อันดับเมืองที่มีความสามารถในการแข่งขันด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีของจีน ๑๐๐ อันดับแรก นครเฉิงตูติดอันดับที่ ๘

27 Dec 2024

งานเปิดงานนิทรรศการเทคโนโลยีระหว่างประเทศครั้งที่ ๑๒ ณ เมืองเหมียนหยาง (The 12th China (Mianyang) Science and Technology City International Science and Technology Expo) สถาบันวิจัยพัฒนายุทธศาสตร์อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์แห่งประเทศจีน (The China Electronics Information Industry Development Research Institute – CCID Research Institute) ได้เผยแพร่รายงาน “การศึกษาความสามารถในการแข่งขันด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีของประเทศจีนปี ๒๕๖๗” ซึ่งในรายงานมีการจัดอันดับ “๑๐๐ เมืองที่มีความสามารถในการแข่งขันด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีของจีนปี ๒๕๖๗” โดยนครเฉิงตูได้รับการจัดอันดับอยู่ในลำดับที่ ๘ ของประเทศจีน

ในแง่ของลักษณะการลงทุนด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เมืองเซินเจิ้น เมืองซูโจว และเมืองเหอเฟยครองตำแหน่ง ๓ อันดับแรก ในขณะที่นครเฉิงตูอยู่ในลำดับที่ ๗ ของประเทศ ส่วนในด้านศักยภาพและนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เมืองหนานจิง เมืองอู่ฮั่น และนครกว่างโจวอยู่ในลำดับ ๓ อันดับแรก ขณะที่นครเฉิงตูอยู่อันดับที่ ๕ ซึ่งอยู่ในกลุ่ม ๑๐ เมืองที่มีศักยภาพด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีสูงสุดในจีน

นอกจากนี้ จากรายงานขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO-World Intellectual Property Organization) “รายงานดัชนีความสามารถในด้านนวัตกรรมระดับโลกปี ๒๕๖๗” นครเฉิงตูติดอันดับที่ ๒๓ ในรายการ “เทคโนโลยีคลัสเตอร์ (science and technology cluster)”[๑] เป็นอันดับแรกในประเทศจีนที่มีการปรับตัวและพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอด ๖ ปีที่ผ่านมา จากการวางแผนด้านการสำรวจทางวิทยาศาสตร์ไปจนถึงการพัฒนาอันดับในดัชนีความสามารถในด้านนวัตกรรมระดับโลก นครเฉิงตูแสดงให้เห็นถึงพลังกระตุ้นด้านนวัตกรรมที่ไม่หยุดยั้งอย่างต่อเนื่อง

สถานการณ์การพัฒนานวัตกรรม: การสร้างสรรค์ “ครั้งแรกในโลก/ประเทศ” ที่ต่อเนื่อง

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นครเฉิงตูได้รับข่าวดีในวงการนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ บริษัท Chengdu Born Science Medical Robotics ได้พัฒนาและดำเนินการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ผ่านช่องปากเป็นครั้งแรกในโลก (การผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ผ่านช่องปาก: Robotic Surgery via the Mouth เป็นเทคนิคทางการแพทย์ที่ใช้หุ่นยนต์ในการช่วยในการผ่าตัด โดยการเข้าถึงร่างกายของผู้ป่วยผ่านช่องปาก ซึ่งต่างจากการผ่าตัดแบบดั้งเดิมที่อาจต้องมีการเปิดแผลบริเวณผิวหนัง เทคนิคนี้ได้รับความนิยมในหลายสาขาของการผ่าตัด เช่น การผ่าตัดมะเร็ง การผ่าตัดเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หรือแม้กระทั่งการรักษาโรคในช่องปากและลำคอที่มีความซับซ้อน) ซึ่งการผ่าตัดลักษณะนี้สามารถรักษามะเร็งในบริเวณกล่องเสียงพร้อมปกป้องอวัยวะของผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ เมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๗ ศูนย์นวัตกรรมหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ นครเฉิงตูได้เปิดตัว “หุ่นยนต์มนุษย์กงกาหมายเลขหนึ่ง (Humanoid Robot “Gongga No. 1”)” ซึ่งเป็นหุ่นยนต์มนุษย์ที่ผลิตในประเทศจีนเป็นครั้งแรก โดยเป็นหุ่นยนต์ที่มีระบบสมองที่ทรงพลังที่สุดในโลกขณะนี้

นวัตกรรมที่เกิดขึ้นเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงพลังด้านนวัตกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของนครเฉิงตู ซึ่งจากการสำรวจผลงานที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง ก็ยืนยันได้ว่า ความสามารถในด้านนวัตกรรมของนครเฉิงตูได้พัฒนาไปจากการสะสมของปริมาณไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่มีคุณภาพ และจากการบุกเบิกทางเทคนิคไปสู่การยกระดับความสามารถในระบบ

