แผนการเปิดพื้นที่ตอนในและชายแดน “เส้นใต้-เส้นเหนือ-เส้นกลาง” ชัดเจนขึ้น สร้างระเบียงเศรษฐกิจทางบกสู่ภายนอก
26 Nov 2013ในสาระสำคัญของ "ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการปฏิรูปเชิงลึกที่ครอบคลุม" ที่จีนประกาศหลังจากการประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ชุดที่ 18 ครั้งที่ 3 มีการระบุว่า จีนจะ “เร่งเปิดชายแดนสู่ภายนอก โดยอนุมัติให้ด่านสำคัญ เมืองชายแดนและเขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจใช้นโยบายหรือรูปแบบพิเศษในการไปมาหาสู่กัน การค้าแปรรูป โลจิสติกส์ การท่องเที่ยวและอื่นๆ”
ทั้งนี้ การเปิดพื้นที่จีนตอนในจะอาศัยเส้นทางสายไหม เพื่อสร้างระเบียงเศรษฐกิจระหว่างประเทศทางบกและช่องทางขนส่งพลังงานระหว่างประเทศใน “เส้นใต้-เส้นเหนือ-เส้นกลาง” ได้แก่
(1) เส้นทางด้านใต้ อาศัยเส้นทางรถไฟหนานเจียง (南疆铁路) และทางหลวงเบอร์ 314 เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนในแถบเศรษฐกิจ Korla – Aksu และเมือง Kashgar พร้อมไปกับการผลักดันสร้างระเบียงเศรษฐกิจระหว่างประเทศและช่องทางขนส่งพลังงานไปยังเอเชียตะวันตกและเอเชียใต้
(2) เส้นทางด้านเหนือ อาศัยเส้นทางรถไฟขุยเป่ย (奎北铁路) และการสร้างด่านชายแดนต่างๆ เพื่อผลักดันสร้างระเบียงเศรษฐกิจระหว่างประเทศและช่องทางขนส่งพลังงานระหว่างประเทศจากภาคเหนือของซินเจียงไปยังรัสเซียและมองโกเลีย
(3) เส้นทางภาคกลาง อาศัยเส้นทางรถไฟหลงไห่หลันซิน (陇海兰新铁路) เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของเมืองชายแดนต่างๆ (อย่างเมืองยีหนิง) สู่ภายนอก พร้อมกับผลักดันสร้างระเบียงเศรษฐกิจระหว่างประเทศและช่องทางขนส่งพลังงานระหว่างประเทศโดยผ่านคาซัคสถานไปยังยุโรป
ที่ผ่านมาจีนได้ใช้นโยบายพิเศษทดลองสร้างเขตเศรษฐกิจชายแดนในหลายๆ เมืองแล้ว อาทิ เขตพัฒนาเศรษฐกิจ Kashgar และเขตพัฒนาเศรษฐกิจ Khorgas ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ นอกจากนี้ จีนยังได้สร้างตลาดการค้าชายแดนและนิคมอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าส่งออกที่ Alashankou และ Tacheng
นักวิเคราะห์เห็นว่า การเร่งพัฒนาชายแดนของจีนควรให้ความสำคัญกับสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ปรับปรุงเส้นทางรถไฟและทางหลวงข้ามชาติ ตลอดจนเพิ่มการลงทุนต่อเขตชานแดนและการค้าชายแดน