จับกระแสธุรกิจนมจีนรุกต่างประเทศ “ควบกิจการ” หาแหล่งป้อนวัตถุดิบ

27 Nov 2013

เว็บไซต์ข่าวกว่างซี : ช่วงที่ผ่านมา ธุรกิจนมในจีนแผ่นดินใหญ่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนแหล่งวัตถุดิบ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการก้าวออกไป ควบกิจการ ในต่างประเทศ เพื่อหาแหล่งวัตถุดิบใหม่

ตามรายงาน การขาดแคลนแหล่งวัตถุดิบป้อนโรงงานกำลังกลายเป็นปัญหาของธุรกิจนมในจีน ยุคนมราคาถูกกำลังผ่านพ้นไป วิสาหกิจนมจีนกำลังมองหาตลาดในต่างประเทศ เพื่อเข้าซื้อกิจการ จัดตั้งโรงงาน และจัดตั้งบริษัทลูกในต่างประเทศ

เมื่อวันที่ 25 พ.ย.56 บริษัท Bei Yin Mei (贝因美) วิสาหกิจผลิตภัณฑ์นมผงเด็กรายใหญ่ของจีนได้ควักกระเป๋าลงทุน 350 ล้านหยวน เพื่อจัดตั้งบริษัทลูกในเมืองเป๋ยไห่ (Beihai City, 北海市) ของเขตฯ กว่างซีจ้วง ในชื่อบริษัท Beihai Bei Yin Mei Nutrient Food (北海贝因美营养食品有限公司)

พร้อมทั้งให้บริษัทลูกในเมืองเป๋ยไห่ลงทุนมูลค่า 27.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 168.28 ล้านหยวน) เพื่อจัดตั้งบริษัทลูกอีกในเมืองฮ่องกง ภายใต้ชื่อบริษัท Bei Yin Mei (Hongkong) Investment Holding (贝因美(香港)投资控股有限公司) และให้บริษัทลูกในฮ่องกงจัดตั้งบริษัท Being Mate ในประเทศไอร์แลนด์ เพื่อทำตลาดนมผลเด็กทารกโดยเฉพาะ

ก่อนหน้านี้ บริษัท Bright Dairy (光明乳业) ปิดดีลกิจการนม Synlaite Milk ของประเทศนิวซีแลนด์พร้อมเข้าถือหุ้น 51 เปอร์เซนต์ กลายเป็นธุรกิจนมจีนแห่งแรกที่ออกไปลงทุนควบซื้อกิจการในต่างประเทศ

บริษัท Ausnutria (澳优乳业) ได้เข้าซื้อกิจการนม DDI ของประเทศเนเธอแลนด์ พร้อมเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Ausnutria Hyproca Dairy Group

บริษัท Syuntra International Inc (圣元国际集团) ได้ลงทุนมูลค่า 700 ล้านหยวน เพื่อสร้างโรงงานผลิตนมผงเด็กทารกสมัยใหม่ (กำลังการผลิตปีละ 1 แสนตัน) ในเขต Bretagne ของประเทศฝรั่งเศส

นอกจากนี้ บริษัท Yili (伊利) ได้ลงทุนมูลค่า 1,103 ล้านหยวน เพื่อสร้างสายการผลิตนมผง (กำลังการผลิตปีละ 47,000 หมื่นตัน) ในประเทศนิวซีแลนด์

นายซ่ง เลี่ยง (Song Liang, 宋亮) นักวิชาการในแวดวงธุรกิจนม ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบัน วิสาหกิจนมที่มีฟาร์มนมเป็นของตนเองสามารถป้อนวัตถุดิบเข้าโรงงานตนเองได้เพียงร้อยละ 15 เท่านั้น

การลงทุนสร้างฟาร์มนมของตนเองมีข้อเสียตรงที่ต้องใช้เงินลงทุนมาก คืนทุนช้า อีกทั้งต้นทุนค่าอาหารสัตว์และค่าแรงงานในประเทศก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การ ก้าวออกไป จัดหาแหล่งวัตถุดิบนมในต่างประเทศกำลังกลายเป็น กระแส ของธุรกิจนมจีนในปัจจุบัน

ปัญหาการขาดแคลนแหล่งวัตถุดิบ เนื่องจากการถอนตัวของฟาร์มนมรายย่อย ขณะที่กำลังการผลิตของฟาร์มนมขนาดใหญ่ก็ไม่สามารถทดแทนส่วนขาดได้อย่างทันท่วงที ส่งผลให้เกิดปัญหาอุปสงค์ส่วนเกิน และราคานมปรับตัวพุ่งสูงขึ้น

นายซ่งฯ แสดงความเห็นว่า ปัญหาข้างต้นจะยืดเยื้อไปถึงปี 2558 ทว่า ความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น การขาดแคลนแหล่งวัตถุดิบนมจะเป็นปัญหาระยะยาวที่ธุรกิจนมจีนต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นอกจากนี้ ต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคานมดิบปรับตัวอยู่ในระดับสูง เป็นการส่งสัญญาณว่า ยุคนมถูกได้ผ่านพ้นไปแล้ว

นายยวี๋ จิ้น (Yu Jin, 余荩) นักวิเคราะห์ชื่อดังจากบริษัท HF Investments (鸿帆投资管理有限公司) ชี้ว่า ต้นทุนแรงงานและอาหารสัตว์ที่พุ่งสูงขึ้น กอปรกับโครงสร้างธุรกิจนมจีนขาดความสมดุล (อุตสาหกรรมปลายน้ำมีอัตราการกระจุกตัวสูง) ส่งผลให้ราคานมดิบต้องปรับตัวขึ้นไปด้วย

วิสาหกิจนมขนาดใหญ่มีทางเลือกในการปรับขึ้นราคาเล็กน้อย เพื่อชดเชยการขยายตัวของราคานมดิบ อย่างไรก็ดี การเร่งพัฒนาฟาร์มเลี้ยงขนาดใหญ่และการควบรวมกิจการในต่างประเทศจะช่วยบรรเทาปัญหาการปรับขึ้นราคานมได้ในอนาคต

เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน