เรียนรู้ตลาดจีน ผ่านกรณีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ธุรกิจไทยได้อะไรจากกรณีตัวอย่าง
21 Jun 2013สำนักข่าวซินหัว-เขตฯ กว่างซีจ้วง : “ความสร้างสรรค์” เป็นกุญแจสำคัญของการประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ ผลสรุปของงานประชุมตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในพื้นที่มณฑลภาคกลางและภาคตะวันตกซึ่งจัดขึ้น ณ นครหนานหนิง
จีนแผ่นดินใหญ่เป็นประเทศผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายใหญ่ของโลก ปี 55 ที่ผ่านมา มียอดการผลิตทะลุ 48,380 ล้านซอง หรือคิดเป็นครึ่งหนึ่งของปริมาณการผลิตทั้งโลก และสร้างมูลค่าการจำหน่ายมากกว่า 58,000 ล้านหยวน จึงกล่าวได้ว่าจีนเป็นประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายใหญ่ที่สุดของโลก
Master Kang (康师傅) และ Uni-president (统一) เป็นผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายใหญ่ของจีน ทั้ง 2 แบรนด์ครองสัดส่วนทางการตลาดรวมกว่าร้อยละ 70 ส่วนอีกร้อยละ 30 เป็นแบรนด์รองและแบรนด์ท้องถิ่น
นายเหลียง ติ้งหัว (Liang Ding Hua, 梁定华) รองประธานสมาคมการตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนครหนานหนิง ให้ข้อมูลว่า ชาวจีนทั้งประเทศมีการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเฉลี่ยวันละ 100 ล้านซอง หรือทุกๆ วินาทีมีชาวจีนจำนวน 1,300 คนบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ทว่า ขณะนี้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบดั้งเดิมของจีนกำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ เนื่องจากผู้บริโภคจำนวนมากเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับคุณค่าทางโภชนาการ และความปลอดภัยในการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมความนิยมบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง
นอกจากการควบคุมด้านคุณภาพสินค้าแล้ว การศึกษาพฤติกรรม/ความนิยมด้านรสชาติเป็นโจทย์ที่ท้าทายผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในปัจจุบัน
ในการประชุมยกตัวอย่าง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสชาติผักดอง หรือที่ชาวจีนเรียกว่า “ซวน ช่าย” (酸菜) ซึ่งเป็นรสชาติสไตล์อาหารเสฉวนที่ได้รับความนิยมจากชาวจีนทั่วประเทศ เริ่มออกสู่ตลาดเมื่อ 4 ปีก่อน (โดยมี Uni-president เป็นเจ้าต้นตำรับ) สามารถครองใจผู้บริโภคและก้าวขึ้นมาเป็นบะหมี่ที่มียอดจำหน่ายอันดับ 2 ของประเทศ (รองจากรสเนื้อวัว)
จากข้อมูลพบว่าระหว่างปี 2552-2554 บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสผักดองของ Uni-president มียอดจำหน่ายสูงสุดไม่ถึง 200 ล้านหยวน (ยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นทุกปี) แต่เมื่อปีที่ผ่าน ยอดจำหน่ายพุ่งทะลุ 4,000 ล้านหยวน ขณะที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสเนื้อวัวกลับมียอดจำหน่ายลดลงร้อยละ 3
หลังจากที่ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายอื่นเห็นว่า ตลาดผู้บริโภคชาวจีนให้การยอมรับและนิยมบะหมี่รสผักดองเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้ผลิตหลายรายต่างพากันเลียบแบบผลิตบะหมี่รสชาติดังกล่าวออกสู่ตลาดตามๆ กัน ทำให้ปัจจุบัน เฉพาะรสผักดองเพียงรสเดียวก็มีมูลค่าทางการตลาดไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านหยวนแล้ว
นายหู เปียว (Hu Biao, 胡标) รองประธานสมาคมอาหารกว่างซี และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและสาธารณสุขอาหาร เห็นว่า นอกจากความสร้างสรรค์ด้านรสชาติแล้ว ผู้ผลิตต้องไม่ละเลยด้านสุขภาพความปลอดภัยของผู้ผลิต เช่น การใช้เกลือปริมาณที่ต่ำ การพัฒนาเทคนิคการผลิตโดยไม่ใช้น้ำมัน (Non-Fried) เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้บริโภค และส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแรง