ฤดูแต่งบ้าน ตลาดเฟอร์นิเจอร์ในเมืองชั้นรองสดใส
6 Jun 2013เว็บไซต์ข่าว Guangxi Economics : เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน ตลาดเฟอร์นิเจอร์ในจีนแผ่นดินใหญ่ก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง ห้างเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านแบรนด์จีนแบรนด์ฝรั่งต่างทยอยเซ็นสัญญาเปิดสาขาใหม่อย่างคึกคัก โดยเฉพาะในเมืองชั้นสองและเมืองชั้นสามของประเทศ
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ตลาดเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านในหัวเมืองหลักของจีนใกล้เข้าสู่ภาวะอิ่มตัว ปริมาณอุปสงค์นับว่าเบาบางเมื่อเทียบกับหัวเมืองรอง (เมืองชั้นสองและเมืองชั้นสาม) ที่ยังมีช่องว่างทางการตลาดอยู่อีกมากตามระดับการพัฒนาความเป็นเมือง (Urbanization) ที่ขยายตัวสูงขึ้นทุกขณะ
อุปสงค์ในตลาดเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านมีการขยับตัวเพิ่มขึ้นตามการพัฒนาของตลาดอสังหาริมทรัพย์ จากข้อมูลช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ การซื้อขายห้องชุดมีอัตราขยายตัวร้อยละ 38 มูลค่าการซื้อขายขยายตัวสูงเกือบร้อยละ 60 เฉพาะเดือนเมษายน ปี 56 ตลาดซื้อขายวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ในจีนมียอดจำหน่ายกว่า 9.7 หมื่นล้านหยวน
ตามรายงาน ห้างเฟอร์นิเจอร์แบรนด์จีนส่วนใหญ่เริ่มบุกเบิกและขยายตลาดในหัวเมืองชั้นรองเป็นหลัก ส่วนห้างเฟอร์นิเจอร์แบรนด์นอก เช่น IKEA ยังคงเน้นเปิดตลาดในหัวเมืองหลักอย่างในนครเซี่ยงไฮ้ กรุงปักกิ่ง
บุคคลในแวงวงธุรกิจกล่าวว่า การกระจุกตัวของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ในตลาดหัวเมืองหลักมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน จนเกิดภาวะ “ส่วนเกิน” ธุรกิจมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือน ต้นทุนการทำธุรกิจเพิ่มขึ้น (ต้นทุนวัตถุดิบ ค่าเช่าพื้นที่ ค่าจ้างแรงงาน) ขณะที่ความต้องการซื้อหดตัวตามภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์
BIC ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า โมเดลธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่มีโอกาสประสบความสำเร็จมากที่สุดอยู่ภายใต้คำจำกัดความ 2 คำ คือ (1) “ครบวงจร” เริ่มตั้งแต่บริการออกแบบดีไซน์ ห้องโชว์ชิ้นงาน จนถึงบริการลงมือตกแต่ง และมีโซนพักผ่อน/อาหารเครื่องดื่ม และ (2) “หลากหลาย” ทั้งในแง่ของแบรนด์และสไตล์การตกแต่างตามรสนิยมที่แตกต่าง (สไตล์จีน สไตล์ยุโรป สไตล์คลาสสิค)
BIC เห็นว่า ตลาดหัวเมืองชั้นรองน่าจะเปรียบได้กับ “เหมืองทอง” แห่งใหม่ที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการ(ไทย)ในการบุกเบิกตลาดใหม่ๆ ของจีนที่ยังมีคู่แข่งไม่มากนัก เนื่องจากประชาชนในหัวเมืองรองมีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น และกล้าจะใช้จ่ายมากขึ้น
ทว่า “โอกาส” ย่อมมาพร้อม “ความเสี่ยง” เสมอ ดังนั้น ผู้ประกอบการที่จะมาต้องมีความพร้อมและศักยภาพที่เพียงพอ รวมถึงจะต้องทำการบ้านวางแผนธุรกิจให้ดี เชื่อว่า การปักธงในประเทศจีนคงไม่ใช่เรื่องยาก
