ทางการกว่างซีชี้เทรนด์เศรษฐกิจและทิศทางอุตสาหกรรม ปีงูเล็ก
11 Mar 2013เว็บไซต์ข่าวกว่างซี : ปี 56 ทิศทางการพัฒนาทางเศรษฐกิจของกว่างซี ในภาพรวมสอดรับนโยบายส่วนกลาง และในรายละเอียดมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
ปัจจุบัน เทรนด์เศรษฐกิจโลกที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคปฏิรูปโครงสร้างเชิงลึก ทว่าสภาพเศรษฐกิจที่ขยายตัวเชื่องช้า อุปสงค์จากต่างประเทศอ่อนตัว เป็นปัจจัยสร้างแรงกดดันให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจของกว่างซี
หน่วยงานขุนพลเศรษฐกิจกว่างซีได้บูรณาการทำงานร่วมกัน เพื่อร่วมวางแนวทางในการพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในปี 2556 เพื่อรับมือสถานการณ์ข้างต้นและทำให้กว่างซีขยับเข้าใกล้เป้าหมายการเป็น “สังคมเสี่ยวคัง” (สังคมกินดี อยู่ดี) มากยิ่งขึ้น
คณะกรรมาธิการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปเขตฯ กว่างซีจ้วง (Guangxi Development and Reform Commission, 广西发展和改革委员会) หน่วยงานที่มีบทบาทอย่างยิ่งด้านการกำหนดทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ได้กำหนดเป้าหมายเศรษฐกิจกว่างซีในปี 56 ดังนี้
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ขยายตัวไม่น้อยกว่าร้อยละ 11 การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรขยายตัวไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 มูลค่าเพิ่มภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ขยายตัวไม่น้อยกว่าร้อยละ 18 รายได้ของประชาชนในเขตเมืองและเขตชนบทขยายตัวไม่น้อยกว่าร้อยละ 13 และ 14 และอัตราเงินเฟ้อไม่เกินร้อยละ 4
แนวทางปฏิบัติด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม อาทิ
1) สนับสนุนภาคการลงทุน เน้นอุตสาหกรรมเกิดใหม่เชิงยุทธศาสตร์ หรืออุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ (อุตสาหกรรมประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม) กำจัดอุตสาหกรรมล้าสมัย
2) เร่งพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่ โดยเริ่มจากน้ำตาล และข้าว ซึ่งกว่างซีมีพื้นฐานความพร้อมอยู่แล้ว
3) เร่งพัฒนาอุตสาหกรรมบริการสมัยใหม่ อาทิ การเงิน โลจิสติกส์ ข้อมูลสารสนเทศ
4) พัฒนาความเป็นเมือง (Urbanization) สร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมในเมืองชั้นกลางและเมืองเล็ก พัฒนาระบบสาธารณูปโภค ดึงดูดการลงทุน
5) กระตุ้นการพัฒนาภายใต้กรอบ “2 เขต 1 แถบพื้นที่” (เขตเศรษฐกิจอ่าวเป่ยปู้กว่างซี เขตทรัพยากรสมบูรณ์ภาคตะวันตก และแถบพื้นที่เส้นทางน้ำสายทองคำแม่น้ำซีเจียง)
6) สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน อาทิ อลูมิเนียม น้ำตาล ปิโตรเลียม โลหะนอกกลุ่มเหล็ก และเยื่อกระดาษ
คณะกรรมธิการอุตสาหกรรมและข้อมูลสารสนเทศเขตฯ กว่างซีจ้วง (Guangxi Industry and Information Commission, 广西工业和信息委员会) ชูแนวทาง “ยกระดับคุณภาพและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นหัวใจสำคัญ” โดยเน้นขยายโครงการลงทุน บ่มเพาะอุตสาหกรรมเกิดใหม่ เร่งยกระดับนิคมอุตสาหกรรม สนับสนุนการขยายตัวสู่ธุรกิจขนาดใหญ่
ปัจจุบัน อุตสาหกรรมของกว่างซีกำลังเผชิญปัญหาเชิงโครงสร้าง อาทิ อุตสาหกรรมขั้นปฐมภูมิมีสัดส่วนสูงมาก สินค้าขั้นปฐมภูมิมีมากจนเกินไป ห่วงโซ่อุตสาหกรรมสั้น มูลค่าเพิ่มและการใช้เทคโนโลยีค่อนข้างต่ำ แรงแข่งขันทางการตลาดและการป้อนกันความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ
แนวทางปฏิบัติ เพื่อแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างข้างต้น อาทิ
1) สนับสนุนการลงทุนที่เน้นกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและโครงสร้างธุรกิจ
2) เร่งพัฒนาและยกระดับนิคมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะนิคมแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร แพรไหม เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม เครื่องจักรกล อะไหล่ยานยนต์ เซรามิก อลูมิเนียม อิเล็กทรอนิกส์ และแคลเซียมคาร์บอเนต
3) สนับสนุนการเติบโตของวิสาหกิจขนาดกลางและขยาดย่อม (SMEs)
4) พัฒนาอุตสาหกรรมหมุนเวียน สร้างอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์ และเร่งกำจัดอุตสาหกรรมล้าสมัย
5) พัฒนาอุตสาหกรรมเกิดใหม่เชิงยุทธศาสตร์ เน้นวัสดุอลูมิเนียมสำหรับการคมนาคมทางราง รถยนต์พลังงานใหม่ วัสดุใหม่ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เภสัชชีวภาพ และพลังงานแสงอาทิตย์
กรมพาณิชย์เขตฯ กว่างซีจ้วง (Department of Commerce of Guangxi, 广西商务厅) ปีนี้ (ปี 56) ได้เบนเข็มการพัฒนา โดยเน้นขยายและกระตุ้นการค้าภายในประเทศทดแทนการพึ่งพาการค้าต่างประเทศ เนื่องจากตลาดต่างประเทศยังตกอยู่ในสภาวะตึงตัว และเห็นว่าการบริโภคภายในประเทศจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
แนวทางดำเนินงาน มีดังนี้
1) กระตุ้นการบริโภคภายใน สร้างตลาดใหม่ (สร้างสิ่งแวดล้อมในการใช้จ่าย เพื่อสนองตอบความต้องการของประชาชนและรองรับการขยายตัวของเมือง)
2) สนับสนุนการเปลี่ยนแปลง/ปฏิรูปโครงสร้างธุรกิจ ยกระดับคุณภาพธุรกิจและผลิตภัณฑ์ สนับสนุนการค้าต่างประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคง
3) ขยายตลาด สนับสนุนภาคการบริการ และเร่งส่งเสริมการ “ก้าวออกไป” ของธุรกิจที่มีศักยภาพ
4) บูรณาการสิ่งแวดล้อมทางการลงทุน ดึงดูดและใช้ประโยชน์จากเงินทุนต่างประเทศ
BIC ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เช่นเดียวกับอีกหลายมณฑลของจีน ปีนี้ เทรนด์การพัฒนาทางเศรษฐกิจของกว่างซีเน้นอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ที่เน้น “สิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงาน” เป็นสำคัญ ดังนั้น ธุรกิจไทยต้องศึกษาความพร้อมและวิเคราะห์ว่าธุรกิจของตนเองมีความสอดคล้องเหมาะสมกับทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจของกว่างซีหรือไม่