กว่างซีส่งเสริมการเลี้ยง “ปลาเก๋า” สัตว์น้ำเศรษฐกิจน้องใหม่

3 Dec 2013

เว็บไซต์ข่าวกว่างซี : “ปลาเก๋า (Grouper) กำลังกลายเป็นปลาที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจซึ่งทางการกว่างซีกำลังให้ความสนใจ เนื่องจากลักษณะเด่นเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย เจริญเติบโตเร็ว จำหน่ายได้ราคาแพง เนื้อมีรสชาติดี และมีผู้นิยมบริโภคจำนวนมาก

ในระหว่างการเดินทางเยือนไต้หวันของคณะผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนกว่างซี เมื่อเดือนเมษายน 2556 นายเผิง ชิงหัว (Peng Qing Hua, 彭清华) เลขาธิการพรรคฯ ประจำเขตฯ กว่างซีจ้วงได้เป็นสักขีพยานการลงนามข้อตกลงความร่วมมือโครงการด้านการประมงระหว่างกว่างซีกับไต้หวัน โดยการเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตปลาเก๋าได้เป็นหนึ่งในสาระความร่วมมือสำคัญ

ตามรายงาน บริษัทเพาะเลี้ยงปลารายหนึ่งของเมืองยวี่หลิน (Yulin City, 玉林市) ได้นำเข้าลูกพันธุ์ปลาเก๋าน้ำจืดจากไต้หวันมาเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์ในบ่อเลี้ยงบนเนื้อที่มากกว่า 100 หมู่จีน (มากกว่า 240 ไร่) คาดว่าจะได้ผลผลิตปีละ 250 ตัน คิดเป็นมูลค่าการผลิตราว 25 ล้านหยวน

ด้านแผนงาน กรมการแพทย์ปศุสัตว์และประมงเขตฯ กว่างซีจ้วง (Guangxi Animal Husbandry and Fishery Bureau, 广西水产畜牧兽医局) ได้ดำเนินการศึกษาวิจัยถึงสภาพความเป็นไป เพื่อกำหนดแนวทางการเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตปลาเก๋าในกว่างซี

แผนงานพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตปลาเก๋า อยู่ภายใต้รหัส 123 กล่าวคือ

1 หมายถึง รัฐบาลจะให้การสนับสนุนที่จำเป็นต่อการพัฒนาปลาเก๋าทุกตัว แต่ละปีจะจัดสรรกองทุน 100 ล้านหยวน และการลงทุนในสังคม 1,000 ล้านหยวน

2 หมายถึง เร่งพัฒนาการเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์ปลาเก๋า 2 ชนิด ทั้งปลาเก๋าน้ำจืดและปลาเก๋าน้ำเค็ม

และ 3 หมายถึง การตั้งเป้าหมายสร้างมูลค่ารวมการผลิตให้ได้ทะลุ 3,000 ล้านหยวนภายในปี 2558 (สิ้นแผนพัฒนาฯ 5 ปี ฉบับที่ 12)

ทั้งนี้ คาดหมายว่า ปีนี้ (ปี 56) กว่างซีจะมีปริาณการผลิตปลาเก๋าทั้งสิ้น 2,550 ตัน คิดเป็นมูลค่าการผลิตราว 225 ล้านหยวน ในจำนวนนี้ เป็นพื้นที่ปล่อยเลี้ยงปลาเก๋าน้ำจืดมากกว่า 100 หมู่จีน (ราว 240 ไร่) ปริมาณผลผลิต 250 ตัน มูลค่าการผลิต 25 ล้านหยวน

ส่วนการเลี้ยงปลาเก๋าน้ำเค็มในกระชังมีพื้นที่ 15,800 ตร.ม. และการเลี้ยงในบ่อเลี้ยงริมฝั่งทะเล 1,305 หมู่จีน (ราว 3,131 ไร่) ปริมาณผลผลิต 2,300 ตัน มูลค่าการผลิตมากกว่า 200 ล้านหยวน

จากจุดเด่นของปลาเก๋าที่เลี้ยงง่าย (สามารถเลี้ยงได้ทั้งในบ่อดินและกระชัง) เจริญเติบโตเร็วกล่าวคือ ปล่อยลูกปลาเก๋าเดือนเมษายน สามารถจับปลาขึ้นมาจำหน่ายเดือนพฤศจิกายน น้ำหนักปลาเฉลี่ยอยู่ที่ตัวละ 2-3 กิโลกรัม

การเพาะเลี้ยงปลาเก๋าไม่ว่าจะเป็นปลาเก๋าน้ำจืดหรือปลาเก๋าน้ำเค็ม อัตราส่วนผลผลิตที่ได้เท่ากับ 1 : 1 หรือมากกว่า รายได้จาการจำหน่ายคิดเป็นเงินกำไรมากกว่าครึ่ง

อย่างไรก็ดี การเพาะเลี้ยงปลาเก๋าต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างมาก โดยเฉพาะลูกพันธุ์ปลาเก๋ามีราคาค่อนข้างสูง ปัจจุบัน ลูกปลาเก๋าน้ำจืดขนาด 10 ซม.ตกราคาตัวละประมาณ 5-6 หยวน ขณะที่ลูกปลาเก๋าน้ำเค็มน้ำหนัก 250-300 กรัม ตกราคาตัวละประมาณ 25 หยวน

หากคำนวณโดยใช้บ่อเลี้ยงปลาความลึก 2.5 เมตร ซึ่งสามารถเลี้ยงปลาได้ประมาณ 3,000 ตัว การเลี้ยงปลาเก๋าน้ำจืดบนเนื้อที่ 1 หมู่จีน (ราว 2.4 ไร่) จะต้องใช้เงินลงทุนลูกปลาประมาณ 15,000-20,000 หมื่นหยวน ขณะที่การเลี้ยงปลาเก๋าน้ำเค็มบนพื้นที่เท่ากับจะต้องใช้เงินลงทุนลูกปลาสูงถึง 70,000-80,000 หยวน

 

เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน