บทความน่ารู้: รายงานตัวเลขการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมโดยภาพรวมของนครเฉิงตู ประจำปี 2555

8 May 2013

แม้ว่าเศรษฐกิจนครเฉิงตูจะได้รับความกดดันจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทว่าภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจของนครเฉิงตูในปี 2555 นั้นยังคงสดใส สะท้อนให้เห็นจากตัวเลข GDP ตลอดปีที่มีมูลค่าสูงถึง 813,890 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 13.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2554



กราฟแสดงมูลค่า GDP ของนครเฉิงตูและอัตราการเติบโต ตั้งแต่ปี 2551-2555

ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมทั้ง 3 ของนครเฉิงตูเติบโตขึ้นเช่นกันนั้น แบ่งเป็นภาคอุตสาหกรรมปฐมภูมิมีมูลค่าที่ 34,810 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 3.8% ภาคอุตสาหกรรมทุติยภูมิมีมูลค่าที่ 379,060 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 15.6% นับว่าเติบโตมากที่สุด และสุดท้ายภาคอุตสาหกรรมตติยภูมิมีมูลค่าที่ 400,030 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 11.5%

ในภาคเกษตรกรรมของนครเฉิงตูปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่ไม่มากนักโดยมีมูลค่าอยู่ที่ 57,780 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกับปี 2554 โดยในภาคการเพาะปลูกมีมูลค่าทั้งสิ้น 29,400 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 5.2% และภาคปศุสัตว์มีมูลค่า 24,460 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 1.1%

ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตของนครเฉิงตูตลอดปี 2555 ในภาพรวมนับว่ามีการเติบโตอย่างโดดเด่นโดยมีมูลค่าการผลิตรวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 314,960 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 16.5% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันกับปี 2554

สำหรับภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของนครเฉิงตูมีมูลค่าการผลิตอยู่ที่ 258,900 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 17.2% โดยเมื่อแยกพิจารณาการผลิตในรายกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สำคัญของนครเฉิงตู ได้แก่ ผลิตภัณฑ์สารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรกล ยานยนต์ ปิโตรเคมี ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ยาสูบ โลหะ/วัสดุก่อสร้าง และอื่นๆ พบว่า มีมูลค่ารวมสูงถึง 211,830 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 18.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปี 2554 โดยครองสัดส่วนการผลิตในภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทั้งหมดของนครเฉิงตูมากถึง 81.8% อีกทั้งในส่วนของภาคอุตสาหกรรมเบาของนครเฉิงตูก็มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นที่ 11.2% และภาคอุตสาหกรรมหนักก็มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วเช่นกันที่ 20.4% แสดงให้เห็นว่า “วิสาหกิจในด้านอุตสาหกรรมการผลิตในนครเฉิงตูมีศักยภาพการผลิตสูงถึง 98.7%”



แผนภูมิวงกลมแสดงการเปรียบเทียบสัดส่วน การผลิตในรายกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สำคัญของนครเฉิงตู

ภาคการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในนครเฉิงตูตลอดปี 2555 มีมูลค่าอยู่ที่ 589,010 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 17.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปี 2554 โดยเป็นการลงทุนจากภาคเอกชนคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 362,410 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 15.0%

สำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรที่เกิดขึ้นใหม่ในปีเดียวกันมีมูลค่าทั้งสิ้น 359,190 ล้านหยวน แบ่งเป็นการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมปฐมภูมิมูลค่า 5,480 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นมากที่สุดถึง 40.1% ภาคอุตสาหกรรมทุติยภูมิมูลค่า 177,130 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นถึง 17.5% (ซึ่งในจำนวนนี้เป็นการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการผลิตถึง 175,010 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 16.4%) ภาคอุตสาหกรรมตติยภูมิมูลค่า 406,400 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 17.4%

ตารางแสดงปริมาณการผลิตสินค้าหลักของวิสาหกิจภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของนครเฉิงตู

รายการ

ปริมาณการผลิต

หน่วย

เทียบกับปีที่ผ่านมา (%)

เบียร์

494,000

กิโลลิตร.