การสนับสนุนเทคโนโลยีสำคัญและการพัฒนาแพลตฟอร์มนวัตกรรมระดับสูง

การสร้างแพลตฟอร์มนวัตกรรมระดับสูงเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาในอนาคตของนครเฉิงตู โดยนครเฉิงตูได้ตั้งศูนย์วิจัยในหลายพื้นที่สำคัญ เช่น ศูนย์วิจัยควอนตัมอินเทอร์เน็ต (Quantum Internet Frontier Research Center) ซึ่งร่วมมือกับสถาบันวิจัยชั้นนำในประเทศและพัฒนาเทคโนโลยีชิปควอนตัมแบบไนโตรเจนคาร์บอนเป็นครั้งแรกในระดับโลก

นอกจากนี้ นครเฉิงตูยังมุ่งเน้นการสร้างศูนย์วิจัยระดับสูงร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น ศูนย์นวัตกรรมชิปเซมิคอนดักเตอร์จากมหาวิทยาลัยชิงหัว (Xinhua Innovation Center (Beijing Center)) ที่จะช่วยเพิ่มพูนผลักดันการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภาคการวิจัยและอุตสาหกรรม

การสร้างแพลตฟอร์มการทดสอบและการสนับสนุนการแปลงผลงานวิจัยเป็นธุรกิจ

ในปี ๒๕๖๗ นครเฉิงตูได้ประกาศให้การแปลงผลงานวิจัยเป็นการลงทุนเชิงพาณิชย์เป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของเมือง โดยมีการพัฒนาศูนย์ทดลองและแพลตฟอร์มการสร้างสรรค์ต่าง ๆ ที่มุ่งหวังจะช่วยให้ผลงานวิจัยกลายเป็นผลผลิตทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นได้จริง ศูนย์ต่าง ๆ ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อช่วยในการแปลงผลงานวิจัยจาก “แนวคิด” ไปสู่ “การผลิต” ในอุตสาหกรรม

นครเฉิงตูในปัจจุบันกำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วในการพัฒนาและปรับปรุงทั้งการศึกษา วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม พร้อมทั้งพัฒนาแพลตฟอร์มที่สามารถรองรับการแปลงผลงานวิจัยไปสู่การปฏิบัติการผลิตจริง เพื่อสร้างศูนย์กลางนวัตกรรมที่มีอิทธิพลในระดับประเทศ

โอกาสของไทยในการเรียนรู้และนำไปต่อยอด การพัฒนาและผลสำเร็จของนครเฉิงตูในด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ประเทศไทยสามารถนำมาปรับใช้ในหลาย ๆ ด้าน อาทิ การสร้างแพลตฟอร์มการวิจัยและการพัฒนานวัตกรรมที่เชื่อมโยงกับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยชั้นนำ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาผลงานวิจัยและการแปลงผลงานเหล่านั้นสู่การผลิตและการพาณิชย์อย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างศูนย์วิจัยระดับสูงและการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมหรือหุ่นยนต์ สามารถช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางเทคโนโลยีของประเทศและสนับสนุนการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่มีมูลค่าสูง นอกจากนี้ การพัฒนาแพลตฟอร์มสนับสนุนการแปลงผลงานวิจัยเป็นธุรกิจจริงและการจัดตั้งศูนย์วิจัยที่มีความเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมก็สามารถทำให้ประเทศไทยมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตของนวัตกรรม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีสูง นอกจากนี้ การมีโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถสนับสนุนการสร้างสรรค์ผลงานวิจัยใหม่ ๆ และการสร้างการเชื่อมโยงระหว่างภาคการศึกษากับภาคธุรกิจจะช่วยให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงนวัตกรรมที่มีความสามารถในการแข่งขันได้ในระดับโลก


[๑] เทคโนโลยีคลัสเตอร์ (Science and Technology Cluster) คือ การรวมตัวของธุรกิจ มหาวิทยาลัย และสถาบันวิจัยในพื้นที่เดียวกัน เพื่อส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยการแลกเปลี่ยนความรู้และทรัพยากรระหว่างกัน ช่วยให้เกิดการวิจัย การผลิต และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ซึ่งทำให้การแข่งขันและการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในพื้นที่นั้น ๆ มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

ที่มา: เข้าถึงข้อมูลวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๗
๑. http://sc.people.com.cn/n2/2024/1107/c379471-41033577.html
๒. http://sc.people.com.cn/BIG5/n2/2024/1111/c345167-41037348.html
๓. https://cdst.chengdu.gov.cn/cdkxjsj/c108732/2024-11/07/content_9382136f80a74c9aa373488815291bc4.shtml
ที่มารูปภาพ:
๑. 699pic.com

นครเฉิงตูติดอันดับที่ ๘เมืองที่มีความสามารถในการแข่งขันด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีของจีนปี ๒๕๖๗

Chengdu_editor

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน