“ฮิลตัน” มองตลาดท่องเที่ยวจีนอย่างไร ค้นหาคำตอบผ่านการลงทุนขยายแบรนด์ “ฮิลตัน การ์เดน อินน์” ในกว่างซี
31 Dec 2024หากพูดถึงแบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับโลก หลายคนต้องเคยได้ยินชื่อของโรงแรมฮิลตัน (Hilton) เจ้าของแบรนด์ระดับโลกที่มีโรงแรมมากกว่า 7,300 แห่ง และห้องพักกว่า 1.1 ล้านห้อง ภายใต้ 24 แบรนด์ใน 120 กว่าประเทศ/ดินแดนทั่วโลก
ล่าสุด 1 ใน 24 แบรนด์ของฮิลตันอย่าง “ฮิลตัน การ์เดน อินน์” (Hilton Garden Inn) ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการที่เมืองท่องเที่ยวชายทะเล —— เมืองเป๋ยไห่ เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของประเทศจีน เป็นฮิลตัน การ์เดน อินน์ สาขาที่ 100 ในประเทศจีน
ตามรายงาน ตั้งแต่ปี 2564 ฮิลตัน การ์เดน อินน์ ให้ความสำคัญกับตลาดใหม่และเมืองสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยอนาคตของตลาดการท่องเที่ยวที่กำลังสดใส ทำให้ฮิลตัน การ์เดน อินน์ วางแผนขยายธุรกิจเพิ่มเติมในตลาดสำคัญทั่วภูมิภาค โดยเฉพาะประเทศจีน
“รายงานของ McKinsey Global Institute ระบุว่า ใน 10 ปีข้างหน้า มูลค่าตลาดผู้บริโภคชนชั้นกลางในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะแตะระดับ 10 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ การเติบโตภาคการบริโภคทั่วโลก ครึ่งหนึ่งมาจากชาวเอเชีย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพการบริโภคของประชากรชนชั้นกลางในภูมิภาคนี้ที่มีจำนวนมากและเติบโตอย่างรวดเร็ว”
ทั้งนี้ เครือฮิลตันเริ่มเข้ามาดำเนินธุรกิจโรงแรม 10 แบรนด์ในตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 โดยแบรนด์ “ฮิลตัน การ์เดน อินน์” แห่งแรกในจีนเปิดที่เมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้งเมื่อปี พ.ศ. 2557
กล่าวได้ว่า ฮิลตัน การ์เดน อินน์ เป็นแบรนด์แรก ๆ ของฮิลตันที่ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนสำหรับการเปิดโรงแรมใน “ตลาดรอง” สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้ระดับกลางที่เน้นความคุ้มค่าในการเข้าพัก และเป็นหนึ่งในแบรนด์ของฮิลตันที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว
“รายงานของศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาของคณะมนตรีจีน (Development Research Center of the State Council) ระบุว่า ปัจจุบัน กลุ่มผู้มีรายได้ระดับกลางในจีนมีอยู่ราว 400 ล้านคน และคาดว่าในอีก 15 ปีข้างหน้า กลุ่มชนชั้นกลางในจีนจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อยู่ที่ราว 800 – 900 ล้านคน”
คุณเฉียน จิ้น (Qian Jin/钱进) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ประจำพื้นที่จีนและมองโกเลียของเครือฮิลตัน เปิดเผยว่า ภายในสิ้นปี 2567 จะมีโรงแรมในแบรนด์ฮิลตัน การ์เดน อินน์ ในจีนที่เปิดให้บริการแล้วและที่กำลังก่อสร้างมากกว่า 270 แห่ง
ปัจจุบัน ฮิลตัน การ์เดน อินน์ ตั้งอยู่ครอบคลุมหัวเมืองใหญ่และตลาดเมืองรองทั่วจีน ทั้งในกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ นครเฉิงตู ดินแดนอักซู (Aksu) ทางตอนเหนือของเขตฯ ซินเจียง รวมถึงเมืองกุ้ยหลิน และเมืองเป๋ยไห่ของเขตฯ กว่างซีจ้วง
สำหรับ “เมืองเป๋ยไห่” เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวริมชายหาดที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในประเทศจีน เคยได้รับรางวัลด้านการท่องเที่ยวมากมาย อาทิ รางวัลเมืองวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวยอดเยี่ยมของประเทศจีน เมืองที่เป็นจุดหมายการท่องเที่ยวที่สวยที่สุดของประเทศจีน และจุดหมายการท่องเที่ยวจีนที่ได้รับความพึงพอใจมากที่สุดจากนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ เมืองเป๋ยไห่ยังมีความพร้อมทางโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยอำนวยความสะดวกการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นรถไฟความเร็วสูงเชื่อมหัวเมืองต่าง ๆ ของจีน สนามบินฝูเฉิงเป๋ยไห่ (Beihai Fucheng Airport/北海福成机场) ท่าเรือผู้โดยสารเฉียวก่าง (Beihai Qiaogang Ferry Terminal/北海桥港客运码头) และล่าสุด ท่าเรือสำราญระหว่างประเทศอ่าวเป่ยปู้ (Beibu Gulf International Cruise Home Port /北部湾国际邮轮母港) ที่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา ทำให้เมืองเป๋ยไห่ขยับขึ้นมาเป็นหนึ่งในหมุดหมายอันดับต้น ๆ ที่นักท่องเที่ยวชาวจีนมักจะนึกถึง และด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนมากกว่าปีละ 50 ล้านคนครั้ง กลายเป็นแรงดึงดูดให้โรงแรมอินเตอร์แบรนด์ทยอยตบเท้าเข้าลงทุนในเมืองเป๋ยไห่ รวมถึงแบรนด์ “ฮิลตัน การ์เดน อินน์”
คุณเฉียนฯ เปิดเผยว่า ฮิลตันกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างแบรนด์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และขยายธุรกิจไปยังเมืองหรือสถานที่จุดหมายปลายทางที่เป็นที่ชื่นชอบของคนหนุ่มสาว โดย “เมืองเป๋ยไห่” มีทะเลและเกาะ มีรากฐานการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคด้านการท่องเที่ยวในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มคน Gen Z (คนที่เกิดช่วงปี พ.ศ. 2538 – 2552) และ Gen Alpha (คนที่เกิดช่วงปี พ.ศ. 2553 – ปัจจุบัน) ที่กำลังเป็นว่าที่ “ผู้บริโภคหลักของโลก” ในอนาคต ทำให้เมืองเป๋ยไห่เป็นจุดหมายการลงทุนที่ยอดเยี่ยมสำหรับฮิลตัน และเป็นไปได้ว่าฮิลตันแบรนด์อื่นอาจจะเข้ามาอีกในอนาคต
เช่นเดียวกับ คุณ Jenny Milos รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่าย Focused Service & All Suites Brand Management ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของฮิลตัน ที่ระบุว่า Gen Z และ Gen Alpha เป็นตัวแทนของนักเดินทางคลื่นลูกใหม่ การเดินทางท่องเที่ยวของกลุ่มคนใน 2 Gen ข้างต้นกำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ โรงแรมแห่งที่ 100 ของฮิลตัน การ์เดน อินน์ในประเทศจีน ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของแบรนด์ในตลาดจีนเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นว่า ฮิลตัน การ์เดน อินน์ ก้าวทันความต้องการของกลุ่มลูกค้าชาวจีนที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้วย
ก่อนหน้านี้ คุณ Jenny ได้เคยให้สัมภาษณ์สื่อว่า ภายหลังการระบาดของโควิด-19 ลูกค้าให้ความสำคัญกับคุณค่า ความคุ้มค่า และความสมดุลระหว่างการเข้าถึงได้ การบริการที่มีคุณภาพสูง และการออกแบบที่โปร่งสบาย ฮิลตัน การ์เดน อินน์ ให้ความสำคัญกับมาตรฐานการบริการระดับสากล การต้อนรับที่สดใสอันเป็นเอกลักษณ์การออกแบบเน้นการผสมผสานที่ลงตัวของความเป็นธรรมชาติ เพื่อสร้างบรรยากาศแวดล้อมที่ผ่อนคลายตั้งแต่วินาทีแรกที่มาถึง
บีไอซี เห็นว่า ภาคธุรกิจท่องเที่ยวในไทย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ควรติดตามและศึกษาความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในกลุ่มนักเดินทางชาวจีน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนผ่านของเทรนด์ธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักเดินทาง Gen Z และ Gen A ที่กำลังจะเติบโตมาเป็น “ผู้บริโภคหลัก” ทางเศรษฐกิจ และเป็น “ตลาดนักท่องเที่ยว” ที่สำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในอนาคต
นอกจากนี้ ในบริบทที่ทางการจีนพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่านมาตรการยกเว้นการตรวจลง (วีซ่า) และมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเดินทางผ่านแดนแบบปลอดวีซ่า (Visa-free transit) ซึ่งล่าสุด (17 ธ.ค. 2567) สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติจีนได้ประกาศขยายระยะเวลาการพำนักในจีนในรูปแบบ Transit จากเดิม 72 และ 144 ชั่วโมง เป็น 240 ชั่วโมง หรือ 10 วัน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศจีนได้อย่างมาก
บีไอซี เห็นว่า ภาคธุรกิจโรงแรมที่มีศักยภาพของไทย สามารถแสวงหาช่องทางและสร้างโอกาสในการเข้ามาขยายธุรกิจโรงแรมในจีนได้เช่นกัน ทั้งในลักษณะของการลงทุนโดยตรง การร่วมลงทุน รวมถึงการทำธุรกิจในรูปแบบของเฟรนไชส์และการร่วมบริหารโรงแรมด้วยข้อเสนอที่มีความยืดหยุ่น เพื่อตอกย้ำแบรนด์โรงแรมไทยที่จะได้ประโยชน์จากการบริหารงานด้านการขาย และการตลาดเช่นเดียวกับเครือโรงแรมฮิลตันได้ กอปรกับประเทศไทยมี แบรนด์โรงแรมที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก อีกทั้งยังมีความโดดเด่นด้านการบริการที่ประทับใจแก่นักท่องเที่ยวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
จัดทำโดย นายกฤษณะ สุกันตพงศ์ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครหนานหนิง
ที่มา เว็บไซต์ www.gx.chinanews.com.cn (中国新闻网) วันที่ 14 ธันวาคม 2567
เว็บไซต์ www.nia.gov.cn (国家移民管理局) วันที่ 17 ธันวาคม 2567
เว็บไซต์ www.drc.gov.cn (国务院发展研究中心) วันที่ 08 กรกฎาคม 2567