จับตาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้ากว่างซี(จีน)-กัมพูชา กับโอกาสแทรกตลาด “มันสำปะหลังและยางพารา” ของไทย

18 Apr 2025

เริ่มต้น ‘ปีทอง’ ของความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงกับประเทศกัมพูชา ที่ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหม่ที่ตอกย้ำความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่ใกล้ชิดระหว่างกว่างซี(จีน)กับกัมพูชา

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 เรือบรรทุก “มันสำปะหลังแห้ง” น้ำหนัก 5,364.5 ตัน ลำแรกจากท่าเรือสีหนุ ประเทศกัมพูชา ได้เข้าเทียบท่าที่ท่าเรือเถี่ยซานเป๋ยไห่ (Beihai Teishan Port/北海铁山港) เมืองเป๋ยไห่ เขตฯ กว่างซีจ้วง ตามคำสั่งซื้อของบริษัท COFCO Biotechnology Co., Ltd. (中粮生物科技股份有限公司) และในวันเดียวกัน บริษัท COFCO Biotechnology ได้ลงนามสัญญาสั่งซื้อมันสำปะหลังแห้งล็อตใหม่กับฝ่ายกัมพูชา รวมน้ำหนัก 50,000 ตัน

ความสัมพันธ์ทางการค้า ปี 2567 กว่างซีกับกัมพูชามีมูลค่าการค้ารวม 6,669.8 ล้านหยวน แม้ว่ากัมพูชาเป็นคู่ค้าอันดับ 7 ในชาติสมาชิกอาเซียน แต่การค้ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 61.6 เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) โดยกัมพูชาใช้ “กว่างซี” รวมถึงงาน China-ASEAN เป็นช่องทาง/จุดกระจายสินค้าเกษตรกัมพูชาเข้าสู่ประเทศจีน อาทิ ข้าว เส้นใยป่านศรนารายณ์ มันสำปะหลัง เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ กล้วย และลำไยสด (ข้อมูลจากศุลกากรแห่งชาติจีน ณ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 กัมพูชาได้รับอนุญาตส่งออกผลไม้สดไปจีน รวม 4 ชนิด ซึ่งทั้งหมดทับซ้อนกับผลไม้ไทย ได้แก่ กล้วย มะม่วง ลำไยสด และมะพร้าว)

กว่างซีกับกัมพูชายังมีความร่วมมือด้านการลงทุนที่ใกล้ชิด โดยมี “เมืองท่าเป๋ยไห่” (Beihai City/北海市) รับบทเป็น ‘คู่จิ้น’ กับกัมพูชา ผ่านโครงการความร่วมมือระดับชาติ “นิคมอุตสาหกรรมจีน-กัมพูชา” ตามรอยนิคมอุตสาหกรรมระดับชาติจีน (ชินโจว) – มาเลเซีย ที่เมืองท่าชินโจวของเขตฯ กว่างซีจ้วง

จุดเริ่มต้นของ “นิคมอุตสาหกรรมจีน-กัมพูชา” เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2566 รัฐบาลเขตปกครองตนเอง กว่างซีจ้วงกับกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา ได้ร่วมลงนาม “บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการผลักดันการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมจีน-กัมพูชา” โดยมีนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน และสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา (เยือนจีนอย่างเป็นทางการ) ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน

ภายหลังจากการศึกษาความเป็นไปได้แล้ว รัฐบาลกว่างซีได้พิจารณาให้ “เมืองเป๋ยไห่” เป็นสถานที่จัดตั้ง “นิคมอุตสาหกรรมจีน (เป๋ยไห่) – กัมพูชา” และกำหนดให้ “สวนอุตสาหกรรม CEC Beihai Industrial Park” (中国电子北海产业园) เป็น “พื้นที่หลัก” (Core area) ของนิคมอุตสาหกรรมจีน (เป๋ยไห่) – กัมพูชา

อุตสาหกรรมเป้าหมายของนิคมฯ อาทิ อิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศ ชีวการแพทย์ ยานยนต์พลังงานทางเลือก พลังงานสะอาด พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามแดน การค้าสินค้าโภคภัณฑ์ การผลิตและแปรรูปสินค้าเกษตร รวมถึงโลจิสติกส์และคลังสินค้า

