กสิกรไทยจัดงานจับคู่ธุรกิจ หวังสร้างเครือข่าย SME ไทย-จีน
12 Apr 2013เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 56 ธนาคารกสิกรไทยได้จัดงานจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ให้แก่นักธุรกิจ SME ไทยและจีน หวังสร้างเครือข่ายของนักธุรกิจระหว่างสองประเทศและส่งเสริมการค้าระหว่างกัน โดยการจับคู่ธุรกิจครั้งนี้ได้มุ่งเน้นที่สินค้าประเภทมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นสินค้าหลักที่ไทยส่งออกไปจีน
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จัดกัด (มหาชน) กล่าวในงานแถลงข่าวว่า รัฐบาลจีนส่งเสริมการผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ (Gasohol) เพื่อลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศ ขณะเดียวกัน จีนมีข้อกำหนดห้ามนำธัญพืช 5 ประเภทหลัก เช่น ข้าวสาร ข้าวสาลี ข้าวบาร์เล่ย์ ข้าวโอ๊ต และข้าวโพด มาใช้ในการผลิตพลังงานทดแทน ดังนั้น มันสำปะหลัง ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเอทานอล และไม่ใช่ธัญพืชที่ห้ามใช้ในการผลิตพลังงานทดแทน จึงมีความต้องการอย่างสูงในตลาดจีน แต่เนื่องจากปริมาณการผลิตมันสำปะหลังของจีนไม่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดภายในประเทศได้ จีนจึงต้องอาศัยการนำเข้าเป็นหลัก ทำให้ปริมาณการนำเข้ามันสำปะหลังของจีนพุ่งสูงขึ้นทุกปี
นายพัชร กล่าวว่า ไทยเป็นประเทศส่งออกมันสำปะหลังที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นประเทศผู้ส่งออกมันสำปะหลังที่ใหญ่ที่สุดไปยังตลาดจีน ขณะเดียวกัน จีนก็เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 1 ของไทย โดยสถิติชี้ว่า ปริมาณมันสำปะหลังที่ไทยส่งออกไปยังจีนครองสัดส่วนร้อยละ 98 ของปริมาณการส่งออกมันสำปะหลังทั้งหมดของไทย และครองสัดส่วนร้อยละ 68.9 ของปริมาณการนำเข้ามันสำปะหลังของจีน แต่ปัจจุบัน การซื้อขายมันสำปะหลังระหว่างไทย-จีนส่วนใหญ่จะต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง พ่อค้าจีนไม่มีช่องทางติดต่อกับผู้ส่งออกมันสำปะหลังของไทยโดยตรง จึงเกิดปัญหาพ่อค้าจีนรับซื้อมันสำปะหลังได้ไม่เพียงพอและคุณภาพมันสำปะหลังไม่ได้มาตรฐานตามที่ต้องการ ในขณะที่ผู้จำหน่ายมันสำปะหลังไทยก็ต้องการแสวงหาผู้ซื้อมันสำปะหลังโดยตรง ดังนั้น ธนาคารกสิกรไทยจึงจัดงานจับคู่ครั้งนี้ขึ้น เพื่อให้ผู้ซื้อและผู้ขายมันสำปะหลังทั้งสองประเทศมีโอกาสได้ทำความรู้จักกัน ตลอดจนเป็นการสร้างเครือข่ายธุรกิจให้แก่นักธุรกิจซื้อขายมันสำปะหลังของทั้งสองประเทศ
นายพัชร สมะลาภา กล่าวต่อว่า หวังว่ากิจกรรมครั้งนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนส่งเสริมการค้าระหว่างไทย-จีน กระตุ้นปริมาณการนำเข้ามันสำปะหลังของไทยไปยังตลาดจีนในปี 2556 นี้ให้เพิ่มสูงขึ้นเป็น 1 ล้านตัน คิดเป็น 7,000 ล้านบาท โตจากปีก่อนหน้าร้อยละ 14-18 ทั้งนี้ นายพัชร สมะลาภากล่าวเสริมว่า ในอนาคต ธนาคารกสิกรไทยจะมีการจัดงานจับคู่ธุรกิจ SME ไทย-จีนอย่างต่อเนื่อง และจะเน้นไปในกลุ่มสินค้าการเกษตร อาทิ ยางพารา ผลไม้ ฯลฯ
