ค่าครองชีพของชาวต่างชาติในฮ่องกงต่ำลง แต่ยังสูงเป็นอันดับ 10 ในเอเชีย
17 Jun 2013ผลสำรวจของบริษัท ECA International ซึ่งเป็นบริษัทให้คำปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล เปิดเผยว่า ฮ่องกงได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสำหรับชาวต่างชาติแพงเป็นอันดับที่ 38 ของโลก จากเดิมที่อยู่ในอันดับที่ 37
Photo from SCMP
ผลสำรวจดังกล่าววัดจากราคาสินค้าและบริการสำหรับผู้บริโภคชาวต่างชาติในกว่า 400 ประเทศทั่วโลก โดยไม่รวมค่าที่พักอาศัยและค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ดัชนีค่าครองชีพในปีนี้สูงขึ้น ได้แก่ ราคาอาหารและค่าใช้จ่ายในการรับประทานอาหารนอกบ้านที่แพงขึ้น อย่างไรก็ดี ราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และน้ำมันเชื้อเพลิงที่ถูกลงก็มีส่วนช่วยทดแทนราคาอาหารที่แพงขึ้นได้ โดยผลสำรวจพบว่า ฮ่องกงมีดัชนีค่าครองชีพสูงขึ้นร้อยละ 3.9 แต่เมื่อเปรียบเทียบกับค่าครองชีพในเมืองต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียแล้ว ฮ่องกงมีค่าครองชีพสำหรับชาวต่างชาติถูกกว่าสิงคโปร์ กรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ กรุงโซล และกรุงโตเกียวซึ่งครองอันดับหนึ่งติดต่อกันเป็นปีที่ 2 แล้ว
นาย Lee Quane ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชีย บริษัท ECA International ให้ความเห็นว่า อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในจีนอาจส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าในฮ่องกง นอกจากนี้ เงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ผู้นำเข้าสินค้าชาวฮ่องกงมีต้นทุนการนำเข้าสินค้าจากจีนสูงขึ้น ซึ่งภาระต้นทุนดังกล่าวจะถูกผลักไปยังผู้บริโภค ทั้งนี้ แม้ว่าฮ่องกงจะมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเมืองค่อนข้างสูง รวมถึงไม่มีความเสี่ยงในเรื่องสกุลเงิน ซึ่งทำให้ฮ่องกงยังคงเป็นเมืองที่น่าดึงดูดใจสำหรับชาวต่างชาติและบริษัทต่างชาติ แต่ฮ่องกงยังคงมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่เมืองอื่น ๆ ที่มีเสถียรภาพในระดับที่ใกล้เคียงกัน อาทิ สิงค์โปร์
บีไอซีเห็นว่า ดัชนีค่าครองชีพในฮ่องกงที่บริษัท ECA International จัดทำนั้นยังไม่สามารถสะท้อนอัตราค่าครองชีพที่แท้จริงในฮ่องกงได้ เนื่องจากมิได้นำค่าที่พักอาศัยมาคิดคำนวณด้วย ในขณะที่ฮ่องกงเป็นเมืองที่มีราคาที่พักอาศัยค่อนข้างสูง ดังนั้น หากผู้ประกอบการไทยจะเข้ามาจัดตั้งบริษัทและดำเนินกิจการในฮ่องกง ก็จำเป็นที่จะต้องพิจารณาถึงปัจจัยเรื่องราคาที่พักอาศัยด้วย