BUD Fund โอกาสความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างฮ่องกงกับไทยและ ASEAN
7 Nov 2019เมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๕๕ (ค.ศ. ๒๐๑๒) รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงได้เปิดตัวกองทุนพิเศษ “เพื่อการสนับสนุนผู้ประกอบการ สำหรับการพัฒนาแบรนด์ การยกระดับ และการขยายการขายในประเทศ (Dedicated Fund on Branding, Upgrading and Domestic Sales – Enterprise Support; มีชื่อย่อว่า BUD Fund หรือ กองทุนพิเศษ BUD)” ตามแผนยุทธศาสตร์ฮ่องกง ฉบับที่ ๑๒ เพื่อสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมในฮ่องกง (SMEs) หรือกลุ่มผู้ประกอบการใหม่ที่ต้องการแสวงหาโอกาสทางเศรษฐกิจ ให้สามารถมีทุนทรัพย์ที่จะยกระดับธุรกิจและมาตรฐานของสินค้าของตนให้สูงขึ้น โดยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น ๑ พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง ต่อมาในเดือนสิงหาคม ๒๕๖๑ (ค.ศ. ๒๐๑๘) รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงได้ขยายโครงการโดยเพิ่มพื้นที่สำหรับการใช้ประโยชน์กองทุนพิเศษ BUD เพื่อการลงทุนในตลาดประเทศสมาชิกอาเซียน รวมทั้งอัดฉีดเงินทุนรวม ๑.๕ พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง ใน “โครงการอาเซียน” ภายใต้ “กองทุนเพื่อการสนับสนุนผู้ประกอบการ สำหรับการพัฒนาแบรนด์ การยกระดับ และการขยายการขายในประเทศ” เพื่อสนับสนุนบริษัทที่ได้จดทะเบียนในฮ่องกงให้สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดอาเซียน โดยผู้ประกอบการสามารถขอรับเงินทุนสนับสนุนได้สูงสุด ๑ ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งโครงการดังกล่าวครอบคลุมการลงทุนในประเทศสมาชิกอาเซียนทุกประเทศ ได้แก่ บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม
โครงการอาเซียน
ผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินทุน | ผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนธุรกิจภายใต้กฎหมายของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง |
เงินทุนต่อโครงการ | สูงสุด ๑ ล้านดอลล่าร์ฮ่องกง |
จำนวนโครงการต่อผู้ประกอบการ | สูงสุด ๑๐ โครงการ เงินทุนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน ๑ ล้านดอลลาร์ฮ่องกง |
การใช้จ่ายเงินทุน(ผู้ประกอบการสามารถเลือกแนวทางจากข้อใดข้อหนึ่ง) | ๑. กรณีรับเงินทุนก้อนแรกก่อนดำเนินโครงการ
ผู้ประกอบการต้องเปิดบัญชีเฉพาะสำหรับโครงการที่จะขอรับการสนับสนุนจากกองทุนฯ เพื่อแสดงให้เห็นการบริหารจัดการเงินทุนดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจะสามารถดำเนินธุรกิจได้หลังจากได้รับเงินทุนแล้ว เท่านั้น ๒. กรณีรับเงินทุนก้อนแรกภายหลังจากดำเนินโครงการ ผู้ประกอบการยังไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีสำหรับการบริหารจัดการเงินทุนฯ และสามารถดำเนินธุรกิจได้เลยหลังจากส่งใบสมัคร |
การติดตามการดำเนินโครงการ
ระยะเวลาดำเนินโครงการ | รายงานความก้าวหน้าโครงการและการตรวจสอบบัญชีประจำปี | รายงานผลและการตรวจสอบบัญชีขั้นสุดท้ายของโครงการ |
กรณี ๑๘ เดือน หรือน้อยกว่า | – | ยื่นส่งภายใน ๒ เดือน หลังจากเสร็จสิ้นโครงการ |
มากกว่า ๑๘ เดือน แต่ไม่เกิน ๒๔ เดือน | รายงานผลการดำเนินการความก้าวหน้าของโครงการในระยะ ๑๒ เดือนและผลตรวจสอบบัญชีประจำปี ภายใน ๑ เดือน หลังจากครบเดือนที่ ๑๒ ของโครงการ | ยื่นส่งภายใน ๒ เดือน หลังจากเสร็จสิ้นโครงการ |
การจัดสรรเงินทุน
วิธีการจัดสรรเงินทุน | กรณีรับเงินทุนก้อนแรกก่อนดำเนินโครงการ | กรณีรับเงินทุนก้อนแรกภายหลังจากดำเนินโครงการ |
กรณี ๑๘ เดือน หรือน้อยกว่า | เงินทุนก้อนแรก : รัฐบาลจัดสรรให้ร้อยละ ๒๕ ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติทั้งหมด เงินทุนก้อนที่สอง : ไม่มีการเบิกจ่ายเงินก้อนสุดท้าย : รัฐบาลสรรเงินทุนตามรายจ่ายจริงภายหลังโครงการเสร็จสิ้น | เงินทุนก้อนแรก : ไม่มีการเบิกจ่ายเงินก้อนที่สอง : ไม่มีการเบิกจ่ายเงินก้อนสุดท้าย : รัฐบาลจัดสรรให้ภายในวงเงินที่ได้รับอนุมัติทั้งหมด |
มากกว่า ๑๘ เดือน แต่ไม่เกิน ๒๔ เดือน | เงินทุนก้อนแรก: รัฐบาลจัดสรรให้ร้อยละ ๒๕ ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติทั้งหมด
เงินทุนก้อนที่สอง: รัฐบาลจัดสรรให้ร้อยละ ๒๕ ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติทั้งหมด โดยขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าและค่าใช้จ่ายจริงของโครงการ เงินทุนก้อนสุดท้าย: รัฐบาลจัดสรรเงินทุนตามรายจ่ายจริงภายหลังโครงการเสร็จสิ้นหมายเหตุ การจัดสรรเงินทุนเกิดขึ้นภายหลังที่รัฐบาลได้รับรายงานผลความก้าวหน้าโครงการและการตรวจสอบบัญชีประจำปี |
เงินทุนก้อนแรก : ไม่มีการเบิกจ่าย
เงินทุนก้อนที่สอง: รัฐบาลจัดสรรให้ร้อยละ ๕๐ ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติทั้งหมด โดยขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าและค่าใช้จ่ายจริงของโครงการ เงินทุนก้อนสุดท้าย : รัฐบาลจัดสรรเงินทุนตามรายจ่ายจริงภายหลังโครงการเสร็จสิ้น หมายเหตุ การจัดสรรเงินทุนเกิดขึ้นภายหลังที่รัฐบาลได้รับรายงานผลความก้าวหน้าโครงการและการตรวจสอบบัญชีประจำปี |
ข้อแนะนำสำหรับผู้สมัครเข้าร่วมโครงการ
๑. โครงการ BUD Fund ไม่มีการขอเก็บค่าธรรมเนียมใด ๆ ควรพึงระวังบุคคลที่แอบอ้างใช้ชื่อของโครงการฯ ในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่าง ๆ จากผู้สมัคร
๒. ควรพึงระวังกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นบริษัทตัวแทนที่สามารถช่วยเหลือในการดำเนินการโครงการนี้กับทางรัฐบาล หากท่านพบเจอกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้สามารถติดต่อหรือร้องเรียนทางสำนักงานเลขาธิการโครงการ BUD Fund ได้
๓. ห้ามผู้ประกอบการใช้เอกสารหรือสำเนาประกอบการสมัครที่บิดเบียนข้อมูลจริง หากละเมิดจะโดนดำเนินคดีตามกฏหมาย
ข้อแนะนำในการยื่นเอกสาร
ควรศึกษารายละเอียดการเตรียมเอกสารให้เรียบร้อยสมบูรณ์ เพราะสำนักงานเลขาธิการโครงการ BUD Fundจะไม่รับเรื่องการขอเงินทุนสนับสนุนหากรายละเอียดเอกสารไม่สมบูรณ์ตามข้อกำหนด และจะเริ่มกระบวนการพิจารณาการสมัครฯ ได้เมื่อเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์เท่านั้น
๑) เอกสารฉบับสมบูรณ์ ส่งในรูปแบบของ MS word ( ภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษ )
๒) เอกสารฉบับสมบูรณ์ พร้อมลายเซ็นและตราประทับของบริษัท
๓) เอกสารอ้างอิงอื่น ๆ
– สำเนาเอกสารรับรองการจดทะเบียนของบริษัท
– สำเนาเอกสารแสดงหลักฐานการเป็นเจ้าของและผู้ถือหุ้นของบริษัท
– สำเนาเอกสารแสดงหลักฐานการดำเนินธุรกิจในฮ่องกงของบริษัท
– สำเนาเอกสารแสดงหลักฐานการลงทุนของบริษัทฮ่องกงในประเทศอาเซียน
จะมีการเปิดรับสมัครตลอดทั้งปี โดยจะมีการรวบรวมและพิจารณาเอกสารต่าง ๆ ของผู้สมัครทุก ๆ ๓ เดือน ทั้งนี้ ผู้สมัครสามารถยื่นใบสมัครได้จนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ (ค.ศ. ๒๐๑๙) ก่อนเวลา ๑๘.๐๐ น.
ศึกษารายละเอียดได้ที่
https://www.bud.hkpc.org/en/content/asean-programme-launched-1-aug-2018
**************************
นางสาว เทิดขวัญ แผ้วสว่าง เจ้าหน้าที่ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ (BIC)
นาย ดนุเดช สุกิจจวนิช ทีมเศรษฐกิจ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง