ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาครัฐบาลมณฑลจี๋หลินได้ http://www.jl.gov.cn/
ที่ตั้ง / ขนาดพื้นที่
มณฑลจี๋หลินมีพื้นที่ชายแดนติดกับต่างประเทศเป็นความยาว 1,438.7 กิโลเมตร ชายแดนที่ติดกับประเทศเกาหลีเหนือมีความยาว 1,206 กิโลเมตร และชายแดนที่ติดกับประเทศรัสเซียมีความยาว 232.7 กิโลเมตร นอกจากนี้ เมืองหุนชุนในมณฑลจี๋หลินมีระยะทางห่างจากทะเลญี่ปุ่นเพียง 15 กิโลเมตร มณฑลจี๋หลินมีพื้นที่ทั้งหมด 187,400 ตร.กม. คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 2 ของพื้นที่ทั้งประเทศ
ทรัพยากรสำคัญ
ทรัพยากรดิน
มณฑลจี๋หลินได้รับการสมญานามว่า “พื้นที่ดินดำ” มีทรัพยากรดินที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุ เหมาะสำหรับการเพาะปลูก ผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญของมณฑลได้แก่ ข้าวโพด ข้าว ถั่วเหลือง น้ำมันจากพืช ธัญพืชต่างๆ เป็นต้น
ทรัพยากรแร่
มณฑลจี๋หลินมีทรัพยากรแร่ทั้งหมด 89 ชนิด แร่ที่สำคัญได้แก่ Oil Shale, Diatomaceous, Wollastonite, Scoria เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีแหล่งทรัพยากรน้ำแร่ธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอยู่ในบริเวณภูเขาฉางไป๋ซาน
ทรัพยากรป่าไม้
มณฑลจี๋หลินมีพื้นที่ป่าไม้คิดเป็นร้อยละ 42.5 ของพื้นที่ทั้งมณฑล อุดมสมบูรณ์ทั้งพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ นับมณฑลที่มีความสำคัญด้านป่าไม้มณฑลหนึ่งของจีน โดยเฉพาะในเขตภูเขาฉางไป๋ซาน ซึ่งมีพันธุ์พืชที่หลากหลาย อาทิเช่น สนแดง ต้นโอ้ค ต้นหลิวน้ำ (Fraxinus mandshurica) เป็นต้น มณฑลจี๋หลินยังเป็นแหล่งสมุนไพรยาจีนที่สำคัญ โดยมีพืชที่สามารถใช้ทำยากว่า 1,850 ชนิด
ทรัพยากรน้ำ
มณฑลจี๋หลินมีทรัพยากรน้ำอุดมสมบูรณ์ แม่น้ำสายสำคัญในมณฑลได้แก่
ในเขตภูเขาฉางไป๋ซานมีทะเลสาบน้ำจืดบนภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน
มณฑลจี๋หลินยังมีผลิตผลจากธรรมชาติที่สำคัญอีกหลายชนิดที่สำคัญได้แก่ โสม เขากวาง เป็นต้น
ปัจจุบันมณฑลจี๋หลินเป็นแหล่งผลิตและส่งออกโสมที่ใหญ่สุดในประเทศจีน
ประวัติศาสตร์ / วัฒนธรรม
ชื่อมณฑลจี๋หลินได้ปรากฏในประวัติศาสตร์ครั้งแรกเมื่อในปี ค.ศ.1673 ในช่วงสมัยของ กษัตริย์คังซี ราชวงศ์ชิง ในเวลานั้นมีชื่อว่า จี๋หลินอูลา (吉林乌拉) ต่อมาในปี ค.ศ. 1907 สมัยของกษัตริย์กวงซู่ว์ ได้เปลี่ยนชื่อเป็นจี๋หลินและยกฐานะให้เป็นมณฑล ปกครองโดยการส่งแม่ทัพไปประจำการ ปี ค.ศ. 1931 หลังจากที่ญี่ปุ่นเข้ามารุกรานประเทศจีน จี๋หลินได้กลายเป็นดินแดนที่อยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น โดยใช้ชื่อว่า รัฐบาลแมนจูกั๋ว ญี่ปุ่นได้ประกาศยอมแพ้สงครามในปี ค.ศ. 1945 มณฑลจี๋หลินจึงกลับมาเป็นของประเทศจีนอีกครั้ง กลายเป็น 1 ใน 6 มณฑลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน
ข้อมูลประชากร
ปลายปี 2561 มณฑลจี๋หลินมีประชากรจำนวน 27.04 ล้านคน (ประชากรทั้งหมดที่อาศัยอยู่ภายในมณฑลจี๋หลินเป็นระยะเวลาครึ่งปีขึ้นไป)
เพิ่มขึ้นจากปลายปีที่แล้วร้อยละ 0.88 มีอัตราการเกิดของประชากรพันละ 6.62 อัตราการตายพันละ 6.26
นอกจากชนชาติฮั่นซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของมณฑลแล้ว มณฑลจี๋หลินยังมีประชากรที่เป็นชนชาติกลุ่มน้อยอีก 48 ชนชาติ ชนชาติที่สำคัญได้แก่ ชนชาติเกาหลี (เฉาเสี่ยน) แมนจู มองโกเลีย หุย และซีป๋อ โดยจำนวนประชากรที่เป็นชนกลุ่มน้อยคิดเป็นร้อยละประมาณ 9.15 ของประชากรทั้งมณฑล
สภาพภูมิอากาศ
