เตรียมหนาว!! ทางการกว่างซีออกใบสั่ง “ปิด” เหมืองไร้มาตรฐานทั่วมณฑล
26 Dec 2013สำนักข่าวซินหัว-เขตฯ กว่างซีจ้วง : ทางการกว่างซีสนองนโยบายส่วนกลางด้านการเสริมสร้างความปลอดภัยการผลิตเหมืองถ่านหิน พร้อมตรวจสอบและสั่งปิดเหมืองที่ไม่ได้มาตรฐานทั่วมณฑล
เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลกลางได้ประกาศ “ข้อคิดเห็นว่าด้วยการเสริมสร้างความปลอดภัยด้านการผลิตในเหมืองแร่ถ่านหิน” เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับรัฐบาลมณฑลและรัฐบาลท้องถิ่น
นายหยาง ฟู่ (Yang Fu, 杨富) รองอธิบดีกรมตรวจสอบความปลอดภัยเหมืองถ่านหินแห่งชาติจีน (State Administration of Coal Mine Safety, 国家煤矿安全监察局) ให้ข้อมูลว่า ข้อคิดเห็นฯ มีจุดประสงค์หลักเพื่อจัดการกับเหมืองถ่านหินขนาดเล็กที่ไร้มาตรฐานและขาดเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย
ขอบข่ายของเหมืองถ่านหินที่ต้อง “ปิด” กิจการ ได้แก่ เหมืองถ่านหินที่มีกำลังการผลิตต่่ำกว่าปีละ 90,000 ตันต่อปีที่ขาดเงื่อนไขคุณสมบัติด้านความปลอดภัยในการผลิต เหมืองถ่านหินที่มีกำลังการผลิตต่่ำกว่า 90,000 ตันต่อปีที่มีความเสี่ยงสูงต่ออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากถ่านหินและแก๊ส เหมืองแร่ที่มีกำลังการผลิตต่่ำกว่า 90,000 ตันต่อปีที่เคยเกิดอุบัติเหตุขั้นรุนแรง
พร้อมกันนี้ รัฐบาลกลางได้สั่งเพิ่มระดับความเข้มงวดในการตรวจสอบอนุมัติโครงการก่อสร้างเหมืองถ่านหินและการตรวจสอบอนุมัติขยายกำลังการผลิต อาทิ
การ “หยุด” ตรวจสอบอนุมัติโครงการเหมืองถ่านหินโครงการใหม่ที่มีกำลังการผลิตต่ำกว่าปีละ 3 แสนตัน รวมถึงโครงการใหม่ที่มีกำลังการผลิตต่ำกว่าปีละ 9 แสนตันที่มีความเสี่ยงสูงต่ออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากถ่านหินและแก๊ส
การ “ห้าม” ขยายกำลังการผลิตสำหรับโครงการเหมืองถ่านหินที่มีความเสี่ยงสูงต่ออุบัติเหตุจากถ่านหินและแก๊ส และการระเบิดในหิน (Rock bursts) ไม่ว่ากรณีใด ๆ
ก่อนสิ้นปี 2558 จะดำเนินการตรวจสอบอนุมัติกำลังการผลิตของเหมืองแร่ข้างต้น และพิจารณา “ลด” กำลังการผลิตสำหรับเหมืองถ่านหินขาดหลักประกันด้านความปลอดภัยในการผลิต
นอกจากนี้ ข้อคิดเห็นฯ ยังกำหนดให้มีการตรวจสอบปรับปรุงเหมืองถ่านหินที่ใช้แก๊สและปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ การส่งเสริมระบบบริหารจัดการด้านแรงงานและเทคโนโลยี การเสริมสร้างความรับผิดชอบของฝ่ายบริหารเหมือง การยกระดับประสิทธิภาพการตรวจสอบมาตรฐานด้านความปลอดภัยและแผนปฏิบัติกรณีฉุกเฉินของเหมืองถ่านหิน
BIC เห็นว่า รายงานข้างต้นนับเป็นกรณีศึกษาสำหรับนักลงทุนไทยที่กำลังสนใจเข้ามาลงทุนในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งนักลงทุนนอกจากจะต้องศึกษาพิจารณาความเหมาะสมของธุรกิจว่ามีความสอดคล้องตามแนวนโยบายของทางการจีนหรือไม่แล้ว ยังจำเป็นจะประเมินความพร้อมของตนเองว่าพร้อมรับความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ(ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้ง)ได้มากน้อยเพียงใด เพราะคำสั่งภาครัฐมีอำนาจเด็ดขาดสูงสุด