เทคโนโลยีพลังงานใหม่ และโอกาสความร่วมมือกับไทย
8 Aug 2022ปัจจุบัน “ความมั่นคงด้านพลังงาน” กลายเป็นความท้าทายระดับโลกที่หลายฝ่ายกำลังให้ความสำคัญ ในขณะที่รัฐบาลของแต่ละประเทศต่างเร่งสนับสนุนและพัฒนา “เทคโนโลยีพลังงานใหม่” เพื่อลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลนพลังงาน และลดการเผชิญปัญหาราคาพลังงานดั้งเดิมถีบตัวสูงขึ้นในตลาดโลกที่สามารถส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ มณฑลกวางตุ้งในฐานะที่เป็นแหล่งผลิตสินค้าที่สำคัญของจีนและมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในจีนมากว่า 33 ปี จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาพลังงานใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกใหม่สำหรับใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในอนาคต วันนี้ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว จะมาเล่าถึงสถานะล่าสุดของการพัฒนาของเทคโนโลยีพลังงานใหม่ของมณฑลกวางตุ้ง รวมถึงโอกาสความร่วมมือด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาดของมณฑลกวางตุ้งกับไทย
สถานะการใช้พลังงานไฟฟ้าของมณฑลกวางตุ้ง
เมื่อปี 2564 มณฑลกวางตุ้งมี GDP คิดเป็นร้อยละ 11 และมูลค่าการค้ากับต่างประเทศคิดเป็นร้อยละ 21 ของทั้งประเทศจีน มีปริมาณการใช้ไฟฟ้ากว่า 6.9 แสนล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) คิดเป็นร้อยละ 9.2 ของปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งประเทศจีน ขณะเดียวกันก็มีแหล่งพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตภายในมณฑลคิดเป็นร้อยละ 70 และอาศัยพลังงานไฟฟ้าจากภายนอกมณฑล (มณฑลยูนนาน) คิดเป็นร้อยละ 30 สำหรับไฟฟ้าที่ผลิตภายในมณฑลเป็นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานถ่านหินร้อยละ 46.8 ก๊าซธรรมชาติร้อยละ 19 พลังงานนิวเคลียร์ร้อยละ 11.5 พลังงานน้ำร้อยละ 6.7 พลังลมร้อยละ 4.3 พลังแสงอาทิตย์ร้อยละ 4.1 และพลังงานอื่น ๆ ร้อยละ 7.6 ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมการผลิตใช้ไฟฟ้ามากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 60.72 ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดของมณฑลกวางตุ้ง รองลงมาคือภาคบริการที่ร้อยละ 20.45 ภาคประชาชนและสังคมร้อยละ 17.03 และภาคการเกษตรที่ร้อยละ 1.81
มณฑลกวางตุ้งกับการพัฒนาแหล่งพลังงานสะอาด
ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลมณฑลกวางตุ้งได้จัดสรรงบประมาณและออกนโยบายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาพลังงานใหม่โดยมีนโยบายที่สำคัญ ได้แก่ เมื่อปี 2564 รัฐบาลมณฑลกวางตุ้งได้ออก “แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14” ซึ่งได้กำหนดภารกิจเรื่องการสร้างความมั่นคงทางพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำโดยมุ่งเน้นการพัฒนาและเพิ่มกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าจาก “พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์” และล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 รัฐบาลมณฑลกวางตุ้งได้ออก “แผนปฏิบัติการพัฒนาการเงินสีเขียวเพื่อสนับสนุนเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสูงสุด มณฑลกวางตุ้ง” (Guangdong province’s implementation plan for the development of green finance to support the implementation of carbon peak-related actions) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนด้านการเงินให้แก่อุตสาหกรรมพลังงานใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งชัดเจนว่ารัฐบาลกวางตุ้งมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการพัฒนาแหล่งพลังงานใหม่เพื่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยศูนย์ BIC ขออัพเดตสถานะพลังงานใหม่ที่มณฑลกวางตุ้งให้ความสำคัญ ดังนี้
(1) พลังงานลม
มณฑลกวางตุ้งเป็นที่ตั้งของโครงการกังหันลมผลิตไฟฟ้านอกชายฝั่งที่มีความสำคัญระดับชาติ 2 แห่ง ได้แก่ (1) โครงการสวนกังหันลมนอกชายฝั่งจินวาน เมืองจูไห่ (Zhuhai Jinwan offshore wind farm) ซึ่งเป็นโครงการสวนกังหันลมนอกชายฝั่งที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง (installed power generation capacity) มากที่สุดของจีนซึ่งประกอบด้วยกังหันลม 55 ตัว ผลิตไฟฟ้าได้ปีละ 800 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) และ (2) โครงการฟาร์มกังหันลมแบบลอยน้ำที่เมืองหยางเจียง (Shaba offshore wind project) ซึ่งเป็นโครงการที่รองรับการผลิตไฟฟ้า 500 MW และเป็นโครงการฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งน้ำลึกแห่งแรกของจีน
มณฑลกวางตุ้งยังเป็นที่ตั้งของบริษัท MingYang Zhongshan ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีกังหันลมที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก และเป็นผู้ผลิตกังหันลมนอกชายฝั่งลอยน้ำที่สามารถต้านพายุไต้ฝุ่นได้เป็นเครื่องแรกของโลกเทคโนโลยีกังหันลมของบริษัท MingYang ช่วยให้กังหันลมสามารถทำงานได้ในช่วงความเร็วลมระหว่าง 10 กิโลเมตรต่อวินาที (m/s) – 78.82 กิโลเมตรต่อวินาที (m/s)[1] โดยกังหันลมรุ่นดังกล่าว 1 ตัวสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ปีละ 45 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง (kWh) เพียงพอต่อการใช้ไฟฟ้าใน 23,000 ครัวเรือนตลอดปี
(2) พลังงานแสงอาทิตย์
เมื่อปี 2564 มณฑลกวางตุ้งมีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สะสม 10.2 ล้านกิโลวัตต์ (KW) สูงเป็นอันดับที่ 15 ของจีน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.3 ของกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าทั้งหมดของจีน และร้อยละ 6.3 ของกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าทั้งหมดของมณฑลกวางตุ้ง ทั้งนี้ มณฑลกวางตุ้งเป็นแหล่งผลิตและส่งออกแผงโซล่าเซลล์ (p hotovoltaic) ที่สำคัญของจีน โดยเมื่อปี 2564 มณฑลกวางตุ้งส่งออกแผงโซล่าเซลล์มูลค่า 499 ล้านดอลลาร์สหรัฐมากเป็นอันดับ 8 ของจีน
มณฑลกวางตุ้งเป็นที่ตั้งของบริษัท Aiko ซึ่งเป็นบริษัทผลิตแผงโซล่าเซลล์ (photovoltaic) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองฝอซาน โดยเมื่อปี 2564 บริษัท Aiko ส่งออกแผงโซล่าเซลล์ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง[2] กว่า 31,274 เมกะวัตต์ (MWp) มากเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยบริษัท Aiko ผลิตแผงโซล่าเซลล์โดยใช้เทคโนโลยี Tubular bifacial PERC technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพให้กับแผงโซล่าเซลล์ โดยสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ที่ส่งมายังแผงโซล่าเซลล์โดยตรง และจากแสงรอบด้านที่ตกกระทบมายังแผงโซล่าเซลล์ด้วย
(3) พลังงานนิวเคลียร์
มณฑลกวางตุ้งมีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์มากที่สุดในจีนและผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานนิวเคลียร์มากเป็นอันดับ 1 ของจีน โดยเมื่อปี 2564 มณฑลกวางตุ้งมีศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ปีละ 141,386 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง (kW-h) โดยได้จ่ายไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานนิวเคลียร์ไป 120,410 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง (kW-h) เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.73 จากปี 2563 ล่าสุด เมื่อเดือนเมษายน 2565 คณะรัฐมนตรีจีนอนุมัติเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพิ่มอีก 2 เครื่องที่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ลู่เฟิง (Lufeng nuclear power plant) ที่เมืองซ่านเหว่ย มณฑลกวางตุ้ง เพิ่มเติมจาก โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ไห่หยาง (Haiyang nuclear power plant) ที่มณฑลซานตง และโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ซานเหมิน (Sanmen nuclear power station) ที่มณฑลเจ้อเจียง
ปัจจุบัน มณฑลกวางตุ้งมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เปิดใช้งานแล้วจำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วยเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์จำนวนมากที่สุดในจีนรวม 14 เครื่อง ได้แก่ (1) โรงไฟฟ้า Daya Bay nuclear power plant ที่เมืองเซินเจิ้นมีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 เครื่อง (2) โรงไฟฟ้า[3] ที่เมืองเซินเจิ้นมีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 4 เครื่อง (3) โรงไฟฟ้า Yangjiang nuclear power plant ที่เมืองหยางเจียง มีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 6 เครื่อง (4) โรงไฟฟ้า Taishan nuclear power plant ที่เมืองฮุ่ยโจว มีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 เครื่อง และมีโรงไฟฟ้าที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง 2 แห่ง ได้แก่ (1) โรงไฟฟ้า Lufeng nuclear power plant ที่เมืองซ่านเหว่ย และ (๒) โรงไฟฟ้า Taipingling nuclear power station ที่เมืองฮุ่ยโจว
(4) พลังงานไฮโดรเจน
มณฑลกวางตุ้งยังมีศักยภาพในการผลิตไฮโดรเจนมากที่สุดในจีน โดยสามารถผลิตไฮโดรเจนได้มากถึง 6,740 ล้านลูกบาศก์นาโนเมตรต่อปี (Nm3/year) และมณฑลกวางตุ้งมีบริษัทด้านพลังงานเชื้อเพลิงไฮโดรเจน 1,450 แห่ง มากที่สุดในจีน มากกว่าในมณฑลเจียงซู ซึ่งรั้งอันดับ 2 (มีจำนวน 851 แห่ง) เกือบสองเท่า และมณฑลซานตง (อันดับ 3 มีจำนวน 593 แห่ง) เกือบสามเท่า
มณฑลกวางตุ้งเป็นที่ตั้งของบริษัท Sinosynergy ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถโดยสารพลังงานไฮโดรเจนที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองหยุนฝู โดยบริษัท Sinosynergy มีกำลังการผลิตรถโดยสารพลังงานไฮโดรเจนปีละ 20,000 คัน ปัจจุบัน บริษัท Sinosynergy ผลิตรถโดยสารที่ใช้งานอยู่บนท้องถนนกว่า 5,000 คัน ใน 39 เมืองของจีนคิดเป็นร้อยละ 10 ของปริมาณรถโดยสารพลังงานไฮโดรเจนทั้งหมดที่วิ่งอยู่บนท้องถนนทั่วโลก และบริษัท Sinosynergy ยังเป็นบริษัทผลิตรถโดยสารพลังงานไฮโดรเจนรายแรกของจีนที่ส่งออกรถโดยสารพลังงานไฮโดรเจนมาตรฐานยุโรปไปยังมาเลเซีย อนึ่ง จุดเด่นของรถโดยสารพลังงานไฮโดรเจนของบริษัท Sinosynergy คือ สามารถเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนได้ภายใน 3 – 5 นาที (รถบัสโดยสารพลังงานไฮโดรเจนทั่วไปต้องใช้เวลาเติมเชื้อเพลิง 10 นาที) อีกทั้งยังสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลถึง 500 กิโลเมตรต่อการเติมเชื้อเพลิงหนึ่งครั้ง อีกทั้ง ไม่มีการปล่อยมลพิษ เสียงต่ำ และมีระบบการทำงานที่เสถียรนอกจากนี้ ภายในปี 2568 บริษัท Sinosynergy มีแผนที่จะพัฒนาและส่งเสริมการใช้รถโดยสารพลังงานไฮโดรเจนสำหรับการขนส่งสาธารณะต่อไป
โอกาสความร่วมมือกับไทย