แม้ว่าปัจจุบัน “นิคมอุตสาหกรรมจีน (เป๋ยไห่) – กัมพูชา” ยังไม่ได้เปิดป้ายอย่างเป็นทางการ โดยเมืองเป๋ยไห่ (เขตฯ กว่างซีจ้วง) ยังอยู่ระหว่างการวางแผนแม่บทการพัฒนาและก่อสร้าง “นิคมอุตสาหกรรมจีน (เป๋ยไห่) – กัมพูชา” และการออกนโยบายพิเศษสำหรับนักลงทุน โดยอาศัยประสบการณ์ความสำเร็จของนิคมอุตสาหกรรมจีน(ชินโจว)-มาเลเซียเป็นต้นแบบ รวมถึงการประสานงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อผลักดันให้ “นิคมอุตสาหกรรมจีน (เป๋ยไห่) – กัมพูชา” เปิดป้ายได้โดยเร็ว แต่สิ่งที่ชัดเจน คือ การลงทุนในบริเวณพื้นที่ CEC Beihai Industrial Park ซึ่งเป็นพื้นที่หลักของนิคมอุตสาหกรรมจีน (เป๋ยไห่) – กัมพูชา ที่เริ่มเกิดขึ้นแล้ว

ในบริบทที่ “อุตสาหกรรมแปรรูปยางพาราและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากยางพารา” เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายของนิคมอุตสาหกรรมจีน(เป๋ยไห่)-กัมพูชา ซึ่งจะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากข้อได้เปรียบด้านที่ตั้งและวัตถุดิบของสองฝ่าย ในการขับเคลื่อนบูรณาการของอุตสาหกรรมขั้นปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ ยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพของการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราเมืองเป๋ยไห่ เพื่อก้าวสู่การเป็น “ศูนย์กลางการแปรรูปยาง ศูนย์กลางการค้า และศูนย์กลางโลจิสติกส์และคลังสินค้ายางพารา” ที่มุ่งสู่อาเซียนและเอเชียใต้

เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 (ในงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน หรือ China-ASEAN Expo ครั้งที่ 21) ได้มีพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือในโครงการผลิตและแปรรูปยางพาราในนิคมอุตสาหกรรมจีน (เป๋ยไห่) – กัมพูชา โดยถือเป็นโครงการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติโครงการแรกในนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าว

โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือ 3 ฝ่ายระหว่างสมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมด้านเศรษฐกิจและการค้าอาเซียน (SMEs ASEAN) การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และบริษัท Cambodia Asia Agricultural Products Futures Exchange Co., Ltd. (柬埔寨亚洲农产品期货交易中心有限公司) โดยจะชักชวนให้บริษัทยางพาราของไทยเข้าลงทุนในโครงการแปรรูปยางพารานำเข้าในนิคมอุตสาหกรรมฯ ด้วย

ทั้งนี้ นิคมอุตสาหกรรมฯ ตั้งเป้าหมายว่าจะชักชวนธุรกิจยางพาราเข้าลงทุนโรงงานแปรรูปยางพารา จำนวน 10 ราย โดยสินค้ายางพาราจะ “แปรรูป” ในพื้นที่เขตสินค้าทัณฑ์บนแบบครบวงจรเป๋ยไห่ (นิคมท่าเรือเที่ยซาน) และสินค้ายางพาราจะ “จัดเก็บ” ในคลังสินค้าทัณฑ์บนที่ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรม CEC Beihai Industrial Park โดยหนึ่งสายการผลิตมีกำลังการผลิตยางคอมพาวด์ (Rubber compound) ราวเดือนละ 2,000 ตัน กำลังการผลิตยางคอมพาวด์ทั้งปีอยู่ที่ 2.4 แสนตัน สร้างมูลค่าการผลิตได้ราว 3,000 ล้านหยวน

บีไอซี ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน แม้ว่าประเทศจีนจะมีการเพาะปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่จีนตอนใต้ (เขตฯ กว่างซีจ้วงมีสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 60 ของทั้งจีน) แต่กำลังการผลิตยังไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ โดยผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลังถูกนำมาใช้ประโยชน์ทางตรงและทางอ้อมอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร อาหารสัตว์ เภสัชกรรม กระดาษ วัสดุก่อสร้าง สิ่งทอ และเชื้อเพลิงเอทานอล

ข้อมูลจากศุลกากรหนานหนิง พบว่า หลายปีมานี้ เมืองเป๋ยไห่มีการนำเข้ามันสำปะหลังแห้ง ทั้งมันสำปะหลังเส้นและมันสำปะหลังอัดเม็ด (HS Code 07141020) และแป้งมันสำปะหลัง (HS Code 11081400) จากประเทศไทยมากที่สุดในกว่างซี จึงเป็นโอกาสของประเทศไทยในการขยายการส่งออกสินค้าได้เพิ่มขึ้นในอนาคต โดยการพัฒนาเส้นทางเดินเรือระหว่างสองพื้นที่ ทั้งเส้นทางเดินเรือตรง (Direct line) และการพัฒนาเส้นทางเดินเรือร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน (กัมพูชา) ในการขนส่งสินค้าเกษตร (ผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลัง ผลิตภัณฑ์จากยางพารา) ไปกว่างซีร่วมกันได้

บีไอซี เห็นว่า จีนและกัมพูชากำลังแสวงหารูปแบบความร่วมมือใหม่ทางอุตสาหกรรม และส่งเสริมการบูรณาการเชิงลึกทางอุตสาหกรรม โดยการร่วมจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมคู่แฝดจีน-กัมพูชา จะเป็นการแบ่งปันทรัพยากร เทคโนโลยี และตลาดร่วมกัน รวมถึงการต่อยอดและยกระดับห่วงโซ่อุตสาหกรรมสองฝ่าย ขณะเดียวกัน ยังเป็นการขับเคลื่อน  ความร่วมมือเชิงลึกระหว่างทั้งสองฝ่าย ทั้งในด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี การสร้างแบรนด์ และการขยายตลาด

“นิคมอุตสาหกรรมจีน (เป๋ยไห่) – กัมพูชา” มีความได้เปรียบเชิงกายภาพจากการมีที่ตั้งใกล้แหล่งทรัพยากรในอาเซียน (ตั้งอยู่ในอ่าวเป่ยปู้ หรือคนไทยรู้จักในชื่ออ่าวตังเกี๋ย) รวมถึงความพร้อมด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ สิทธิประโยชน์การลงทุน รวมถึงการคลัสเตอร์อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น “ไทย” ในฐานะประเทศผู้ผลิตยางสำคัญของโลก จึงเป็นโอกาสที่ธุรกิจยางพาราไทยจะผสานเครือข่ายความร่วมมือและเข้าไปมีส่วนร่วมใน “ห่วงโซ่อุตสาหกรรมยางพารา” ของเมืองเป๋ยไห่ได้เช่นกัน



จัดทำโดย นายกฤษณะ สุกันตพงศ์ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครหนานหนิง
ที่มา เว็บไซต์ www.gx.chinanews.com.cn (中国新闻网) วันที่ 15 มีนาคม 2568

เว็บไซต์ www.gx.chinanews.com.cn (广西新闻网) วันที่ 15 มีนาคม 2568
เว็บไซต์ www.zgsyb.com (中国水运网) วันที่ 15 มีนาคม 2568
เว็บไซต์ www.customs.gov.cn (海关总署)
เว็บไซต์ www.khmertimeskh.com วันที่ 17 ตุลาคม 2566
Wechat Official Account สำนักงานพาณิชย์เป๋ยไห่ (北海商务局) วันที่ 15 มีนาคม 2568

ภาพประกอบ gxnews.com.cn / Beihai Daily / news.sohu.com / khmertimeskh.com / dft.go.th

มันสำปะหลังแห้งนิคมอุตสาหกรรมจีน (เป๋ยไห่) – กัมพูชา

Nanning_editor2

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน