กว่างซีดึงอาเซียน พัฒนาโครงการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา

28 Jan 2016

หนังสือพิมพ์กว่างซี เดลี่: กว่างซีอาศัยข้อได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์ และการเป็นประตูสู่อาเซียน พัฒนาความร่วมมือโครงการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษากับต่างประเทศ  สนับสนุนทุนการศึกษา ดึงดูดนักศึกษาจากอาเซียน พัฒนาระบบการศึกษาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ร่วมมือพัฒนาโครงการแลกเปลี่ยนกับต่างประเทศ

แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม 5 ปี ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2553-2558) รัฐบาลกว่างซีให้การสนับสนุนและให้ความสำคัญด้านการศึกษากับต่างประเทศ ทำให้การศึกษาของนักศึกษาต่างชาติในกว่างซีมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว

ปัจจุบัน กว่างซีมีนักศึกษาต่างชาติทั้งหมด 47,623 ราย แบ่งเป็นนักศึกษาจากอาเซียนจำนวน 37,346 ราย คิดเป็นร้อยละ 78.4 ของทั้งหมด มีสถาบันการศึกษาที่รับนักศึกษาต่างชาติทั้งหมด 31 แห่ง มีนักศึกษาจาก 105 ประเทศทั่วโลก

จึงกล่าวได้ว่า กว่างซีเป็นจุดหมายปลายทางในการเรียนต่อต่างประเทศของนักศึกษาอาเซียน และเป็นหนึ่งในมณฑลที่มีนักศึกษาอาเซียนมากที่สุด

นอกจากนี้ รัฐบาลกว่างซีได้จัดตั้งทุนการศึกษาไว้สำหรับนักศึกษาต่างชาติจากประเทศอาเซียนรวมมูลค่า 72 ล้านหยวน เพื่อรับนักศึกษาทั้งหมด 1,020 ราย มีการสนับสนุนเงินทุนช่วยเหลือ 2,423 ราย และมีการมอบรางวัลให้แก่นักศึกษาเรียนดีอีก 337 ราย

เมื่อปี 2557 รัฐบาลกว่างซีได้ริเริ่มโครงการขยายการก่อสร้างหอพักสำหรับนักศึกษาต่างชาติ จนถึงปัจจุบันมีการใช้งบประมาณก่อสร้างไปแล้ว 370 ล้านหยวน คาดว่าในปี 2560 จะใช้เงินก่อสร้างทั้งหมด 500 ล้านหยวน หอพักใหม่มีพื้นที่รวม 3 แสน ตร.ม. ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาหอพักอาศัยไม่เพียงพอ สภาพความเป็นอยู่ไม่เอื้ออำนวย

ขณะเดียวกัน กรมศึกษาธิการกว่างซียังมีการจัดกิจกรรรมโรดโชว์ "Guangxi-ASEAN Education Expo" ในอาเซียน เพื่อประชาสัมพันธ์ด้านการศึกษาของกว่างซี และเจรจาโครงการความร่วมมือด้านการศึกษา กิจกรรมดังกล่าวจัดมาแล้ว 5 ครั้งในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย ลาว และกัมพูชา ซึ่งล้วนได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี

ให้สถาบันเป็นแหล่งเพาะบ่มบุคลากรอาเซียนที่มีคุณภาพ

ปัจจุบัน สถาบันการศึกษาในกว่างซีมีศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรจีน-อาเซียนทั้งหมด 9 แห่ง ยังไม่รวมถึงฐานการศึกษาภาษาจีนระดับมณฑลอีกหลายแห่ง

•  ปี 2550 สมาคมกฏหมายจีน ก่อตั้ง  "ฐานฝึกอบรมบุคลากรด้านกฏหมายจีน-อาเซียน" และปี 2553 กระทรวงสาธารณสุข ก่อตั้ง "ฐานฝึกอบรมบุคลากรด้านสาธารณสุขอาเซียน" ในมหาวิทยาลัยหลายแห่งของกว่างซี

•   พ.ค.2555 กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงศึกษาธิการจีนอนุมัติให้ก่อตั้ง "ศูนย์ฝึกอบรมด้านการศึกษาจีน-อาเซียน" ในมหาวิทยาลัยกว่างซี (บุคลากรด้านธุรกิจและนิทรรศการ) มหาวิทยาลัยชนชาติกว่างซี (บุคลากรด้านภาษาจีน) วิทยาลัยการเงินกว่างซี (บุคลากรด้านการเงินและภาษีการคลัง) และวิทยาลัยศิลปะกว่างซี (บุคลากรด้านศิลปะ)

