร้อยละ 1,000 ได้ แต่ศุลกากรสินค้าเกษตรของจีนโดยเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 15.2 แม้ว่าจีนมีข้อจำกัดในโควต้าต่อสินค้าประเภทข้าวสาลี ข้าวโพด น้ำตาล ฝ้าย ขนแพะ เป็นต้น แต่จีนเรียกเก็บภาษีนอกโควตาต่อสินค้าเกษตรเพียงร้อยละ 65 ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้เสนอให้รัฐบาลจีนปรับภาษีศุลกากรต่อสินค้าเกษตรเพื่อป้องกันสิทธิประโยชน์ของธุรกิจเกษตรภายในประเทศ