กว่างซีผุดขั้วเศรษฐกิจใหม่ จุดเด่นเพียบ สนใจจะลงทุนต้องศึกษา
15 Mar 2013เว็บไซต์รวมข่าว – เขตฯ กว่างซีจ้วง: ระบบอุตสาหกรรม โครงสร้างพื้นฐานและทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ เป็นปัจจัยเด่นของเขตเศรษฐกิจ “หลิ่วโจว-หลายปิน-เหอฉือ” ขั้วการพัฒนาใหม่ของกว่างซี
เจ้าหน้าที่คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปเขตฯ กว่างซีจ้วงเปิดเผยว่า เขตเศรษฐกิจหลิ่วโจว-หลายปิน-เหอฉือมีจุดเด่นหลายประการที่ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนา
หนึ่ง ทำเลที่ตั้ง และประชากร โดยเขตเศรษฐกิจฯ มีพื้นที่รวม 65,500 ตร.กม. คิดเป็นร้อยละ 27.7 ของพื้นที่รวมกว่างซี จำนวนประชากรในปี 54 มีจำนวน 10.43 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 20.1 ของประชากรรวมกว่างซี
ขณะเดียวกัน ตำแหน่งของ 3 เมืองดังกล่าวตั้งอยู่ในวงแหวนเศรษฐกิจสำคัญ 3 แห่ง ได้แก่ วงแหวนเศรษฐกิจจีนตอนใต้ วงแหวนเศรษฐกิจตะวันตกเฉียงใต้และวงแหวนเศรษฐกิจอาเซียน เป็นช่องทางออกสู่ทะเลที่สำคัญของภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้
สอง การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของ 3 เมืองได้กลายเป็นฐานสำหรับการบูรณาการความร่วมมือ โดยผลผลิตมวลรวมภายในของทั้ง 3 เมืองในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 14.6 ต่อปี สูงกว่าการขยายตัวของกว่างซี โดย GDP ในปี 54 มีมูลค่า 257,800 ล้านหยวน คิดเป็นร้อยละ 22 ของ GDP กว่างซี
ในจำนวนนี้ เศรษฐกิจของเมืองหลิ่วโจวเพียงเมืองเดียวก็ครองสัดส่วนกว่าร้อยละ 13.5 ของเศรษฐกิจกว่างซี สูงเป็นอันดับ 2 รองจากนครหนานหนิง โดยอิทธิพลทางเศรษฐกิจของเมืองหลิ่วโจวได้แผ่ขยายไปยังเมืองข้างเคียงอย่างเมืองหลายปินและเมืองเหอฉือด้วย
สาม โครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคที่สมบูรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกแก่การพัฒนา เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีความได้เปรียบด้านการคมนาคม เพราะเป็นทางผ่านไม่ว่าจะเป็นการเดินทางจากเหนือลงใต้หรือจากตะวันออกไปยังตะวันตก
เมืองหลิ่วโจวเป็นชุมทางการคมนาคมเชิงบูรณาการระดับภูมิภาคที่สำคัญ ขณะที่เมืองหลายปินและเหอฉือเป็นช่องทางการคมนาคมที่สำคัญกว่างซีและของภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ ระบบทางหลวง ทางรถไฟและทางอากาศสมบูรณ์ ซึ่งการเดินทางเชื่อมต่อทั้ง 3 เมืองสามารถเดินทางถึงได้ภายใน 1 ชั่วโมง
สี่ จุดแข็งของแต่ละเมืองสามารถเสริมศักยภาพการพัฒนาพื้นที่ร่วมกันได้ โดยเมืองหลิ่วโจวเป็นเมืองอุตสาหกรรมหลัก มีระบบอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างทันสมัย ความสามารถในการสร้างสรรค์และคิดค้นเทคโนโลยีอยู่ในอันดับต้นๆ ของกว่างซี
