จีนประกาศเมืองสาธิตธุรกิจ E-commerce เพิ่ม 17 เมือง เร่งพัฒนาแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่
6 Jan 2017เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2560 ทางการจีนประกาศเพิ่มเมืองสาธิตธุรกิจ E-commerce อีก 17 เมืองได้แก่ นครไห่ไข่ว(มณฑลไห่หนาน) นครซีหนิง(มณฑลชิงไห่) นครอูรุมฉี(เขตปกครองตนเองซินเจียง) เมืองต้าเหลียน(มณฑลเหลียวหนิง) เมืองปาวโถว(มณฑลซานซี) เมืองหานตาน(มณฑลเหอเป่ย) เมืองหูหลูต่าว(มณฑลเหลียวหนิง) เมืองต้าฉิ้ง(มณฑลเฮยหลงเจียง) เมืองเหอเจ๋อ(มณฑลซานตง) เมืองเชินโจว(มณฑลหูหนาน) เมืองเหมียนหยาง(มณฑลเสฉวน) เมืองโถงเหริน(มณฑลกุ้ยโจว) เมืองยิ่วซี(มณฑลยุนนาน) เมืองป่าวจี(มณฑลส่านซี) เมืองหล่งหนาน(มณฑลกานซู่) เมืองอู๋จง(เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ย)และเมืองอู่เจียฉิว(เขตปกครองตนเองซินเจียง) โดยเมืองดังกล่าวเป็นเมืองที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ล้าหลัง โดยก่อนหน้านี้ จีนได้ประกาศเมืองสาธิตธุรกิจ E-commerce จำนวน 53 เมืองซึ่งส่วนใหญ่เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่
เมืองสาธิตธุรกิจ E-commerce ทั้ง 17 เมือง จะพัฒนาสิ่งแวดล้อมและกฎระเบียบสำหรับธุรกิจ E-commerce ให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับธุรกิจ E-commerce รวมทั้งการพัฒนารูปแบบธุรกิจ E-commerce เชิงสร้างสรรค์ เพื่อยกระดับธุรกิจ/อุตสาหกรรมดั้งเดิม และส่งเสริมช่องทางการค้าให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น
ในวันเดียวกัน ทางการจีนได้ประกาศแผนการส่งเสริมธุรกิจ E-commerce ระยะเวลา 3 ปี (2559 – 2561) เพื่อพัฒนากลไกการบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐกว่า 30 หน่วยงาน และการดำเนินโครงการเฉพาะกิจเพื่อพัฒนาธุรกิจ E-commerce อาทิ การสร้างฐานข้อมูลของตลาดธุรกิจ E-commerce การปรับปรุงระบบศุลกากรและการตรวจสอบ การชำระเงินสำหรับธุรกิจ E-commerce ให้เป็นระบบเดียวกัน การส่งเสริมเขตชนบทที่ยากจนให้มีความร่วมมือกับบริษัท E-commerce เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ และเร่งร่างกฎหมายธุรกิจ E-commerce เป็นต้น
ทั้งนี้ ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2559 มูลค่าการค้าออนไลน์เติบโตที่ร้อยละ 25.7 จากช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยธุรกิจ E-commerce เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะภาคการบริโภค และทางการจีนให้ความสำคัญกับการส่งเสริมธุรกิจ E-commerce เพื่อส่งเสริมการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของจีน