ปาดเหงื่อ! ธุรกิจภัตตาคารหรูในกว่างซีต้องปรับตัว หลังรัฐบาลกลางประกาศรัดเข็มขัด
30 May 2013เว็บไซต์ข่าวกว่างซี : นโยบายรัดเข็มขัดของรัฐบาลกลางชุดใหม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจบริการหลายสาขาในกว่างซี โดยเฉพาะธุรกิจภัตตาคารและโรงแรมหรู พบว่า ผลประกอบการลดลงฮวบฮาบจนธุรกิจต้องหาาทางรอด
นายสี จิ้นผิง (Xi Jin Ping) ประธานาธิบดีจีน ได้ประกาศนโยบาย “6 ห้าม” เพื่อแก้ไขปัญหาทุจริตคอรัปชั่นของเจ้าหน้าที่รัฐ และปัญหาความฟุ่มเฟือยของชาวจีน
นโยบายดังกล่าว ประกอบด้วย ห้ามใช้เงินหลวงจัดเลี้ยงสังสรรค์ เยี่ยมเยือนหรือส่งของกำนัลในช่วงเทศกาล ห้ามส่งของขวัญของกำนัลให้กับหัวหน้าระดับบน ห้ามรับของขวัญของกำนัล ห้ามใช้ทรัพย์สินหลวงเพื่อกิจส่วนตัว ห้ามดำเนินการรับรองเกินมาตรฐาน ห้ามจัดหรือเข้าร่วมกิจกรรมที่ส่อไปในทางการพนัน
นโยบายดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างต่อธุรกิจภัตตาคารและโรงแรมหรู โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆ
ยกตัวอย่างเช่น ภัตตาคารในโรงแรมที่มีการกำหนดค่าใช้จ่ายขั้นต่ำสำหรับห้องเลี้ยงรับรอง ในอดีตถูกจองเต็มทุกวัน ทว่าตั้งแต่ต้นปีมานี้ จำนวนลูกค้าลดลงอย่างมาก ทำให้ผลประกอบการลดลงกว่าร้อยละ 30 จนต้องอาศัยรายได้จากส่วนอื่นมาชดเชยผลขาดทุน
กรมพาณิชย์กว่างซี เปิดเผยข้อมูลว่า ช่วงไตรมาสแรก ปี 56 ผลประกอบการของธุรกิจภัตตาคารขนาดใหญ่ลดลงเฉลี่ยร้อยละ 20-30 ขณะที่ภัตตาคารหรูหราบางแห่งลดลงร้อยละ 50
แนวทางการปรับตัวของภัตตาคารหรู อาทิ การลดความหรูหราลงมาทำตลาดชนชั้นกลาง การเปลี่ยนรูปแบบจากโต๊ะจีนมาเป็นบุฟเฟต์ การยกเลิกค่าใช้จ่ายขั้นต่ำในการเหมาห้องรับรอง การลดเมนูอาหารที่มีราคาแพง การเพิ่มบริการเดลิเวอรี่ถึงบ้าน การขยายเวลาบริการ การเสนอชุดเมนูอาหารครึ่งราคา และการแถมเมนูอาหารเสริม
ทั้งนี้ หากเทียบกับธุรกิจอาหารเครื่องดื่มทั่วไป (ร้านอาหารระดับกลาง-ล่าง) พบว่า ร้านอาหารทั่วไปยังคงเติบโตได้ดี ผลประกอบการของร้านอาหารเหล่านี้เพิ่มขึ้น เนื่องจากชนชั้นกลางและชนชั้นล่างไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายดังกล่าวมากนัก
BIC เห็นว่า พฤติกรรมการบริโภคของชาวกว่างซีที่รักการสังสรรค์ นิยมรับประทานอาหารนอกบ้าน และชอบแสวงหาร้านอาหารใหม่ๆ (รสชาติอร่อย แปลกใหม่ และราคาย่อมเยาว์) เป็นอีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้ร้านอาหารสำหรับกลุ่มชนชั้นกลาง-ล่างยังคงเติบโตต่อเนื่อง
การที่ระดับรายได้เฉลี่ยของชาวกว่างซีเพิ่มขึ้น (ระดับรายได้ขยายตัวสูงกว่ารายจ่าย) ยังช่วยกระตุ้นความต้องการบริโภคหรือใช้จ่ายเพื่อคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น โดยเฉพาะการกิน และการท่องเที่ยวบันเทิง
จากข้อมูลปี 55 ชาวเมืองกว่างซีมีรายได้เฉลี่ยที่สามารถนำไปใช้จ่ายได้ 21,243 หยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.7 และมีรายจ่ายเฉลี่ยเพื่อการอุปโภคบริโภคเท่ากับ 14,244 หยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.9 ในจำนวนนี้ เป็นค่าอาหาร 5,553 หยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.4
ส่วนชาวชนบทมีรายได้ในรูปของเงินสด 5,514 หยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 ในส่วนของรายจ่ายมีค่าใช้จ่ายเพื่อการดำรงชีวิต 4,878 หยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.8 ในจำนวนนี้ เป็นค่าอาหาร 2,086 หยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.1
สำหรับผู้ประกอบการไทยที่สนใจจะเข้ามาลองตลาดร้านอาหารในกว่างซี (จีน) BIC ขอให้ท่านติดตามแนวโน้ม ความเคลื่อนไหว และการเปลี่ยนแปลง ทั้งในด้านนโยบายและมาตรการต่างๆ ที่ทางการจีนนำมาใช้ปฏิบัติอยู่เป็นระยะ
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการจะต้องเตรียมความพร้อมในการศึกษาข้อมูลทางการตลาด และปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายของรัฐบาลจีน เพราะ “โอกาสมีสำหรับผู้พร้อมเท่านั้น”
บทความที่เกี่ยวข้อง
– เส้นทาง (วิบาก) การเปิดร้านอาหารไทยในแดนมังกร 3 หมวดที่ต้องทำ – 20 ขั้นตอน – ผ่าน 15 หน่วยงาน (13 พฤษภาคม 2556)