ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หอการค้าอเมริกันในจีนตอนใต้ (The American Chamber of Commerce in South China: AmCham South China) เปิดตัวหนังสือ 2023 White Paper on the Business Environment in China พร้อมเผยผลการสำรวจ 2023 Special Report on the State of Business in South China ซึ่งในบทความนี้จะขอสรุปผลรายงานโดยสังเขปสองด้านด้วยกัน คือ การลงทุนในจีนและการอุปโภคบริโภคในจีน
ตลาดค้าปลีกจีนที่เดิมคาดว่าจะแซงหน้าสหรัฐอเมริกาและครองตำแหน่งตลาดค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดของโลกภายในไม่กี่ปีนั้น ปัจจุบันประสบความท้าทายครั้งใหญ่ ห้างและถนนคนเดินที่เดิมเคยคึกคักและพลุกพล่านไปด้วยนักท่องเที่ยว วันนี้กลับเจอกับบรรยากาศที่เงียบเหงาและในบางพื้นที่ไร้ผู้คน แต่ทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส สภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาได้กระตุ้นให้ชาวจีนบางกลุ่มเล็งเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจและประโยชน์ของการนำสินค้าฟุ่มเฟือยที่ครอบครองอยู่ โดยเฉพาะสินค้าแบรนด์เนม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า หรือนาฬิกา ฯลฯ มาจำหน่าย เพื่อนำเงินมาหมุนใช้ในช่วงเวลาที่คับขัน
เมื่อวันที่ 15 – 16 ธันวาคม การประชุม Central Economic Work Conference (CEWC) ประจำปี 2566 จัดขึ้น ณ กรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นการประชุมภายในระหว่างผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาลจีน เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจจีนในปัจจุบันและกำหนดแผนงานด้านเศรษฐกิจของจีนประจำปี 2566 สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
ในช่วงเดือน ม.ค. – ต.ค. 2565 มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของจีนอยู่ที่ 34.62 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในจำนวนดังกล่าว มูลค่าการค้าระหว่างจีน – อาเซียนอยู่ที่ 5.26 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.8 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15.2 ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศทั้งหมดของจีนในช่วงดังกล่าว ซึ่งอาเซียนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีน
บริษัทการค้าระหว่างประเทศของจีนได้รับใบสั่งซื้อใหม่จากอาเซียน สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกาคิดเป็นร้อยละ 30.6 ร้อยละ 30.55 และร้อยละ 25.29 ตามลำดับ
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์จีนชี้ว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2565 การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของจีนอยู่ที่ 8.93 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ครัวเรือนจีนที่มีรถยนต์คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 41.67 ของครัวเรือนทั้งหมดของจีน และร้อยละ 81.4 ของครัวเรือนที่มีรถยนต์เป็นรถยนต์ที่มีราคาต่ำกว่า 2 แสนหยวน
เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2565 สำนักงานการศุลกากรจีน (GACC) ประกาศปรับปรุงมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จากอาหารนำเข้าผ่านห่วงโซ่ความเย็น (cold chain) โดยจีนจะเพิ่มความเข้มงวดของการควบคุมความเสี่ยงของการติดเชื้อจากต้นทาง
ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2565 ODI ของจีน (ไม่รวมภาคการเงิน) มีมูลค่ารวม 2.87 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 และมีมูลค่าโครงการสัญญาในประเทศ (Foreign Contract Project) ตามเส้นทาง BRI 2.86 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 53.4 ของมูลค่าโครงการสัญญาทั้งหมดของจีนในต่างประเทศ
โลกปัจจุบันที่อินเทอร์เน็ตมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทำให้สังคมออนไลน์ของจีนเกิด “หว่างหง” หรือ “คนดังบนโลกออนไลน์” เพิ่มขึ้นจำนวนมาก และด้วยความนิยมและจำนวนผู้ติดตามที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้หว่างหงพัฒนาไปเป็นปัจจัยสำคัญทางเศรษฐกิจของจีน จนเกิดเป็นธุรกิจรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “เศรษฐกิจหว่างหง” พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์รูปแบบใหม่ที่มีวิธีการทางการตลาดที่แม่นยำและตรงกลุ่มเป้าหมาย สร้างเม็ดเงินจำนวนมหาศาลให้กับภาคธุรกิจจีน
ลิขสิทธิ์ © พ.ศ. 2556 ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง
