ความร่วมมือด้านธุรกิจอาหารระหว่างจีน-อาเซียนเปิดกว้าง โอกาสอันดีของธุรกิจอาหาร
24 May 2013ในปีที่ผ่านมา มูลค่าการค้าระหว่างจีนกับอาเซียนสูงถึง 24,470 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตร้อยละ 5.8 ในฐานะจีนเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 1 ของอาเซียน ความร่วมมือด้านธุรกิจอาหารระหว่างทั้งสองฝ่ายก็มีมากขึ้น โดยในปัจจุบัน อาเซียนได้กลายเป็นคู่ค้าอาหารอันดับ 2 ของจีน อาหารอาเซียนที่กำลังมีความนิยมและขายดีในตลาดจีน ทำให้ธุรกิจอาหารกลายเป็นธุรกิจที่ทั้งสองฝ่ายต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
นายสวี่ หนิง หนิง รองเลขาธิการสภาธุรกิจจีน-อาเซียน (China-ASEAN Business Council) มีความเห็นว่า หากจะเทียบโครงสร้างในการค้า จีนได้เปรียบในด้านการค้าขนาดใหญ่ของอาหารมูลค่าเพิ่มต่ำ แต่ในด้านการค้าอาหารแปรรูปที่มีมูลค่าเพิ่มสูง จีนยังสู้อาเซียนไม่ได้ ซึ่งอัตราเติบโตการส่งออกอาหารแปรรูปของจีนต่ออาเซียนต่ำกว่าอัตราเติบโตที่จีนนำเข้าอาหารแปรรูปจากอาเซียนเป็นอย่างมาก
นายสวี่ หนิง หนิง วิเคราะห์ว่า ข้าวไทย น้ำมันปาล์มของมาเลเซียและอินโดนีเซีย กาแฟของเวียดนาม ผลิตภัณฑ์มะพร้าวของฟิลิปปินส์ และผลไม้เขตร้อนสีสันหลากหลายของอาเซียน ล้วนเป็นสินค้ายอดนิยมของผู้บริโภคชาวจีนทั่วไป ความใกล้ชิดระหว่างประเทศกลุ่มอาเซียนกับจีน ทำให้ระยะเวลาที่ใช้ในการนำเข้าสั้นกว่าการนำเข้าจากที่อื่นๆ และผู้นำเข้าจีนก็สามารถปรับปรุงแผนการนำเข้าอย่างทันท่วงที อีกอย่างความเจริญรุ่งเรืองของธุรกิจอาหารและสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในอาเซียน ต่างเป็นปัจจัยที่ทำให้อาหารอาเซียนได้รับความนิยมมากขึ้นในตลาดจีน
เพื่อกระชับความร่วมมือด้านธุรกิจอาหารระหว่างจีน – อาเซียน นายสวี่ หนิง หนิง ยังเสนอว่า บริษัทการแปรรูปอาหารของทั้งสองฝ่ายควรใช้นโยบายเขตการค้าเสรีจีน – อาเซียนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในขณะที่การค้าระหว่างทั้งสองฝ่ายกำลงเติบโตอย่างรวดเร็ว ก็ควรเพิ่มพูนความร่วมมือด้านการลงทุนและความปลอดภัยของอาหาร นอกจากนี้ บริษัทเครื่องจักรแปรรูปอาหารและบริษัทเครื่องจักรบรรจุภัณฑ์อาหารของจีนสามารถ “ก้าวออกไป” และไปลงทุนในอาเซียนมากขึ้น