•   ปี 2555 กระทรวงเกษตรได้ก่อตั้ง "ศูนย์ฝึกอบรมด้านการเกษตรจีน-อาเซียน" ขึ้นที่วิทยาลัยเทคโนโลยีการเกษตรกว่างซี

•   ปี 2555 กรมการท่องเที่ยวกว่างซีได้ก่อตั้ง "ฐานฝึกอบรมบุคลากรด้านการท่องเที่ยวจีน-อาเซียน" ที่มหาวิทยาลัยชนชาติกว่างซีและวิทยาลัยการท่องเที่ยวกุ้ยหลิน

•  ปี 2557 สำนักงานกิจการยาสมุนไพรจีนได้ก่อตั้ง "ฐานฝึกอบรมบุคลากร ศูนย์ความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนด้านการแพทย์และยาแผนโบราณจีน-อาเซียน" ที่มหาวิทยาลัยแพทย์และยาสมุนไพรจีนกว่างซี

 จากจุดแข็งดังกล่าว สถาบันการศึกษาในกว่างซีทำการฝึกอบรมบุคลากรให้กับอาเซียนแล้วกว่า 6,000 คน อาทิ เจ้าหน้าที่เทคโนโลยีการเกษตร 1,600 คนของเวียดนาม ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ ข้าราชการด้านการศึกษา ครูใหญ่ในโรงเรียนประถม-มัธยม และครูสอนภาษาจีนกว่า 2,500 คนของเวียดนาม ลาว กัมพูชา ไทย และอินโดนีเซีย เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของเวียดนามกว่า 1,000 คน

รัฐบาลกลางและรัฐบาลกว่างซีมีการจัดสรรประมาณอีกกว่า 100  ล้านหยวน เพื่อสนับสนุนให้นักศึกษาจีนออกไปศึกษาต่อในต่างประเทศ

ร่วมมือกับต่างประเทศ พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนร่วมกัน

ปัจจุบัน สถาบันอุดมศึกษาในกว่างซีมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ 12 แห่งในประเทศอังกฤษ  สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ และโปแลนด์ มีการจัดตั้งหลักสูตรการศึกษาระดับปริญญาตรี 14 สาขา

วิทยาลัยการศึกษาในกว่างซีมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ 6 แห่ง มีการจัดทำหลักสูตรการศึกษา 13 สาขา และสถาบันอุดมศึกษาในกว่างซีกว่า 10 แห่งล้วนมีโครงการความร่วมมือด้านการศึกษากับมหาวิทยาลัยต่างประเทศแทบทั้งสิ้น

โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในกว่างซีได้เปิดหลักสูตรนานาชาติมีจำนวน 6 แห่ง และปี 2558 วิทยาลัยการท่องเที่ยวกุ้ยหลินได้ร่วมมือกับวิทยาลัย "Ecole Hoteliere de Lausanne" (EHL)ในสวิซเซอร์แลนด์เปิดหลักสูตร "วิทยาลัยการจัดการโรงแรมนานาชาติ GL" โดยใช้มาตรฐานการเรียนการสอนของ EHL เป็นหลัก

สถาบันขงจื๊อ ช่วยเผยแพร่ภาษาจีนในอาเซียน

ภายใต้การสนับสนุนของสถาบันขงจื๊อ (Confucius Institute) จากปี 2554 เป็นต้นมา กว่างซีมีการส่งอาสาสมัครครูสอนภาษาจีนจำนวนมากไปยังประเทศไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย กัมพูชา ลาว เฉพาะในแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 มีจำนวนมากถึง 935 คน

สถาบันการศึกษาของกว่างซีได้เข้าไปก่อตั้งสถาบันขงจื๊อในอาเซียนทั้งหมด 7 แห่ง ปีที่ผ่านมา มีผู้ลงทะเบียนเรียนภาษาจีนกับสถาบันรวมกว่า 57,000 คน

นอกจากนี้ กว่างซีรับนักเรียนอาเซียนที่เดินทางมาซัมเมอร์แคมป์และวินเทอร์แคมป์มากกว่า 2,000 คน และครูใหญ่ระดับประถม-มัธยมจากอาเซียนอีกกว่า 200 คน