ขณะที่เมืองหลายปินมีทรัพยากรที่ดินและพลังงานไฟฟ้าที่อุดมสมบูรณ์ จึงเหมาะสำหรับอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า ถลุงโลหะ ผลิตน้ำตาลและแปรรูปอลูมิเนียมเป็นต้น
ส่วนเมืองเหอฉือเป็น 1 ใน 10 เมืองที่มีแร่โลหะมีสีมากที่สุดของจีนและยังเป็นเขตรองรับการย้ายฐานอุตสาหกรรมหม่อนไหมจากภาคตะวันออก ซึ่งเมืองเหอฉือมีผลผลิตหม่อนไหมตกปีละ 86000 ตัน ดังนั้น จุดแข็งด้านทรัพยากร พลังงานและอุตสาหกรรมของทั้ง 3 เมืองจึงสามารถบูรณาการเพื่อเสริมศักยภาพระหว่างกันได้
ห้า ระบบความเป็นเมืองที่พัฒนามาอย่างเป็นลำดับได้กลายเงื่อนไขสำคัญที่ช่วยผลักดันการบูรณาการเชิงพื้นที่ให้เป็นกลุ่มเมืองภาคกลางของกว่างซี โดยอัตราความเป็นเมืองของหลิ่วโจวอยู่ที่ร้อยละ 51.3 ขณะที่อัตราความเป็นเมืองของทั้ง 3 เมือง (รวมอำเภอรอบนอกอีก 21 อำเภอ) อยู่ที่ร้อยละ 40.5
หก มาตรการและนโยบายจากภาครัฐทุกระดับที่สนับสนุน อาทิ เมืองหลิ่วโจวถูกกำหนดให้เป็นเมืองแห่งการบูรณาการอุตสาหกรรมและสารสนเทศแห่งชาติ ฐานผลิตและส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์แห่งชาติ รวมถึงเป็นเป็นเมืองที่ทางการกว่างซีต้องการบุกเบิกให้เป็น Mega City เป็นต้น
เมืองหลายปินถูกกำหนดให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ใหม่ ฐานสาธิตเศรษฐกิจหมุนเวียนของกว่างซีเป็นต้น ส่วนเมืองเหอฉือถูกกำหนดให้เป็นฐานสาธิตการผลิตโลหะมีสีเชิงอนุรักษ์แห่งชาติ ฐานอุตสาหกรรมสุขภาพและฐานท่องเที่ยวตามรอยพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นต้น
แผนการร่วมพัฒนาของทั้ง 3 เมืองต่างก็ได้รับการสนับสนุนเชิงนโยบายจากทั้งรัฐบาลกลางและรัฐบาลกว่างซี เพื่อผลักดันให้การบูรณาการครั้งนี้ให้ประสบความสำเร็จ
BIC เห็นว่า ขั้วเศรษฐกิจใหม่หลิ่วโจว-หลายปิน-เหอฉือนี้จะเป็นขั้วเศรษฐกิจที่มีศักยภาพในอนาคต ฐานอุตสาหกรรมสำคัญของกว่างซีต่างก็ตั้งอยู่ในแถบนี้ เช่น อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ผลิตโลหะมีสี เครื่องจักรกลวิศวกรรมเป็นต้น
หากแผนการบูรณาการทั้ง 3 เมืองสำเร็จจะช่วยสร้างความเข้มแข็งและบรรยากาศการลงทุนที่น่าดึงดูดให้กับภูมิภาคดังกล่าว ขณะเดียวกันยังเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สดใส โดยเฉพาะธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และแปรรูปโลหะมีสีของไทยที่กำลังมองหาลู่ทางการลงทุน การหาแหล่งวัตถุดิบและตลาดและคู่ค้า
ลิงค์ข่าวที่เกี่ยวข้อง
– รวมกันเราอยู่ แยกหมู่เราตาย!! 3 เมืองตอนกลางกว่างซีเร่งจับมือพัฒนาแข่งกลุ่มเมืองอื่นๆ (2 มกราคม 2556)