บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่จีนมุ่งพัฒนาน้ำมันบริเวณขั้วโลกเหนือ
20 Jun 2013จีนกำลังขยายธุรกิจน้ำมันของตนที่เขตอาร์กติด ซึ่งอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ โดยบริษัท China Petrochemical Corporation (Sinopec Group) บริษัทน้ำมันปิโตรเลียมที่ใหญ่อันดับที่ 2 ของจีนกำลังเข้าร่วมธุรกรรมการค้นหาและการพัฒนาน้ำมันปิโตรเลียมที่พื้นที่ในบริเวณขั้วโลกเหนือ
นสพ. China Daily ได้เสนอข่าวว่า บริษัท Sinopec อยู่ระหว่างเจรจากับประเทศไอซ์แลนด์ในเรื่องการพัฒนาน้ำมันปิโตรเลียมในพื้นที่แถวชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไอซ์แลนด์ เนื่องจากบริษัท Sinopec กับรัฐบาลประเทศไอซ์แลนด์มีความร่วมมือด้านพลังงานความร้อนใต้พื้นอยู่แล้ว ดังนั้น ทั้ง 2 ฝ่ายอาจขยายความร่วมมือด้านน้ำมันปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติต่อไปในอนาคตได้ ในปี 2555 นายฝู้ เฉิงยุ่ว ประธานกรรมการของบริษัท Sinopec และนาย Haukur Harearson ประธานกรรมการของบริษัท Orka Energy Holding Ehf ได้ลงนามร่วมกันในกรอบความตกลงด้านการพัฒนาพลังงานความร้อนใต้พื้น โดยมีนายกรัฐมนตรีของทั้ง 2 ประเทศเป็นสักขีพยาน ทั้ง 2 บริษัทดังกล่าวได้ร่วมก่อตั้งบริษัท Sinopec Green Energy Geothermal Development Co.,Ltd ในปี 2549
บริษัท China National Offshore Oil Corporation (CNOOC) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันปิโตรเลียมทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดของจีน ถือว่าเป็นบริษัทน้ำมันปิโตเลียมแห่งแรกของจีนที่บุกทรัพยากรน้ำมันปิโตรเลียมในเขตอาร์กติด โดยร่วมมือกับบริษัท Eykon Energy ที่เป็นบริษัทไอซ์แลนด์เพื่อได้รับใบอนุญาตการพัฒนาน้ำมันปิโตรเลียมที่ประเทศไอซแลนด์
บริษัท Sinopec บุกพัฒนาน้ำมันปิโตรเลียมที่ต่างประเทศช้ากว่าบริษัท CNOOC และบริษัท China National Petroleum Corp. ซึ่งเป็นบริษัทผลิตน้ำมันปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของจีน
ในอดีตบริษัท Sinopec ให้ความสำคัญในเขตตะวันออกกลาง ประเทศรัสเซียและทวีแอฟรีกาเป็นหลักแต่ปัจจุบันก็เริ่มเล็งเห็นศักยภาพของทรัพยากรในเขตอาร์กติดแล้ว โดยนักวิทยศาสตร์ชี้ว่า ปริมาณน้ำมันปิโตรเลียมและก็าซธรรมชาติในเขตอาร์ติดได้ครองสัดส่วนร้อยละ 13 และ 30 ของปริมาณที่มีทั้งหมดในโลก
เมื่อวันที่ 15 พ.ค.56 จีนได้รับการคัดเลือกเป็นผู้สังเกตการณ์ของสภาขั้วโลกเหนือ (Arctic Council) ซึ่งแม้ว่าจีนไม่มีสิทธิในการตัดสินใจ แต่สามารถให้คำชี้แจงในนโยบายการเงินของสภาขั้วโลกเหนือได้
ในขณะเดียวกัน การพัฒนาน้ำมันที่เขตอาร์กติดของจีนก็ประสบอุปสรรคไม่น้อย อาทิ ต้นทุนการค้นหาและขุดน้ำมันปิโตรเลียมที่เขตอาร์กติดสูงมากเมื่อเทียบกับในพื้นที่อื่น การค้นหาและขุดน้ำมันปิโตรเลียมที่เขตอาร์กติดต้องการเทคโนโลยีชั้นสูง นอกจากนี้ โครงการการพัฒนาน้ำมันปิโตรเลียมที่เขตอาร์กติกอาจประสบอุปสรรคจากการขัดขวางขององค์กรการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ดี รัฐบาลประเทศไอซ์แลนด์ก็ได้เล็งเห็นผลประโยชน์ในการพัฒนาน้ำมันปิโตรเลียม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศไอซ์แลนด์ได้ประสบวิกฤติทางการเงินที่รุนแรงในปี 2551 ทำให้รัฐบาล
ไอซ์แลนด์ต้องการการลงทุนจากต่างประเทศเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ส่วนบริษัทน้ำมันปิโตรเลียมของจีนก็มีแนวโน้มลงทุนในพื้นที่ที่มีความปลอดภัยมากขึ้นเพื่อความมั่นคงทางพลังงานของจีน