เทคโนโลยีสุดล้ำ “ทำไร่ส้ม” ง่ายแค่ปลายนิ้วสัมผัส

3 Jan 2019

ไฮไลท์

  • เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงเป็นฐานการผลิตสินค้าเกษตรที่มีความสำคัญของประเทศจีน ทั้งพืชผัก ผลไม้ ประมง และปศุสัตว์ ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเกษตรของกว่างซีเริ่มประสบปัญหาต้นทุนแรงงานและวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้น
  • “เทคโนโลยี” คือ คำตอบของเกษตรกรกว่างซีในการบริหารจัดการภาคการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงและมีขนาดการผลิตคุ้มค่าต่อการลงทุน (economy of scale)
  • นักศึกษาจบใหม่ในกว่างซีจำนวนไม่น้อยตัดสินใจกลับไปเป็นเกษตรกรที่บ้านเกิด สิ่งที่น่าสนใจ คือ นักศึกษาจบใหม่เหล่านี้กลับไปพร้อมกับเทคโนโลยีที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการบริหารจัดการภาคการเกษตร จนได้รับการเรียกขานว่าเป็น “เกษตรกรรุ่นใหม่ในยุค China 5.0”

 

เหว่ย หัวถิง (韦华婷) เธอเกิดในครอบครัวเกษตรกร หลังจบการศึกษา เธอตัดสินใจกลับไปทำการเกษตรที่สวนสาธิตการเกษตรสมัยใหม่ไห่เซิง(ไร่ส้ม)ที่บ้านเกิดในเมืองหลายปิน (Laibin/来宾市) เธอเล่าว่า ตอนแรกคนในครอบครัวของเธอคัดค้าน เพราะทุกคนยังไม่เข้าใจคำว่า “การเกษตรอัจฉริยะ” หรือ Smart Agriculture ซึ่งช่วยให้เกษตรกรไม่ต้องตรากตรำทำงานหนักเหมือนเมื่อก่อน

“การเกษตรอัจฉริยะ” ที่เธอว่าคืออะไร การใช้โปรแกรมบนอุปกรณ์มือถือในการบริหารจัดการฟาร์มเกษตร อาทิ การตรวจทดสอบค่าดินและดัชนีสิ่งแวดล้อม การทดน้ำ และการใส่ปุ๋ยให้กับพืชผลทางการเกษตร ช่วยให้ผู้ควบคุมเข้าถึงข้อมูลการเติบโตของพืชผลได้ง่ายผ่านหน้าจอมือถือ

คุณเหว่ยฯ ทำไร่ส้ม 3,500 หมู่จีนหรือราว 1,458 ไร่ ด้วยตนเองกับสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว เมื่อเปรียบเทียบกับการปลูกส้มแบบดั้งเดิมที่ขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศ การทดน้ำใส่ปุ๋ยกินเวลาอย่างน้อย 4 วัน หากเจอฝนต้องกินเวลากว่า 1 สัปดาห์ แต่การทำ “การเกษตรอัจฉริยะ” ใช้คนเพียงคนเดียว และใช้เวลาใส่ปุ๋ยเพียง 3 วันเท่านั้น จะเห็นได้ว่าช่วยเพิ่มผลิตภาพแรงงานให้สูงขึ้นได้อย่างมาก

ใช้มือถือ “ใส่ปุ๋ย” ได้ยังไง ตอนที่ปลูกต้นกล้าส้มจะติดตั้งอุปกรณ์อัจฉริยะของบริษัท insentek ไว้บริเวณใกล้กับรากของต้นส้ม (อุปกรณ์ 3 ตัว มีชื่อเรียกภาษาจีนว่า“จื้อซาง” (智墒) “อวิ๋นเหยี่ยน” (云衍) และ “เทียนอิ๋น” (天圻)) อุปกรณ์เหล่านี้สามารถวัดค่าดิน ปุ๋ย แสง พลังงาน และน้ำ โดยลิงก์และส่งข้อมูลไปวิเคราะห์บนแพลตฟอร์มสารสนเทศ (เทคโนโลยี Big Data) ที่ถูกออกแบบมาเพื่องานด้านการเกษตร

ผู้ควบคุมสามารถอ่านค่าดัชนีต่างๆ ผ่านทางสมาร์ทโฟน อาทิ ปริมาณแสงแดด  อุณหภูมิ แรงลม ความเร็วลม ทิศทางลม ค่าความชื้นในดิน ค่าความเค็มในดิน และสั่งงานให้ระบบใส่ปุ๋ยตามค่าความเหมาะสมด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียวบนสมาร์ทโฟน ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการบริหารจัดการพื้นที่ปลูกส้มได้เป็นอย่างมาก

ข้อดีของระบบปฏิบัติการทดน้ำและใส่ปุ๋ยอัจฉริยะ ผู้ควบคุมสามารถควบคุมการทดน้ำและให้ปุ๋ยระยะไกลผ่านทางสมาร์ทโฟนได้โดยไม่จำเป็นต้องลงพื้นที่เอง ช่วยลดต้นทุนการบริหารจัดการพื้นที่ปลูกและต้นทุนแรงงาน สามารถประหยัดน้ำได้ถึง 50% ประหยัดปุ๋ยได้ 30% และประหยัดต้นทุนแรงงาน 80% อีกทั้งยังช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรอีกด้วย

ความสำเร็จของไร่ส้มดังกล่าวยังกระตุ้นให้ชาวสวนในพื้นที่ใกล้เคียงเกิดการรวมแปลงเป็นเกษตรแปลงใหญ่ และมีการปล่อยที่ดินเช่าเพื่อทำการเกษตร ซึ่งสร้างงานสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรชาวสวนได้อย่างมาก ช่วยให้เกษตรกรเหล่านี้หลุดพ้นจาก “ความยากจน”

 

 

จัดทำโดย นางสาววัชราภรณ์  พรหมพินิจ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครหนานหนิง
เรียบเรียงโดย นายกฤษณะ สุกันตพงศ์ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครหนานหนิง
ที่มา เว็บไซต์ www.gx.chinanews.com (中国新闻网) ประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561
รูปประกอบ www.pexels.com และ www.insentek.com

China 5.0การเกษตรอัจฉริยะทำไร่ส้มเกษตรกรไร่ส้ม

เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน