เก็บตกงาน China-ASEAN Expo ครั้งที่ 21 กระแสตอบรับสินค้าไทยดีแค่ไหน ใครอยากไปยกมือขึ้น
20 Dec 2024
นางสาวฉิน อวี้อิ๋ง เขียน
นายกฤษณะ สุกันตพงศ์ เรียบเรียง
ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน (BIC)
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง
กลับมาอีกครั้ง!!! กับมหกรรมแสดงสินค้าสุดยิ่งใหญ่ของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง (จีน) กับชาติสมาชิกอาเซียน —— งานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน หรือ China-ASEAN Expo (CAExpo) ซึ่งจัดติดต่อกันเป็นปีที่ 21 ระหว่างวันที่ 24-28 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา
สำหรับ “ประเทศไทย” ในงาน China-ASEAN Expo ครั้งที่ 21 เรียกได้ว่า… ปีนี้ Thailand Pavilion เรา ‘กลับมา’ อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการขนทัพผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมเต็มฮอลล์ถึง 143 ราย ใน 4 กลุ่มสินค้า ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม สินค้าแฟชั่น และของตกแต่งบ้าน
เช่นเคย… วันนี้ บีไอซี ขอชวนท่านผู้อ่านไปเก็บตกสาระดี ๆ ในงาน China-ASEAN Expo ครั้งที่ 21 จากผู้ประกอบการไทยหน้าเก่า-หน้าใหม่ที่พร้อมแชร์ข้อคิดเห็นและแบ่งปันประสบการณ์การออกบูธในงานปีนี้ ไปดูกันว่า… เทรนด์การบริโภคของชาวหนานหนิงเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
ในยุคที่สมรภูมิธุรกิจมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือน ทำให้ธุรกิจต้อง ‘ก้าวออกไป’ มองหาตลาดหรือกลุ่มเป้าหมายใหม่ให้กับสินค้าและบริการ โดย 1 ในกลยุทธ์การตลาดที่ได้รับความนิยมและช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจได้มากมาย คือ “การออกบูธในงานแสดงสินค้า” นอกจากจะช่วยเพิ่มโอกาสในการนำเสนอขายสินค้าและบริการโดยตรง (Direct Sales) ลูกค้าสามารถทดลองใช้สินค้า และตัดสินใจซื้อสินค้าได้ทันทีแล้ว ที่สำคัญ เป็นสร้างการรับรู้ในแบรนด์ (Brand Awareness) จากกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ และสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ (Networking) ขยายฐานลูกค้าใหม่/พันธมิตรทางธุรกิจ

Thailand Pavilion ในงาน CAEXPO ปีนี้ ผู้ประกอบการไทยได้นำ “นวัตกรรมอาหารไทย” ที่สร้างความ ‘ว้าว’ ให้ผู้เยี่ยมชมงานได้ไม่น้อย
นวัตกรรมที่ว่าก็คือ “อาหารไทยฟรีซดราย” (Freeze dried) ซึ่งเป็นกรรมวิธีการแปรรูปอาหารด้วยเทคโนโลยี Fresh Freeze-drying ที่ช่วยให้เมนูอาหารไทยสามารถเก็บไว้ได้นานในรูปแบบอาหารแห้งฟรีซดราย และกลับคืนรูปเหมือนอาหารที่เพิ่งปรุงสดใหม่ได้ง่ายๆ เพียงการเติมน้ำร้อน/เย็น (ขึ้นอยู่กับเมนูอาหาร) ก็พร้อมเสริฟให้ทุกคนได้อิ่มอร่อยทุกที่ทุกเวลา
บริษัท Piromporn Agriculture เจ้าของนวัตกรรมอาหารไทยฟรีซดราย เป็นผู้ประกอบการ ‘หน้าใหม่’ ที่เพิ่งมาออกบูธในงาน China-ASEAN Expo เป็นครั้งแรก คุณพัชรา กรุงศรี ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัท Piromporn ให้ข้อมูลว่า สินค้าที่ได้รับการตอบรับดีที่สุด คือ ต้มยำกุ้งและส้มตำ เทคโนโลยีฟรีซดราย ช่วยให้อาหารสามารถคืนรูป โดยคงสภาพ สี กลิ่น รส เนื้อสัมผัส และคุณค่าทางโภชนาการไว้ได้เหมือนกับอาหารที่เพิ่งปรุงเสร็จใหม่ ๆ อย่างต้มยำกุ้งก็เพียงการเติมน้ำร้อนแล้วรอประมาณ 7-8 นาที ส่วนส้มตำใช้การเติมน้ำอุณหภูมิห้อง สำหรับกลุ่มคนวัยทำงานแล้ว ทั้งสะดวกและประหยัดเวลากว่าการใช้ซองเครื่องปรุงที่ต้องยุ่งยากกับกระบวนการเตรียมวัตถุดิบและปรุงสุก

แล้วทำอย่างไรให้ลูกค้ารู้จัก เข้าใจ และควักกระเป๋าซื้อสินค้า?? คุณพัชราฯ แนะกลยุทธ์ ‘ปรุงสด ชิมฟรี’ (ต้องระวัง!!! สถานที่จัดงานไม่อนุญาตให้ปรุงอาหารด้วยไฟ การปรุงอาหารต้องไม่ส่งกลิ่นหรือควันรบกวน) โดยทางทีมงานได้เตรียมหม้อไฟฟ้าไว้ปรุงสดหน้างานให้ ‘ลองชิม’ ช่วยดึงดูดความสนใจผู้เข้าชมงานที่เดินผ่านไปผ่านมาต้องหยุดแวะบูธไม่ขาดสาย
นายหลิว หงเลี่ยง (Liu Hongliang/刘红亮) ตัวแทนจำหน่ายบริษัท Piromporn เปิดเผยว่า เขาเตรียมเอกสารเพื่อขอใบอนุญาตการนำเข้าสินค้าที่จะมาร่วมออกบูธตั้งแต่เดือนมีนาคม การมาออกบูธครั้งแรกได้ผลเป็นที่น่าพอใจ สินค้าที่เตรียมา 6,000 ชุด ‘ขายเกลี้ยง’ ตั้งแต่ 3 วันแรก (งานจัด 5 วัน) และได้ดีลลูกค้า 8 ราย โดยระยะต่อไป มีแผนจะสต็อกสินค้าไว้ที่คลังสินค้าในประเทศจีน เพื่อร่นเวลาการจัดส่งสินค้าไปถึงมือผู้บริโภค
แนวคิดและพฤติกรรมการบริโภคของชาวจีนเปลี่ยนไป —— จาก “กินเพื่ออิ่ม” เป็น “กินเพื่อสุขภาพ” เน้นความเป็นธรรมชาติ คุณค่าทางโภชนาการ และลดหวาน-มัน-เค็ม

“เห็ดอบปรุงรส” ของว่างเพื่อสุขภาพแบรนด์ MunchRoom เป็น 1 ในบูธ ‘จีนมุง’ ใน Thailand Pavilion โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มผู้หญิงวัยทำงานและกลุ่มวัยรุ่นที่ตั้งใจจะควบคุมน้ำหนัก แถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย
คุณเบนซ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายต่างประเทศของแบรนด์ MunchRoom แนะนำว่า บริษัทมีวิจัยพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง อย่าง “เห็ดอบปรุงรส” ใช้นวัตกรรมการผลิตที่โดดเด่นเหนือคู่แข่งในไลน์สินค้าเดียวกัน โดยสินค้ายังคงคุณค่าทางสารอาหาร (โปรตีน วิตามินซี ไฟเบอร์) คงความหอมและกรอบเป็นพิเศษ
แบรนด์ MunchRoom พร้อมแล้วสำหรับการทำตลาดจีนอย่างจริงจัง โดยบริษัทมีสต็อกสินค้าอยู่ที่นครเซี่ยงไฮ้ สินค้าที่นำมาออกบูธส่วนหนึ่งส่งมาจากเซี่ยงไฮ้และบางส่วนนำมาจากไทยโดยตรง สินค้าผ่านพิธีการศุลกากรและติดฉลากภาษาจีน ทำการตลาดบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างถาวป่าว เสี่ยวหงซู (Little Red Book/小红书) และก้าวต่อไป จะเริ่มทำตลาดบนแพลตฟอร์ม Douyin (Tiktok ในจีน)
“เป็นครั้งแรกที่มาออกบูธในงาน China-ASEAN Expo รู้สึกทุกอย่างราบรื่นและมีระเบียบ เท่าที่ทราบ ผู้ประกอบการที่มาครั้งแรกส่วนใหญ่จะเน้นการเปิดตัวสินค้าให้รู้จักมากกว่า ไม่ค่อยเอาของมาขายเยอะ เรามีคลังที่จีน จึงสะดวกที่จะขนส่งสินค้ามาที่นครหนานหนิง เลยเตรียมของมาเยอะ สินค้าขายดีมาก โดยเฉพาะสินค้ารสชาติอ่อน ๆ ที่ผ่านการปรุงรสเพียงเล็กน้อย” คุณเบนซ์แชร์ความรู้สึกที่มีโอกาสได้มาร่วมงาน China-ASEAN Expo ที่นครหนานหนิง
เรามาฟังเสียงของผู้ประกอบการ ‘หน้าเก่า’ กันบ้างว่า… งาน China-ASEAN Expo ปีนี้ งัดไม้เด็ด กลเม็ดใหม่ อะไรที่น่าสนใจบ้าง??

ในฐานะที่เป็น ‘ผู้คร่ำหวอด’ ในวงการแสดงสินค้าในจีน คุณทัศนีย์ จิรานิธิวัฒน์ เจ้าของร้าน Lovely SPA (บ. Kulpakor) ที่นำน้ำมันนวดมาออกบูธในงาน China-ASEAN Expo เป็นปีที่ 5 แล้ว คุณทัศนีย์ แนะนำว่า ปีนี้ พาพนักงานนวดของที่ร้านมาประจำที่บูธ และตั้งเบาะนวดไว้ด้านในบูธให้ลูกค้าได้ทดลองสินค้าและสัมผัสประสบการณ์นวดแบบไทยแท้ โดยให้บริการนวดฟรี 1 นาที ถ้าต้องการนวดต่อ คิดค่าบริการ 58 หยวน 10 นาที และ 148 หยวน 30 นาที
คุณทัศนีย์ฯ เห็นว่า ปีนี้ ชาวหนานหนิงยังสนใจผลิตภัณฑ์แพทย์แผนไทยไอเทมเดิมอยู่ ขณะที่ผลิตภัณฑ์ใหม่ อย่างน้ำมันนวดผสมพริก น้ำมันนวดผสมตะไคร้ ก็ได้รับการตอบรับดี แต่ลูกค้ามีแนวโน้มในการเลือกและตัดสินใจซื้อยากขึ้น ลูกค้าส่วนใหญ่นิยมซื้อสินค้าชุดเล็กมากกว่าชุดใหญ่
นอกจากนี้ คุณทัศนีย์ ยังมีการจัดโปรโมชั่นสมนาคุณลูกค้าเก่าด้วย “การให้ส่วนลดสำหรับลูกค้าที่นำขวดเก่ามาซื้อขวดใหม่” ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการสร้าง Brand Loyalty ดึงดูดให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำ และเป็นกลยุทธ์ที่ดีในการรักษาฐานลูกค้าเก่า เพราะลูกค้าจะรู้สึกดีใจที่แบรนด์สินค้าให้ความสำคัญและทำให้รู้สึกอยากใช้สินค้าอีก
คุณทัศนีย์ฯ เห็นว่า ชาวหนานหนิงรู้จักสินค้าไทยเป็นอย่างดี งาน China-ASEAN Expo เป็น ‘ทางลัด’ ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ เข้าถึงชาวจีนได้ง่ายขึ้น สำหรับผู้ประกอบการที่จะไปออกบูธควรเตรียมล่ามที่เข้าใจและสามารถสื่อสารข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกต้อง และควรเตรียมแผ่นพับ/โปสเตอร์แนะนำสินค้าและโปรโมชั่นเวอร์ชั่นภาษาจีนไว้ด้วย
คุณนัฐติยา จงไกรจักร ผู้บริหารบริษัท ยูวี อินเตอร์ ซัพพลาย จำกัด เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง ‘เพื่อนเก่า’ ของงาน China-ASEAN Expo แล้ว โดยบริษัทฯ นำผลิตภัณฑ์เครื่องนอนยางพารามาร่วมออกบูธเป็นปีที่ 5 แล้วเช่นกัน

คุณนัฐติยา ชี้เทรนด์การซื้อเครื่องนอนยางพาราในจีนปีนี้ว่า กลุ่มลูกค้าหลักเป็นกลุ่มวัยกลางคน และวัยทำงาน โดยคนที่มีอายุมักนิยมหมอนแข็งสักหน่อยและมีปุ่มนวดเฉพาะต้นคอ ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานจะนิยมหมอนนุ่มนอนสบาย ปีนี้ ที่นอนยางพาราได้รับความสนใจอย่างมาก ‘ขายเกลี้ยง’ ก่อนสินค้าไอเทมอื่น ซึ่งนอกจากจะแสดงให้เห็นว่าชาวจีนให้ความสนใจเรื่องสุขภาพแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพการนอนหลับของชาวจีน ทำให้ความต้องการเพื่อช่วยในการนอนหลับอย่างหมอนและที่นอนยางพารายังคงมีอนาคตที่สดใสในตลาดจีน
คุณนัฐติยาฯ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตนเองได้วางแผนว่า ปีหน้าจะสร้างจุดขายให้กับผลิตภัณฑ์ด้วยการออกแบบปลอกหมอนให้มีสีสันลวดลายน่ารักแทนที่จะเป็นปลอกหมอนสีขาวธรรมดา
คุณนัฐติยาฯ ได้แชร์ข้อระวังในการทำตลาดจีนว่า การหาตัวแทนจำหน่ายในตลาดจีนควรศึกษาทำความรู้จักให้ละเอียดรอบคอบ ตัวแทนบางคนสั่งซื้อสินค้าจากไทย 1-2 ตู้ หลังจากนั้นจะนำเอาหมอนแบรนด์จีนมา ‘สวมชฎา’ ขายปน ซึ่งอาจจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์และสูญเสียความไว้วางใจจากลูกค้า
ในประเด็น “สินค้าลอกเลียนแบบ” ที่เข้ามาชิงส่วนแบ่งยอดขายของสินค้าจริง ผู้ประกอบการไทยสามารถนำมาตการป้องกันการปลอมปนสินค้ามาใช้ อย่างเช่น ระบบ QR Code ตรวจสอบสินค้าของแท้แบบ “1 ชิ้นต่อ 1 รหัส” ติดบนตัวสินค้า โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบได้ง่ายๆ ด้วยการสแกน QR Code ผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ หรือพิจารณาการกรอกรหัสบนเว็บไซต์ทางการของบริษัท และมีการแจ้งเตือนในกรณีที่มีการสแกนหรือกรอกรหัสซ้ำ
จากการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการไทยที่เข้าร่วมออกบูธในปี 2567 นี้ พอสรุปได้ว่า… สินค้าไทยยังคงได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวหนานหนิง(จีน)เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นซิกเนเจอร์ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าเกษตรแปรรูป ผลิตภัณฑ์จากยางพารา ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและแพทย์แผนไทย รวมถึงเครื่องประดับ
ด้านกำลังซื้อยังอยู่ในเกณฑ์ดี ในสภาวะที่เศรษฐกิจโตช้า พฤติกรรมการบริโภคของชาวหนานหนิง ให้ความสำคัญกับสุขภาพ คุณภาพ ความมีเอกลักษณ์ และความคุ้มค่าคุ้มราคามากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ประกอบการไทยที่สนใจเข้าร่วมงาน China-ASEAN Expo ในปีถัดไป ควรเตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่เนิ่นๆ สามารถสอบถามรายละเอียดหรือสมัครได้ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โทรศัพท์ 02-507-8164 โทรสาร 02-547-4282 และอีเมล [email protected]
************************