ความเป็นเมือง (Urbanization) – แรงขับเคลื่อนใหม่ของเศรษฐกิจจีน
21 Jan 2013เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายหลี่ เค่อเฉียง รองนายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า จีนได้ก้าวเข้าสู่กลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลาง แต่การพัฒนาระหว่างเมืองต่าง ๆ ในจีนนั้นยังมีความไม่สมดุล โดยเฉพาะสภาพการพัฒนาระหว่างเขตเมืองและเขตชนบทยังคงแตกต่างกันมาก แต่ความแตกต่างนี้ในแง่หนึ่งก็ถือเป็นศักยภาพในการกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ในสิบปีข้างหน้า ความเป็นเมือง (Urbanization) จะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจจีน
ช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ ความเป็นเมืองของจีนเติบโตเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยอัตราความเป็นเมืองเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 ต่อปี และในปี 2555 อัตราความเป็นเมืองทะลุร้อยละ 50 เป็นครั้งแรก ผู้เชี่ยวชาญจีนคาดว่า ถึงปี 2563 อัตราความเป็นเมืองจีนจะเกินร้อยละ 60
ผลสำรวจของทางการจีนชี้ว่า เมื่ออัตราความเป็นเมืองปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จะมีแรงงานชนบทจำนวน 1 – 1.2 ล้านคนย้ายเข้าสู่เขตเมือง และเนื่องจากค่าครองชีพของประชาชนที่อยู่ในเขตเมืองมีขนาด 2.7 – 3 เท่าของประชาชนที่อยู่ในเขตชนบท จึงทำให้มูลค่าการบริโภคจะเติบโตขึ้นประมาณร้อยละ 1.6 นอกจากนี้ สถิติของทางการจีนชี้ว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ รายได้ที่แท้จริงของประชาชนที่อยู่ในเขตเมืองเพิ่มขึ้น 1.8 เท่า และหลังจากหักปัจจัยด้านราคาออก จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.2 ต่อปี ขณะที่ยอดขายปลีกสินค้าบริโภคของจีนเพิ่มขึ้นจาก 4.8 ล้านล้านหยวนเป็น 18.4 ล้านล้านหยวน อัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 16 ต่อปี นอกจากนี้ ในช่วง 3 ไตรมาสแรกในปี 2555 ความต้องการภายในประเทศคิดเป็นสัดส่วนของการเติบโตของ GDP ถึงร้อยละ 105.5 โดยในจำนวนนี้ คิดเป็นภาคการบริโภคร้อยละ 55 จึงกล่าวได้ว่า ความเป็นเมืองสามารถกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการกระตุ้นการพัฒนาของเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี ความเป็นเมืองของจีนทำให้แรงงานชนบทย้ายเข้าสู่เขตเมืองและเกิดความต้องการด้านที่พักอาศัย ธุรกิจภาคบริการอย่างร้านอาหาร บันเทิง และการเสริมสวย ฯลฯ อย่างมากมาย ตลอดจนจะเพิ่มความต้องการด้านสาธารณูปโภคและการคมนาคม ส่งผลทำให้ธุรกิจดังกล่าวกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจที่มีศักยภาพในอนาคตข้างหน้า