2.1

เหล้าขาว

134,000

กิโลลิตร

17.8

มวนยาสูบ

97,890

ล้านมวน

3.7

เฟอร์นิเจอร์

6,555,000

ชิ้น

-0.2

เครื่องซักผ้า

316,000

เครื่อง

13.9

ตู้เย็น

689,000

เครื่อง

2.8

ยาสมุนไพรจีน

27,000

ตัน

7.0

ยาเคมี

23,000

ตัน

27.3

เหล็ก

4,175,000

ตัน

8.3

ปูนซีเมนต์

1,4681,000

ตัน

3.2

ยานยนตร์

392,000

คัน

152.1

กระจกแผ่นเรียบ

34,111,000

Weight case

-0.1

โซล่าเซลล์

627,000

กิโลวัตต์

21.6

เครื่องยนต์

3,069,000

กิโลวัตต์

7.8

ปริมาณการผลิตไฟฟ้า

13,950,000,000

กิโลวัตต์-ชั่วโมง

3.2

สายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง

8,855,000

เดซิเบล/กิโลเมตร

33.4

เครื่องคอมพิวเตอร์

43,845,000

10,000 เครื่อง

86.0

ด้านการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเฉพาะในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ในนครเฉิงตูตลอดปี 2555 มีมูลค่าอยู่ที่ 189,000 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 18.5% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันกับปี 2554 โดยเป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ที่สามารถจำหน่ายออกไปได้แล้วล่วงหน้าถึง 28.452 ล้าน ตร.ม เพิ่มขึ้น 4.9% คิดเป็นมูลค่าจริงทั้งสิ้น 206,990 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 14.3% ในจำนวนนี้แบ่งเป็นประเภทอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยที่สามารถจำหน่ายออกไปได้เป็นพื้นที่ 24.277 ล้าน ตร.ม.เพิ่มขึ้น 4.6% คิดเป็นมูลค่าจริงทั้งสิ้น 161,890 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 10.6%



กราฟแสดงมูลค่าการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเฉพาะในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ในนครเฉิงตู และอัตราการเติบโต ตั้งแต่ปี 2551-2555

ด้านการค้าปลีกในนครเฉิงตูตลอดปี 2555 มีมูลค่า 331,770 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 16.0% เมื่อเทียบจากปี 2554 เมื่อพิจารณาแยกประเภทจะเห็นได้ว่า นครเฉิงตูมีมูลค่าค้าปลีกในภาคธุรกิจค้าส่งทั้งสิ้น 19,500 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 16.9% และมีมูลค่าค้าปลีกในภาคธุรกิจค้าปลีกทั้งสิ้น 267,330 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 15.5% นอกจากนี้ นครเฉิงตูยังมีมูลค่าค้าปลีกในธุรกิจที่อยู่อาศัยทั้งสิ้น 4,010 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 17.2% และมีมูลค่าค้าปลีกในธุรกิจอาหารทั้งสิ้น 40,930 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 18.2% อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาเป็นรายภูมิภาคแล้ว ตัวเลขการค้าปลีกในเขตเมืองมีมูลค่า 327,560 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 15.9% ตัวเลขการค้าปลีกในเขตชนบทมีมูลค่า 4,210 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 16.8%

ด้านการค้าปลีกของวิสาหกิจในนครเฉิงตูที่ภาคการผลิตมีมูลค่าที่ระดับ 5 ล้านหยวน โดยมูลค่าค้าปลีกในกลุ่มของอาหาร เครื่องดื่ม สุรา ยาสูบ เพิ่มขึ้น 20.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปี2554 กลุ่มผลิตภัณฑ์และปิโตรเลียม เพิ่มขึ้น 24.1% รองเท้า เสื้อผ้า การ์เม้นท์ เพิ่มขึ้น 19.3% เครื่องสำอางค์ เพิ่มขึ้น 26.5% เครื่องใช้สำนักงาน เพิ่มขึ้น 56.1% อุปกรณ์สื่อสาร เพิ่มขึ้น 46.5% เฟอร์นิเจอร์เครื่องเรือน เพิ่มขึ้น 29.9% ยานยนต์ เพิ่มขึ้น 8.0%

ด้านการนำเข้าส่งออกระหว่างประเทศนครเฉิงตูในปี 2555 มีมูลค่าทั้งสิ้น 47,540 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 25.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปี 2554 โดยการส่งออกยังคงมีแนวโน้มสดใสที่มูลค่า 30,360 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 32.4% ส่วนการนำมีมูลค่าอยู่ที่ 17,180 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.0%

ในส่วน General Trade ของนครเฉิงตูในปี 2555 มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 999 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.8% โดยกลุ่มสินค้าหลัก 2 รายการที่สามารถกระตุ้นส่งออกในส่วนนี้ได้อย่างเด่นชัด คือ เครื่องจักรและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มีมูลค่าส่งออกสูงถึง 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 47.6% และสินค้าไฮเทคโนโลยีที่ผลิตในนครเฉิงตูมีมูลค่าส่งออกทั้งสิ้น 16,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 52.2%

แม้ว่าในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจแถบตะวันตกยังคงต้องเผชิญหน้ากับภาวะถดถอย แต่การส่งออกของนครเฉิงตูยังสามารถเติบโตได้ท่ามกลางความกดดันของตลาดที่มีดีมานด์ลดลง โดยปี 2555 การส่งออกไปยังกลุ่มประเทศอียูเพิ่มขึ้นในวงจำกัดเพียง 6.5% ที่มูลค่า 6,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่การส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกายังคงมีแนวโน้มที่สดใสมีปริมาณเพิ่มขึ้น 40.6% ที่มูลค่า 8,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนการส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นก็เพิ่มขึ้นเช่นกันที่ 41.0% เป็นมูลค่า 1,210 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สวนทางการส่งออกไปยังเขตปกครองพิเศษฮ่องกงที่มีแนวโน้มลดลงที่ 8.9% โดยมีมูลค่า 2,220 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ด้านโครงการลงทุนใหม่จากวิสาหกิจต่างประเทศในนครเฉิงตูที่ได้รับการอนุมัติแล้วในปี 2555 มีจำนวน 226 โครงการ ในจำนวนนี้เป็นโครงการที่มีเงินลงทุนมากกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 65 โครงการ ด้านสัญญาการลงทุนโดยตรงจากวิสาหกิจต่างประเทศมีมูลค่า 3,950 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการใช้ประโยชน์จริงจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีมูลค่า 8,590 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 31.1%

ในส่วนความคืบหน้าโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานด้านการคมนาคมโดยภาพของนครเฉิงตูในปี 2555 จากการสำรวจพบว่า ทางหลวงในนครเฉิงตูมีระยะทางรวมกันทั้งสิ้น 22,098 กม.ในจำนวนนี้เป็นทางหลวงมอเตอร์เวย์ระยะทาง 594 กม.นอกจากนี้ในนครเฉิงตูมีจำนวนยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ทั้งสิ้น 3.044 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 8.2% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันกับปี 2554 โดยเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลทั้งสิ้น 1.801 ล้านคัน มีปริมาณเพิ่มขึ้น 17.1%

ด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของนครเฉิงตูที่ถือว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จสะท้อนจากปริมาณนักท่องเที่ยวจีนภายในประเทศที่เดินทางมาเยือนนครเฉิงตูตลอดปี 2555 มีจำนวนถึง 122.465 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง 26.6% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันกับปี 2554 สามารถสร้างรายได้จากภาคการท่องเที่ยวสูงถึง 101,070 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 30.2% ส่วนการเดินทางออกไปเที่ยวยังต่างประเทศของชาวเฉิงตูก็มีปริมาณเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยในปี 2555 พบว่ามีจำนวน 1.582 ล้าน (คิดเป็นสัดส่วน 13.48% ของจำนวนประชากรตามสำมะโนครัวในนครเฉิงตู) เพิ่มขึ้น 28.9%