ความมั่นคงทางพลังงานเป็นวาระเร่งด่วนที่รัฐบาลแต่ละประเทศต่างเร่งขบคิดวางแผน โดยรัฐบาลมณฑลกวางตุ้งที่รับผิดชอบมณฑลที่มีความโดดเด่นด้านอุตสาหกรรมการผลิตระดับโลกจนได้รับขนานนามว่าเป็น “โรงงานของโลก” ตระหนักเป็นอย่างยิ่งถึงความสำคัญของการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน และได้จัดสรรงบประมาณและออกนโยบายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาพลังงานใหม่อย่างครอบคลุมและเป็นระบบ นับเป็นมณฑลแรก ๆ ของจีน ทั้งยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องและแข็งขันต่อไป
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว จึงเล็งเห็นว่า เป็นโอกาสดีหากประเทศไทยจะสามารถพัฒนาความร่วมมือด้านพลังงาน ใหม่กับมณฑลกวางตุ้งที่จะนําไปสู่การร่วมกันพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านพลังงานใหม่ของไทย โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานไฮโดรเจน ที่ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นการวิจัยและพัฒนา[4] ให้ก้าวรุดหน้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมา สถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือในด้านพลังงานใหม่ อาทิ การจัดการพบหารือกับภาคเอกชนที่มีศักยภาพในด้านการจัดการพลังงานใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่และมีแผนการดำเนินงานในอนาคตเพื่อให้ทันกับความต้องการพลังงานใหม่ที่เพิ่มขึ้นตามกระแสโลก
[1] กังหันลมทั่วไปจะหยุดทำงานเมื่อความเร็วลมสูงกว่า 25 กิโลเมตรต่อวินาที (m/s)
[2] “ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง” หมายถึงขนาดกำลังการผลิตสูงสุดของแผงโซล่าเซลล์ (photovoltaic panel) ที่มีหน่วยเป็นเมกะวัตต์ (MWp)
[3] โรงไฟฟ้า Ling-ao Nuclear Power Plant เป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดของจีนและใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก
[4] ในส่วนของประเทศไทย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559 กระทรวงพลังงานได้ประกาศแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี (2551 – 2565) (Alternative Energy Development Plan) โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะลดการนำเข้าน้ำมันและเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงาน และมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนให้เป็นร้อยละ 20 ของการใช้พลังงานขั้นสุดท้ายของไทย ภายในปี 2565 อย่างไรก็ดี ภาพรวมการพัฒนาด้านพลังงานทดแทนของไทยยังอยู่ช่วงการวิจัยและพัฒนา
แหล่งที่มาของข้อมูล
http://www.myse.com.cn/en/jtxw/info.aspx?itemid=881
http://www.gdsolar.org/dongtaiinfo_2044.html
https://www.nrel.gov/docs/fy22osti/82854.pdf
http://en.aikosolar.com/TECHNOLOGY.html
https://www.scmp.com/business/china-business/article/3179447/china-has-discreetly-taken-10-cent-worlds-market-hydrogen
http://www.cnbayarea.org.cn/english/News/content/mpost_652001.html
http://www.gd.gov.cn/xxts/content/post_3909373.html
http://www.gd.gov.cn/attachment/0/486/486725/3909373.pdf
https://baijiahao.baidu.com/s?id=1730682698689321598&wfr=spider&for=pc
https://www.163.com/dy/article/H71HAIKQ0514R9OM.html
https://xw.qq.com/cmsid/20220623A05SJB00
https://policy.asiapacificenergy.org/sites/default/files/REDP%202008-2020.pdf
http://www.huaon.com/channel/distdata/782330.html
https://xw.qq.com/cmsid/20220325A07X6M00
http://news.sohu.com/a/507078757_121106875
https://baijiahao.baidu.com/s?id=1692362769828376830&wfr=spider&for=pc
https://baijiahao.baidu.com/s?id=1700294734565587688&wfr=spider&for=pc