เนื่องจากด้านทิศตะวันออกของมณฑลจี๋หลินใกล้กับทะเลหวงไห่และทะเลญี่ปุ่น จึงทำให้อากาศค่อนข้างชุ่มชื้น และมีปริมาณน้ำฝนมาก ส่วนพื้นที่ด้านตะวันตกอยู่ห่างจากทะเล แต่ใกล้กับที่ราบสูงมองโกลซึ่งอากาศค่อนข้างแห้งแล้ง
ส่งผลให้มณฑลจี๋หลินมีความแตกต่างระหว่างฤดูทั้ง 4 ฤดูอย่างชัดเจน คือ
การแบ่งพื้นที่เขตปกครอง
มณฑลจี๋หลินแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 8 เมือง และ 1 เขตปกครองตนเอง ได้แก่
รูปแบบการปกครองมณฑลจี๋หลิน
Agriculture Commission | Audit Department |
Civil Affairs Department | Commerce Department |
Communications Department | Construction Department |
Culture Department | Development and Reform Commission |
Economic Commission | Education Department |
Environmental Protection Bureau | Ethnic Affairs Commission |
Finance Department | Food and Drug Administration |
Foreign Affairs Office (Overseas Chinese Affairs Office) | Forestry Department |
Grain Bureau | Health Department |
Industry and Commerce Administration | Information Industry Department |
Justice Department | Labour and Social Security Department |
Land and Resources Department | Legislative Affairs Office |
Local Taxation Bureau | Personnel Department |
Population and Family Planning Commission | Press and Publication Bureau |
Provincial General Office | Quality and Technical Supervision Bureau |
Radio, Film and Television Bureau | Restructuring Economic System Office |
Science and Technology Department | Sport Bureau |
State-owned Assets Supervision and Administration Commission | Statistics Bureau |
Tourism Bureau | Water Resources Department |
ที่มา : http://www.chinaknowledge.com/
เลขาธิการพรรคฯ
ผู้ว่าการมณฑล
ปธ.สภาผู้แทน ปชช.
ปธ.สภาที่ปรึกษาการเมือง
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาครัฐบาลมณฑลจี๋หลินได้ http://www.jl.gov.cn/
1. นครฉางชุน
นครฉางชุนเป็นเมืองอุตสาหกรรมรถยนต์ที่สำคัญ นับเป็นแหล่งผลิตรถยนต์และรถบรรทุกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติรายสำคัญที่เข้ามาลงทุนได้แก่ Volkswagen, Audi, Toyota เป็นต้น
และยังมีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในจีนเองที่เข้ามาลงทุนได้แก่ หงฉี เจี่ยฟั่ง เซี่ยลี่ เป็นต้น โดยหลายปีที่ผ่านมา นครฉางชุนพยายามที่จะรักษาระดับการพัฒนาของอุตสาหกรรมรถยนต์ให้คงที่ ขณะเดียวกันก็พัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตรกรรม และอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีสูงไปพร้อมกัน เพื่อพัฒนาให้เป็น 3 อุตสาหกรรมหลักของนครฉางชุน
2. เมืองจี๋หลิน
เมืองจี๋หลินเป็นเมืองที่มีความโดดเด่นทางภูมิศาสตร์
ลักษณภูมิประเทศจะลาดเอียงจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ไปสู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ โดยสามารถแบ่งพื้นที่ตามลักษณะภูมิประเทศได้ดังนี้
เขตพื้นที่ภูเขาจงซาน อยู่ทางทิศตะวันออกและทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองจี๋หลิน เป็นเขตป่าไม้ที่สำคัญของเมืองจี๋หลิน เขาฉางไป๋ซาน เขาหนานโหลว เทือกเขาหลงกั่ง และอีกหลายเขาก็อยู่ในเขตนี้ โดยในเขตมียอดเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตรขึ้นไปจำนวน 110 ยอดเขา ยอดที่สูงที่สุดสูง 1,407.8 เมตร
เขตทิวเขาตีซาน ยอดเขาในเขตนี้ส่วนใหญ่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลระหว่าง 300-400 เมตร มีจำนวนน้อยที่สูงถึง 600-700 เมตร เป็นเขตที่ได้รับการพัฒนาเป็นเขตแรกๆ ทำให้พื้นที่ป่าในเขตลดน้อยลง โดยเป็นพื้นที่เกษตรกรรมหลายด้าน ทั้งด้านการเพาะปลูก ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง และเหมืองแร่
เขตหุบเขาเสียกู่ เป็นเขตสถานีผลิตไฟฟ้าพลังน้ำเฟิงหม่าน มีทัศนียภาพสวยงาม เป็นเขตสำคัญในการผลิตพลังงาน เขตประมง เขตท่องเที่ยว และเขตพัฒนาเศรษฐกิจ
เขตพื้นที่ราบเหอกู่ เป็นเขตที่มีแม่น้ำซงฮัวไหลผ่านและแตกแยกออกเป็นหลายสาย มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 170-220 เมตร เป็นเขตที่ดินมีแร่ธาตุอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นเขตเพาะปลูกที่สำคัญที่สุดของเมือง
1.เขตพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงฉางชุน
(Changchun National High-Technology Industry Development Area)
ตั้งขึ้นเมื่อปี 2534 เป็นเขตพัฒนาระดับประเทศ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของนครฉางชุน มีเนื้อที่ 78.6 ตร.กม. อุตสาหกรรมหลักในเขตนี้ได้แก่ อุตสาหกรรมชีววิทยาและเวชภัณฑ์ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ อุตสาหกรรม Photonics Technology และอุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์สมัยใหม่
ปัจจุบัน มีวิสาหกิจทั้งจากในและต่างประเทศเข้ามาลงทุนรวมมากกว่า 2,200 ราย เป็นวิสาหกิจด้านเทคโนโลยีชั้นสูงเกือบ 800 ราย และมีทุนจากประเทศต่างๆ รวมกว่า 29 ประเทศ เข้ามาลงทุน ที่สำคัญอาทิ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เป็นต้น
2. เขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีฉางชุน
(Changchun Economic & Technological Development Zone)
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของนครฉางชุนมีการคมนาคมขนส่งที่สะดวก ห่างจากสถานีส่งสินค้าทางรถไฟเพียง 2 กม. ห่างจากท่าเรือต้าเหลียน ประมาณ 6 ชั่วโมง (ทางรถยนต์) ห่างจากสนามบินนานาชาติฉางชุนหลงเจีย (Changchun Longjia International Airport) 26 กม. และมีทางด่วนฉางชุน-ต้าเหลียน ฮาร์บิน-ต้าเหลียน และฉางชุน-จี๋หลิน ผ่านเขตพัฒนานี้ด้วย มีพื้นที่ประมาณ 50 ตร.กม.
ปัจจุบัน มีวิสาหกิจทั้งจากในและต่างประเทศเข้ามาลงทุนรวมมากกว่า 4,800 ราย เป็นบริษัทร่วมทุนจากต่างประเทศ 495 ราย เป็นบริษัทในประเทศ 3,541 ราย
3. เขตพัฒนาเศรษฐกิจฉางชุนจิงแย่
(Changchun Jingyue Economic Development Zone)
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของนครฉางชุน ห่างจากใจกลางเมืองฉางชุน 18 กม. ห่างจากสถานีรถไฟฉางชุน 16 กม. และห่างจากสนามบินนานาชาติฉางชุนหลงเจีย (Changchun Longjia International Airport) 29 กม. อุตสาหกรรมหลักในเขตคืออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ภายในเขตมีทรัพยากรธรรมชาติหลากหลาย มีทิวทัศน์สวยงามเหมาะแก่การท่องเที่ยว เป้าหมายคือการพัฒนาให้กลายเป็นเขตท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและให้มีมาตรฐานระดับประเทศ โดยไม่เพียงแต่เน้นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ เขตพัฒนาฯ ดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะพัฒนาให้เป็นศูนย์การท่องเที่ยวและพักผ่อนครบวงจร
4. เขตพัฒนาอุตสาหกรรมชั้นสูงจี๋หลิน
(Jilin National Hi – tech Industrial Development Zone)