ด้านตัวเลขประชากรจากการสำรวจสิ้นสุดปลายปี 2555 พบว่า นครเฉิงตูมีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 14.178 ล้านคน โดยเป็นตัวเลขตามสำมะโนครัวทั้งสิ้น 11.7330 ล้านคน โดยมีอัตราการเพิ่มจำนวนประชากรโดยธรรมชาติ 0.12% สอดคล้องกับนโยบายควบคุมประชากร 93.6% ด้านรายรับสุทธิเฉลี่ยต่อหัวของเมืองในนครเฉิงตูในปี 2555 อยู่ที่ 27,194 หยวน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 13.6% โดยชาวชนบทมีรายรับสุทธิเฉลี่ยต่อหัวอยู่ที่ 11,501 หยวน เพิ่มขึ้น 14.2%

เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจในนครเฉิงตูยังได้รับความกดดันจากวิกฤตดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตามรัฐบาลนครเฉิงตู ยังคงเร่งเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมั่นคงตามนโยบาย “เบญจมาตรการ” สู่ความเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งภาคตะวันตกของจีนบนพื้นฐานการพัฒนาด้านเทคโนโลยีเป็นสำคัญ



ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ข้อมูลเพิ่มเติม นโยบาย “เบญจมาตรการ” ของรัฐบาลนครเฉิงตูมุ่งเป้าพัฒนา 5 ด้านหลัก ได้แก่

  1. เน้นการคมนาคมที่รุดหน้า ยกระดับพัฒนาภาคคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อภูมิภาคตะวันกตกสู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศไปสู่ต่างประเทศทั่วโลก ถือเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาขับเคลื่อนเศรษฐกิจของนครเฉิงตูให้สามารถติดต่อกับโลกภายนอกโดยสะดวก
  2. เพิ่มทวีภาคอุตสาหกรรมการผลิต มุ่งการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมโดยรวมให้สอดคล้องกันโดยนำเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวล้ำนำสมัยมาใช้พัฒนายกระดับภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรมบริการสมัยใหม่ของนครเฉิงตู
  3. สร้างเมืองสู่ความเป็นเลิศ มุ่งพัฒนาสู่ความเป็นเมืองน่าอยู่ ประชาชนมีงานที่เหมาะสม ปรับปรุงอนุรักษ์เขตเมืองเก่าควบคู่กับวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ รักษานิเวศสิ่งแวดล้อม พัฒนาสู่ความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  4. พัฒนาวงแหวนเศรษฐกิจ 3 ชั้น ครอบคลุมทั่วนครเฉิงตูให้มีความเจริญโดยพร้อมกัน โดยวงแหวนชั้นแรกยกระดับเขตใจกลางเมืองให้มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจในระดับสูง วงแหวนชั้นกลางยกระดับเขตที่อยู่รอบใจกลางเมืองให้มีการพัฒนา เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ และสุดท้ายชั้นนอก ยกระดับเขตที่อยู่รอบนอกตัวเมืองนครเฉิงตูให้มีการพัฒนาเศรษฐกิจตามวงแหวนชั้นแรกและชั้นกลางในเติบโตอย่างต่อเนื่อง
  5. เปิดเมืองสู่โลกสากล เปิดโอกาสเปิดตลาดสร้างความร่วมมือระหว่างเขตต่อเขตในนครเฉิงตูสู่ความร่วมมือระหว่างประเทศทั่วโลก



สามารถสอบถามข้อมูลทั่วไปกับศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในจีนได้โดยผ่านทางอีเมล์ [email protected]

เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน