เรียนรู้ตลาดขาช้อป Cross Border e-Commerce ในแดนมังกร
25 Sep 2018
โดย ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง
ไฮไลท์
- การค้าปลีก e-Commerce ในจีนของปี 2560 มีมูลค่าราว 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 3 เท่าของ GDP ทั้งประเทศไทย
- 71% ของการค้าปลีกออนไลน์ในจีนมีการซื้อขายผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่
- การนำเข้า e-Commerce ข้ามพรมแดน (CBEC) กำลังมาแรงในวงการขาช้อปชาวจีน โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงานยุค Gen Y ที่เกิดในช่วงยุค 80‘ และ 90‘
- ในยุคดิจิทัล Live Streaming เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่แบรนด์สินค้าเลือกใช้ เนื่องจากสามารถเข้าถึงและโต้ตอบกับกลุ่มเป้าหมายได้ทันที
ในรายงานของศูนย์ข้อมูลเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจีน (CNNIC) ระบุว่า ณ เดือนมิถุนายน 2561 ประเทศจีนมีพลเมืองเน็ต (Netizen) มากถึง 802 ล้านคน และมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือกว่า 788 ล้านคน ในรายงานยังระบุอีกว่า Netizen ชาวจีนเกือบ 71% หรือราว 569 ล้านคนเป็นนักช้อปออนไลน์และผู้ใช้บริการชำระเงินออนไลน์ ซึ่งหลายคนคิดว่า ขอแค่ 1% ของพลเมืองเน็ตชาวจีนก็เพียงพอแล้ว
“ตลาดนักช้อปออนไลน์ชาวจีนใหญ่ขนาดไหน
ราว 8.6 เท่าของประชากรไทยทั้งประเทศ”
บริษัทให้คำปรึกษาด้านธุรกิจในจีนอย่าง iiMedia Research คาดการณ์ว่า ปี 2561 ภาพรวมการค้า CBEC ของจีน ซึ่งรวมการค้าปลีกกับ B2B จะมีมูลค่ามากถึง 9 ล้านล้านหยวน และนักช้อป CBEC จะเพิ่มเป็น 88 ล้านราย จากการสำรวจความต้องการผู้บริโภค CBEC ของ iiMedia Research พบว่า ผู้บริโภคนิยมสินค้าที่ตอบโจทย์เฉพาะตน (personalization) มีคุณภาพสูง (high quality) และมีความหลากหลาย (diversified) แทนที่จะเป็นในเรื่องราคาอย่างในอดีต
ตลาด CBEC ในจีนนั้นผูกขาดโดย Tmall Global, JD Worldwide, Kaola และ VIP Global ซึ่งแพลตฟอร์มทั้ง 4 รายนี้มีส่วนแบ่งทางการตลาดเกือบ 75% ดังนั้น การเลือกแพลตฟอร์ม CBEC ที่ใช่เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นตัวชี้วัดว่า…เส้นทางธุรกิจ CBEC ในจีนของคุณจะรุ่งหรือจะร่วง
ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 แพลตฟอร์ม Kaola ของ NetEase ได้เบียดแซง Tmall ของ Alibaba Group ขึ้นแท่นแพลตฟอร์มยอดนิยมด้วยสัดส่วนทางการตลาดที่ 26.2% ขณะที่แพลตฟอร์มรายอื่นยังคงรักษาตลาดลูกค้าที่มีความเฉพาะตัวของตัวเองไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
เหตุไฉน Kaola สามารถต่อกรกับยักษ์ใหญ่แห่งวงการอย่าง Tmall ได้ เหตุผลง่าย ๆ คือ “ความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์ม” นั่นเอง โดย iiMedia Research ชี้ว่า กลุ่มนักช้อป CBEC ชาวจีนเลือกแพลตฟอร์มที่มีคะแนนความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งเป็นการการันตีได้ว่า พวกเขาจะได้รับ “ของแท้” โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าความงามและเครื่องสำอาง/อาหาร สะท้อนให้เห็นว่า ลูกค้าบนแพลตฟอร์ม CBEC ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง
ผู้อ่านอาจสงสัยว่า Kaola กับ Tmall แตกต่างกันอย่างไร ทำไมนักช้อปจึงเลือก Kaola นั่นเป็นเพราะว่า Kaola เป็นแพลตฟอร์ม B2C ที่ NetEase ดีลกับผู้ผลิตแบรนด์ดังชั้นนำทั่วโลกด้วยตนเอง การจัดการโซ่อุปทานดังกล่าวทำให้นักช้อปเชื่อมั่นว่า จะได้รับสินค้าของแท้จาก Kaola ซึ่งแตกต่างจาก Tmall Global ที่เป็นแพลตฟอร์ม B2B2C การเป็นช่องทางเชื่อมระหว่าง B2B และ B2C เข้าด้วยกัน ทำให้นักช้อปมีข้อกังวลเกี่ยวกับตัวสินค้าว่าแท้หรือมั่ว ชัวร์หรือไม่
“การเจาะตลาด e-Commerce จีน ก่อนที่จะรู้จักตลาดเป้าหมาย
คุณต้องรู้จักตัวเองก่อน แล้วเลือกแพลตฟอร์มให้เหมาะกับธุรกิจ”
ปัจจุบัน แพลตฟอร์ม CBEC มีอยู่มากมายในตลาดจีน ซึ่งต่างก็มีลักษณะเฉพาะตัว มีจุดเด่น/จุดด้อยที่ต่างกัน และมีความเหมาะสมกับธุรกิจต่างประเภทกันไป ดังนั้น การรู้จักตัวเองก่อนว่าเราเป็นธุรกิจรูปแบบใด กลุ่มเป้าหมายเป็นใคร เป็นตัวช่วยให้คุณสามารถเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับธุรกิจได้มากที่สุด
นอกจากนี้ การใช้แพลตฟอร์มหลากหลายประเภทในการสื่อสารและกระตุ้นการขายไปยังกลุ่มลูกค้าช่วยสร้างโอกาสทำเงินให้กับธุรกิจ e-Commerce ได้มากขึ้น โดยเฉพาะ Social Media ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย อาทิ Wechat รวมทั้งการ Live Streaming ผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่เรียกได้ว่ากำลังฮิตสุด ๆ ในจีน ซึ่งมักจะใช้เน็ตไอดอลเป็นพรีเซนเตอร์เสนอขายกันแบบ hard sell หรืออาจทำในรูปโฆษณาแฝงแบบมีชั้นเชิง ให้ได้เห็นแว้บ ๆ เพื่อกระตุ้นต่อมอยากในกลุ่มแฟนคลับ
ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน มองว่า ตลาด CBEC จีนในปัจจุบันอยู่ในช่วงที่กำลังเติบโตและยังมีโอกาสอีกมากที่ให้ผู้เล่นรายใหม่เข้ามาลองตลาด ซึ่งถือเป็นจังหวะที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่สนใจในตลาด CBEC จีนที่จะเริ่มศึกษาช่องทางการขายและความต้องการของผู้บริโภคชาวจีนเพื่อเจาะตลาดจีนต่อไป
********************************