เมืองจิ่งเต๋อเจิ้น – “เมืองแห่งเซรามิกของจีน” ตั้งเป้าหมายในการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเซรามิกที่มีชื่อเสียงระดับโลก
5 Jan 2021โดยศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีนประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน
จีนมีเมืองโบราณที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของการผลิตเซรามิกทั้งหมด 4 แห่ง ได้แก่ เมืองฝอซานของมณฑลกวางตุ้ง เมืองเต๋อฮว่าของมณฑลฝูเจี้ยน เมืองจูโจวของมณฑลหูหนาน และเมืองจิ่งเต๋อเจิ้นของมณฑลเจียงซี ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งเซรามิกของจีน” และเป็นเมืองแห่งการผลิตเครื่องเคลือบเซรามิกที่มีชื่อเสียงระดับโลกตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นจนถึงปัจจุบัน
อุตสาหกรรมเซรามิกเป็นอุตสาหกรรมหลักของเมืองจิ่งเต๋อเจิ้นมาโดยตลอด โดยในปี 2562 อุตสาหกรรมเซรามิกของเมืองจิ่งเต๋อเจิ้นมีมูลค่าการผลิตกว่า 4.23 หมื่นล้านหยวน คิดเป็นร้อยละ 45.7 ของมูลค่า GDP ทั้งเมืองจิ่งเต๋อเจิ้น ปัจจุบัน จิ่งเต๋อเจิ้นมีวิสาหกิจในสาขาการผลิตเซรามิกมากกว่า 3,000 แห่ง และผู้ประกอบการที่จำหน่ายเซรามิกทางอีคอมเมิร์ชอีกเกือบ 10,000 แห่ง ในปี 2562 เมืองจิ่งเต๋อเจิ้นมีการส่งออกเครื่องเคลือบเซรามิกกว่า 368,300 ตัน คิดเป็นมูลค่าส่งออกเท่ากับ 989 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ปัจจุบัน เมืองจิ่งเต๋อเจิ้นเน้นผลิตเครื่องเคลือบเซรามิกในหลากหลายรูปแบบ เช่น ของใช้ในชีวิตประจำวัน ผลงานศิลปะ วัสดุเซรามิกเพื่อการก่อสร้าง และเครื่องสุขภัณฑ์ เป็นต้น รัฐบาลท้องถิ่นตั้งเป้าหมายในการพัฒนาเขตนำร่องการสืบทอดวัฒนธรรมและนวัตกรรมทางเซรามิกให้สำเร็จภายในปี 2568 และพัฒนาเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเซรามิกที่มีชื่อเสียงระดับโลก และศูนย์กลางแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและความร่วมมือทางเซรามิกระหว่างประเทศภายในปี 2578
โอกาสของไทย แม้ว่าแนวโน้มตลาดจำหน่ายเซรามิกภายในประเทศไทยมีแนวโน้มชะลอตัวจากภาวะซบเซาของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภายหลังเกิดสถานการณ์โควิด-19 แต่คาดว่าในปี 2564-2565 ความต้องการวัสดุก่อสร้างจะทยอยฟื้นตัวจากแรงกระตุ้นของการลงทุนในโครงการก่อสร้างของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งจะช่วยส่งผลให้ตลาดจำาหน่ายวัสดุก่อสร้างเซรามิคขยายตัวได้อีกครั้ง ทั้งนี้ ผู้ผลิตเซรามิคของไทยต้องเร่งพัฒนาทั้งรูปแบบและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสินค้าเซรามิคไทยเพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดในต่างประเทศ โดยเฉพาะเซรามิคเพื่อการก่อสร้างที่อยู่อาศัย จากสัญญาณปริมาณการส่งออกที่ลดลงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จากการที่ประเทศคู่ค้าหลัก ได้แก่ ลาวและกัมพูชา ซึ่งเป็นตลาดส่งออกอันดับ 2 และ 3 ในผลิตภัณฑ์กระเบื้องเซรามิคของไทยเลือกนำเข้าสินค้าราคาถูกจากจีนแทน
*******
แหล่งอ้างอิง http://www.chyxx.com/industry/202007/885610.html
https://www.financialnews.com.cn/cul/whdt/201911/t20191101_170461.html
http://www.jdz.gov.cn/xxgk/050025/20200609/8ee49bba-9889-498d-be22-21270e2fb707.html