เก็บตกงาน CIIE เซี่ยงไฮ้ (ตอนจบ: ธุรกิจไทยก็ไม่น้อยหน้า!! ยกขบวนเข้าร่วมงาน CIIE คับคั่ง)
5 Jan 2022ปี 2564 รัฐบาลเซี่ยงไฮ้ได้จัดการแสดงสินค้านำเข้านานาชาติจีน ครั้งที่ 4 (4th China International Import EXPO – CIIE 2021) ขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 10 พฤศจิกายน 2564 ที่ National Exhibition and Convention Center (NECC) โดยได้เชิญผู้นำต่างประเทศ องค์กรระหว่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต รวมถึงสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ เข้าร่วมในงานดังกล่าวอย่างคับคั่ง โดยเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 นางสาวลดา ภู่มาศ กงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้และคณะ ได้เยี่ยมชมบูธผู้ประกอบการไทยที่จัดขึ้นโดยกระทรวงพาณิชย์และภาคธุรกิจไทยในเซี่ยงไฮ้ อาทิ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และธนาคารกสิกรไทย ฯลฯ
ธุรกิจไทยเข้าร่วมงาน CIIE คับคั่ง
งาน CIIE ในปีนี้ ประเทศไทยโดยกระทรวงพาณิชย์ได้เข้าร่วมจัดบูธภายใต้ธีม “Thailand Delivers with Safety” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคชาวจีนว่า สินค้าไทยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูงทั้งในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย ซึ่งรัฐบาลไทยโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังได้เร่งผลักดันนโยบาย 3Sได้แก่ ความปลอดภัยของอาหาร (safety) ความมั่นคงของภาคเกษตรและอาหาร (security) และความยั่งยืนของภาคการเกษตร (sustainability) ซึ่งประเทศไทยตั้งเป้าหมายที่จะเป็น “Green Kitchen of the World”และมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมสายการผลิตในทุกขั้นตอนจากมือผู้ผลิตสู่มือผู้บริโภค (From Farm to Fork) ด้วย
การจัดแสดงสินค้าและบริการใน CIIE ครั้งที่ 4 ของไทยนี้ครอบคลุมถึงสินค้าอาหาร สินค้าเกษตรทั้งสดและแปรรูป เครื่องดื่ม เครื่องปรุงอาหาร ขนมขบเคี้ยว และธุรกิจบริการ ฯลฯ เพื่อรองรับการเปิดประเทศของไทยและฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์ COVID-19 โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมบูธ 120 รายทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ในพื้นที่ 570 ตารางเมตร แบ่งการจัดนิทรรศการเป็น 3 ส่วน ได้แก่ Future Food, E-Commerce, Thai Food Country Tmall Official Store และ Thai Select ทั้งนี้ มีมูลค่าการสั่งซื้อทันทีในงานรวมกว่า 3.2 ล้านหยวน (ประมาณ 16.71 ล้านบาท) โดยสินค้าไทยที่ได้รับความนิยมสูง ได้แก่ ผลไม้อบแห้ง ขนมขบเคี้ยว และเครื่องปรุงรส
ในขณะที่บูธของเครือเจริญภัณฑ์ (CP) จัดขึ้นภายใต้ธีม “Thailand Kitchen of the World” ซึ่งเป็นบูธขนาดใหญ่อันดับหนึ่งในโซนอาหารและสินค้าเกษตร โดยจัดแสดงสินค้ายอดนิยมในจีนรวมพื้นที่ 500 ตารางเมตร เช่น ข้าวหอมมะลิตราฉัตร เนื้อสัตว์แปรรูป สินค้าเกษตรแปรรูป สินค้าอาหารเพื่อสุขภาพ เป็นต้น โดยได้รับความสนใจจากผู้บริโภคชาวจีนเป็นอย่างมาก
ในส่วนสินค้าภาคบริการของไทยในจีนนั้น ธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารที่ได้เข้ามาดำเนินกิจการในจีนตั้งแต่ปี 2537 และในนครเซี่ยงไฮ้ตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งสอดรับนโยบายการเปิดกว้างและพัฒนาของรัฐบาลจีนและเซี่ยงไฮ้ โดยธนาคารกสิกรไทยพร้อมให้บริการทั้งทางการเงินทั้งในด้านสินเชื่อ การทำธุรกรรมระหว่างประเทศ ที่ปรึกษาด้านธุรกิจในจีนและไทย ตลอดจนจับคู่ทางธุรกิจ เพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงทางการค้าการลงทุนแก่กลุ่มลูกค้าทางธุรกิจด้วยเครือข่ายการให้บริการที่ครอบคลุมในภูมิภาคอาเซียน – จีน
แพลตฟอร์มยิ่งใหญ่.. สร้างโอกาสให้ทั่วโลก
แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ทั่วโลกจะยังไม่คลี่คลาย แต่งาน CIIE ในปีนี้ก็ยังมีผู้ประกอบการเข้าร่วมงานกว่า 3,000 รายจาก 127 ประเทศ (ภูมิภาค) โดยมีผู้เข้าร่วมชมในรูปแบบออนไลน์ 58 ล้านครั้ง และได้สร้างมูลค่าทางการค้า 7.07 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีสินค้ารวมถึงบริการ/ เทคโนโลยีใหม่กว่า 420 รายการที่มาเปิดตัวเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ มีผู้เข้าชมนิทรรศการแบบออฟไลน์ 480,000 คน โดยมีภาคธุรกิจได้จับจองพื้นที่จัดแสดง CIIE ครั้งที่ 5 ในปี 2565 แล้วกว่า 150,000 ตารางเมตร
งาน CIIE ครั้งนี้มีความพิเศษกว่าปีก่อน ๆ เนื่องจากเป็นการฉลองครบรอบ 20 ปีการเข้าร่วมองค์การการค้าโลก (WTO) ของจีนนับตั้งแต่ปี 2544 โดยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาจีนได้พยายามเปิดกว้างและพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งงาน CIIE เป็นงานแฟร์แห่งแรกของโลกที่มุ่งเน้นสินค้านำเข้าเป็นหลัก โดยมีนครเซี่ยงไฮ้เป็นสถานที่จัดงานตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา จึงอาจกล่าวได้ว่า CIIE เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่จีนจะประกาศให้ทั่วโลกได้ทราบว่า “ทุกวันนี้จีนได้เปิดกว้างอย่างเต็มที่” และพร้อมที่จะให้ทั่วโลกได้รับโอกาสจากการพัฒนาของจีนใน 3 ด้าน ได้แก่
(1) การเร่งเปิดกว้างทางเศรษฐกิจทั้งสำหรับภาคเอกชนจีนและต่างประเทศให้ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม และให้บริษัทต่างชาติได้รับผลประโยชน์จากการเข้าสู่ตลาดจีน (2) การคุ้มครองระบบการค้าแบบพหุภาคี ผลักดัน การปฏิรูปของ WTO อย่างสร้างสรรค์ และ (3) ส่งเสริมความร่วมมือทั้งในกรอบทวิภาคี/ ภูมิภาค รวมถึงผลักดันการลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีที่มีคุณภาพมากขึ้น ตลอดจนการสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า งาน CIIE เป็นงานนิทรรศการที่รัฐบาลจีนให้ความสำคัญอย่างมาก เนื่องจาก “เป็นหน้าเป็นตา” ที่สำคัญของจีน ซึ่งแม้ว่าจะมีการแพร่ระบาด COVID-19 แต่จีนก็ยังคงยืนหยัดจัดงาน CIIE อย่างต่อเนื่อง 4 ปี โดยได้ปรับเปลี่ยนให้มีรูปแบบการจัดแสดงสินค้าแบบออนไลน์ควบคู่กับแบบออฟไลน์ ซึ่งสามารถเชื่อมโยงและเปิดโอกาสให้ธุรกิจต่างชาติได้ใช้ประโยชน์จากงาน CIIE เพื่อขยายธุรกิจสู่ตลาดจีน ตลอดจนเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการต่างชาติสามารถนำ “ผลงานโบว์แดง” มาโชว์ตัว เพื่อให้ผู้บริโภคในจีนได้รับรู้ถึงความก้าวหน้าของธุรกิจ ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจไทยจึงสามารถพิจารณาใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มงาน CIIE อย่างเต็มที่ ซึ่งนอกจากจะมีโอกาสได้เรียนรู้แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคจีนในปัจจุบันแล้ว ยังสามารถที่จะศึกษาความก้าวหน้าของกลุ่มสินค้าคู่แข่งจากประเทศอื่น ๆ ได้เช่นกัน
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม
ในโอกาสที่บทความ 2 ตอนได้กล่าวถึง CIIE ครั้งที่ 4 จึงจะขอโอกาสนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตราสัญลักษณ์ในปีนี้ ได้แก่ หมีแพนด้าที่ชื่อ “จิ้นเป่า (进宝)” มีความหมายว่าผ้าพันคอโทนเหลืองและสีน้ำเงิน สื่อถึงเส้นทางสายไหมทางบกและเส้นทางสายไหมทางทะเล หมายถึงงาน CIIE มีความเกี่ยวโยงกับยุทธศาสตร์จีน “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ส่วนใบโคลเวอร์ที่อยู่ในมือของจิ้นเป่า นอกจากจะสื่อถึงสถานที่จัดงานของ CIIE คือ NECC ที่มีโครงสร้างเหมือนใบโคลเวอร์แล้ว ยังหมายถึงความสุขความโชคดี และความเจริญรุ่งเรืองด้วย นอกจากจิ้นเป่าแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญกับงาน CIIE เป็นอย่างมาก คือ นักศึกษาอาสาสมัครหรือที่รู้จักกันในนาม “Little Leaves (小叶子)” ที่ตั้งชื่อตามโครงสร้างของ NECC จำนวน 4,746 คน จากกว่า 40 สถาบันในเซี่ยงไฮ้ที่ได้รับการคัดเลือกจาก Youth League Shanghai เข้ามาช่วยงานใน CIIE เช่น งานประชาสัมพันธ์ของหายได้คืน การแนะนำเส้นทางแก่ผู้เข้าชม การช่วยงานด้านสื่อและนักข่าว เป็นต้น ซึ่งช่วยเปิดประสบการณ์การเรียนรู้และการทำงานในสถานการณ์จริงที่สำคัญสำหรับนักศึกษา
*****************************
จัดทำโดย นางสาวณัฐธิดา นิสภกุลชัย ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีนประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้
ข้อมูลอ้างอิง :
- การเข้าร่วมงาน CIIE ครั้งที่ 4 ที่นครเซี่ยงไฮ้
- https://www.chinadaily.com.cn หัวข้อ RCEP to drive growth of cross-border e-commerce in China
- https://www.shine.cn/ หัวข้อ “Little leaves” seen off as CIIE comes to a close