เขตพัฒนาอุตสาหกรรมชั้นสูงจี๋หลิน ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2535 มีเนื้อที่ทั้งหมด 11.18 ตร.กม. เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจที่เน้นอุตสาหกรรม 6 ประเภท ได้แก่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์การแพทย์ อุตสาหกรรมชีวภาพ อุตสาหกรรมวัสดุใหม่ และอุตสาหกรรมการบริการแบบทันสมัย ซึ่งได้ตั้งเป้ามูลค่าการผลิตจะสูงถึง 200,000 ล้านหยวนภายในปี 2563
สิ้นปี 2557 มณฑลจี๋หลินมีความยาวของเส้นทางรถไฟทั่วทั้งมณฑลรวมกัน 4,345 กิโลเมตร โดยมีนครฉางชุนเป็นศูนย์กลาง และเมืองจี๋หลิน เมืองซี่ผิง เมืองไป๋เฉิง เมืองเหมยเหอโข่วเป็นจุดสำคัญในการกระจายเส้นทางไปยังเมืองสำคัญต่างๆ ทั่วประเทศจีน อาทิเช่น ฮาร์บิน เสิ่นหยาง ต้าเหลียน ปักกิ่ง เทียนจิน ซีอาน สือเจียจวง อู่ฮั่น จี้หนาน หนานจิง หนานจิง กวางโจว เซี่ยงไฮ้ เป็นต้น
สิ้นปี 2557 มณฑลจี๋หลินมีความยาวของทางหลวงรวม 96,000 กิโลเมตร ในจำนวนนี้เป็นทางด่วน 2,348 กิโลเมตร ปัจจุบัน มณฑลจี๋หลินมีเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสำคัญ 3 สาย ได้แก่
เส้นทางทางน้ำ
มณฑลจี๋หลินมีท่าเรือ (แม่น้ำ) ทั้งหมด 5 ท่าเรือ มีศักยภาพในการรองรับสินค้าประมาณ 1.8 ล้านตันต่อปี แม่น้ำสายหลักในการขนส่งสินค้าและคมนาคมได้แก่ แม่น้ำเนิ่น แม่น้ำซงฮัว แม่น้ำถูเหมิน และแม่น้ำยาลู่ โดยช่วงกลางเดือนเมษายน-ปลายเดือนพฤศจิกายนของทุกปีจะเป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการเดินเรือในแม่น้ำ โดยสามารถขนส่งสินค้าไปเข้าท่าเรือบางท่าในรัสเซียได้ และยังสามารถขนส่งสินค้าออกไปยังทะเลญี่ปุ่นผ่านแม่น้ำในมณฑลได้ด้วย
เส้นทางทางอากาศ
มณฑลจี๋หลินมีสนามบินทั้งหมด 5 แห่ง ได้แก่
โดยมีสายการบินที่บินตรงถึงประเทศเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฮ่องกง สำหรับสนามบินนครฉางชุน ในปี 2557 ได้รองรับจำนวนผู้โดยสาร 7,420,000 คน และสามารถรองรับสินค้าได้ 79,918 ตันต่อปี ส่วนสนามบินต้าฟางเฉิงซึ่งแต่เดิมเป็นสนามบินที่ใช้สำหรับกิจการทหาร และต่อมาได้ปรับให้เป็นสนามบินสำหรับภาคพลเรือน ก็ได้เพิ่มความสามารถในการรองรับจำนวนผู้โดยสารมากขึ้น
1) แผนงาน/เป้าหมายตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีน ฉบับที่ 12 (ค.ศ. 2011 – 2015)
2) แผนงาน/เป้าหมายประจำปี ค.ศ. 2015
รัฐบาลจี๋หลินให้ความสำคัญในการส่งเสริมบริษัทต่างประเทศลงทุนในสาขาอุตสาหกรรม ดังนี้
ส่วนนโยบายส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ รายละเอียดดังนี้ http://www.jl.gov.cn/tzjl/tzzc/201103/t20110331_970005.html
** ข้อมูลที่จัดทำขึ้นมาจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และถือเป็นลิขสิทธิ์การจัดทำ ของศูนย์ข้อมูล เพื่อธุรกิจไทยในจีน ซึ่งท่านสามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ต่อได้ ในลักษณะที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้โปรดอ้างอิง “ศูนย์ข้อมูลเพื่อ ธุรกิจไทยในจีน www.wordpress-348433-3180049.cloudwaysapps.com” ทุกครั้ง เมื่อมีการนำข้อมูลไปใช้ต่อ
** อนึ่ง โปรดใช้วิจารณญาณในการนำข้อมูลไปใช้ ซึ่งเนื้อหาทั้งหมดมาจาก การวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่เท่านั้น ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีนซึ่งเป็นผู้จัดทำ ไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการนำข้อมูลไปใช้ต่อ และ ข้อมูลดังกล่าวไม่ถือเป็นการให้ความเห็นหรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใด
ลิขสิทธิ์ © พ.ศ. 2556 ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง