นโยบายการส่งเสริมการอนุรักษ์ระบบนิเวศวิทยาของมณฑลฝูเจี้ยนและมณฑลเจียงซี
22 Jun 2020โดยศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีนประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน
การอนุรักษ์ระบบนิเวศวิทยาของมณฑลฝูเจี้ยน
ในปี 2557 มณฑลฝูเจี้ยนเป็นเขตนำร่องการพัฒนาระบบนิเวศแห่งแรกของจีน และในปี 2562 ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาอารยธรรมแห่งชาติให้เป็นมณฑลที่มีการพัฒนาสิ่งแวดล้อมดีเด่นอันดับ 1 ของจีน โดยรัฐบาลมณฑลฝูเจี้ยนได้จัดสรรงบประมาณ 193 ล้านหยวน เพื่อพัฒนาระบบนิเวศเมืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และในปี 2563 รัฐบาลมณฑลฝูเจี้ยนได้ตั้งงบประมาณเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 1.4 หมื่นล้านหยวน คิดเป็นร้อยละ 2.8 ของรายจ่ายภาครัฐทั้งหมด
เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 2563 รัฐบาลมณฑลฝูเจี้ยนได้จัดการประชุมรายงานผลการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์ระบบนิเวศวิทยาของมณฑลประจำปี 2562 โดยระบุว่า ภาพรวมการอนุรักษ์ระบบนิเวศวิทยาของมณฑลฝูเจี้ยนเป็นไปในทางที่ดี (1) พื้นที่สีเขียว ปัจจุบันมณฑลฝูเจี้ยนมีพื้นที่ป่าไม้กว่า 50.42 ล้านไร่ (ในปี 2562 ได้ปลูกป่าไม้ใหม่เป็นพื้นที่ 446,666 ไร่) อัตราพื้นที่ป่าไม้คิดเป็นร้อยละ 66.8 ของพื้นที่ทั้งหมดของมณฑล สูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศติดต่อกันกว่า 40 ปี (2) คุณภาพอากาศ เมือง 9 แห่งของมณฑลฝูเจี้ยนมีจำนวนวันที่มีอากาศดีเฉลี่ยร้อยละ 98.3 โดยอัตราเฉลี่ยจำนวนวันที่มีอากาศดีสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของระดับประเทศซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 82 การจัดอันดับเมืองของฝูเจี้ยนที่มีอัตราเฉลี่ยวันที่มีอากาศดีตามลำดับ ได้แก่ เมืองหนานผิง หลงเหยียน หนิงเต๋อ ผู่เถียน เซี่ยเหมิน ฝูโจว ซานหมิง เฉวียนโจว และจางโจว ขณะที่เมืองเซี่ยเหมิน และนครฝูโจวมีคุณภาพอากาศที่ดีที่สุดเป็นอันดับ 4 และอันดับ 6 จากเมืองสำคัญ 168 แห่งทั่วประเทศ ตามลำดับ โดยเมืองที่มีคุณภาพอากาศที่ดีที่สุด 5 อันดับแรกของจีนประจำปี 2562 ได้แก่ เมืองลาซา เขตปกครองตนเองทิเบต เมืองไหโข่ว มณฑลไห่หนาน เมืองโจวซาน มณฑลเจ้อเจียง เมืองเซี่ยเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน เมืองหวงซาน มณฑลอานฮุย และเมืองที่มีคุณภาพอากาศที่ต่ำที่สุด 5 อันดับท้าย ได้แก่ เมืองอานหยาง มณฑลเหอหนาน เมืองสิงไถ มณฑลเหอเป่ย เมืองสือเจียจวง มณฑลเหอเป่ย เมืองหานตาน มณฑลเหอเป่ย และเมืองหลินเฟิน มณฑลซานซี
ในปี 2562 เซี่ยเหมินได้รับการจัดอยู่ในอันดับ 1 ของเมืองที่มีดัชนีคุณภาพระบบนิเวศขั้นดีของจีน โดยรัฐบาลท้องถิ่นได้ผลักดันและเร่งดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาระบบนิเวศที่ดีของเมืองหลายโครงการ พร้อมยกระดับมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญ ได้แก่
(1) โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลของเมืองเซี่ยเหมิน รัฐบาลเมืองเซี่ยเหมินเร่งก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะอย่างต่อเนื่อง โดยโรงไฟฟ้าพลังงานขยะเขตเสียงอานระยะที่ 2 จะสร้างแล้วเสร็จพร้อมใช้งานภายในเดือน ก.ย. 2563 โรงไฟฟ้าดังกล่าวมีศักยภาพในการจัดการปริมาณขยะในประจำชีวิตถึงวันละ 1,500 ตัน ปัจจุบัน เมืองเซี่ยเหมินมีโรงไฟฟ้าพลังงานขยะทั้งหมด 6 แห่ง และเมืองเซี่ยเหมินมีกำลังการจัดการขยะเพิ่มขึ้นเท่ากับวันละ 5,500 ตัน ภาคเอกชนด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมรายใหญ่ในเมืองเซี่ยเหมิน อาทิ (1) บริษัท Suntar ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการน้ำให้บริสุทธิ์และการคัดแยกน้ำเสียอุตสาหกรรม โดยมีกำลังการจัดการน้ำเสียอุตสาหกรรมประมาณปีละ 300 ล้านตัน (2) บริษัท Zhongchuang Environment ดำเนินธุรกิจด้านการวิจัยเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์การขจัดฝุ่นในอากาศด้วยความร้อนสูง ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ก่อสร้าง “โรงงานสะอาด” ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในหลายประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐฯ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย และยุโรป เป็นต้น
โรงไฟฟ้าพลังงานขยะเขตเสียงอาน เมืองเซี่ยเหมินระยะที่ 2
มีกำหนดจะสร้างแล้วเสร็จและเปิดใช้งานภายในเดือน ก.ย. 2563
ผลิตภัณฑ์กรองน้ำประปาให้บริสุทธิ์เคลื่อนที่ของบริษัท Suntar โรงงานขจัดฝุ่นในอากาศด้วยความร้อนสูง
ของบริษัท Zhongchuang Environment
(2) มาตรฐานการปล่อยไอเสียระดับ 6 แห่งชาติ กรมสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศวิทยาของเมืองเซี่ยเหมิน ออกมาตรการส่งเสริมการลดการปล่อยมลพิษของรถยนต์นั่ง รถตู้ รถโดยสาร รถบรรทุก และรถทำความสะอาดตาม “ประกาศกระทรวงสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศแห่งชาติว่าด้วยการปรับปรุงมาตรฐานการปล่อยไอเสียของรถยนต์ขนาดเล็ก (Light-duty Vehicle) ระดับ 6A” ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2563 ทั้งนี้ “มาตรฐานการปล่อยไอเสียของรถยนต์ขนาดเล็กระดับ 6A” เป็นข้อเสนอของกระทรวงสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศแห่งชาติเมื่อเดือน ธ.ค. 2559 โดยแบ่งช่วงเวลาการดำเนินการออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ช่วงที่ 1 รถยนต์ที่ผลิต นำเข้า จำหน่ายและจดทะเบียนต้องสอดคล้องกับ “มาตรฐานระดับ 6 ช่วงระยะ A” ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2563 ทั่วประเทศ และช่วงที่ 2 รถยนต์ที่ผลิต นำเข้า จำหน่ายและจดทะเบียนต้องสอดคล้องกับ “มาตรฐานระดับ 6 ช่วงระยะ B” ซึ่งมีความเข้มงวดกว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2566 ทั่วประเทศ โดยบางเมืองและมณฑลที่มีความพร้อมได้เริ่มดำเนินการตาม “มาตรฐานระดับ 6 ช่วงระยะ A” ล่วงหน้าแล้ว เช่น เซี่ยเหมิน เซินเจิ้น ปักกิ่ง เสฉวน เซี่ยงไฮ้ เทียนจิน ฉงชิ่ง ซานตง หนานจิง และนครกว่างโจว เป็นต้น
ตารางเปรียบเทียบค่ามาตรฐานการปล่อยก๊าซของรถยนต์ขนาดเล็กของจีนและยุโรป (Euro) | ||||
การปล่อยก๊าซจากรถยนต์(มิลลิกรัม/กิโลเมตร) | มาตรฐาน Euro
ระดับ 5 |
มาตรฐาน Euro
ระดับ 6 |
มาตรฐานจีน
ระดับ 6A |
มาตรฐานจีน
ระดับ 6B |
CO (mg/km) | 1,000 | 1,000 | 700 | 700 |
NMHC (mg/km) | 68 | 68 | 68 | 35 |
NOx (mg/km) | 60 | 60 | 60 | 35 |
PM (mg/km) | 5 | 4.5 | 4.5 | 3 |
PN/km-¹ | – | – | 6×10¹¹ | 6×10¹¹ |
แหล่งอ้างอิง กระทรวงสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศวิทยาแห่งชาติจีน
รัฐบาลเมืองเซี่ยเหมินกำหนดใช้มาตรฐานระดับ 6A สำหรับรถยนต์ขนาดใหญ่ที่ใช้ก๊าซ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2562 สำหรับรถยนต์นั่ง รถตู้ รถโดยสาร รถบรรทุก และรถทำความสะอาด ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2563 และสำหรับรถยนต์ขนาดใหญ่ที่ใช้น้ำมันดีเซล ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 ขณะที่กำหนดใช้มาตรฐานระดับ 6B สำหรับรถยนต์ขนาดใหญ่ที่ใช้ก๊าซ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2564 สำหรับรถยนต์ขนาดเล็กและรถยนต์ขนาดใหญ่ที่ใช้น้ำมันดีเซล ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566 และสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กที่ผลิตหรือนำเข้าจากต่างประเทศที่สอดคล้องตามมาตรฐาน Euro ระดับ 5 ก่อนวันที่ 1 ก.ค. 2563 อย่างไรก็ตาม ทางการจีนได้ขยายเวลา 6 เดือนในการบังคับใช้มาตรฐานดังกล่าวเพื่อลดแรงกดดันต่อภาคเอกชนในอุตสาหกรรมรถยนต์ กล่าวคือ รถยนต์ที่สอดคล้องตามมาตรฐาน Euro ระดับ 5 ยังสามารถจำหน่ายและจดทะเบียนในมณฑลฝูเจี้ยนได้ก่อนวันที่ 1 ม.ค. 2564 และรถยนต์ขนาดเล็กที่ผลิตหรือนำเข้าจากต่างประเทศจะต้องสอดคล้องกับมาตรฐานจีนระดับ 6B ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 เป็นต้นไป
การที่จีนยกระดับมาตรฐานการปล่อยมลพิษจากท่อไอเสียรถยนต์โดยเริ่มบังคับใช้มาตรฐานระดับ 6 นอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศทั่วประเทศแล้ว คาดว่าจะยังช่วยพัฒนาห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยเฉพาะผู้ผลิตอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยไอเสียจากเดิมที่มูลค่าประมาณ 3-4 หมื่นล้านหยวนต่อปี จะเพิ่มขึ้นถึง 1 แสนล้านหยวนในอนาคตอันใกล้ ขณะเดียวกันมาตรฐานระดับ 6 ยังเพิ่มการตรวจสอบดัชนี EGR DPF SCR ซึ่งเป็นระบบเชื้อเพลิงและไอเสียของรถยนต์ ซึ่งก่อนหน้านี้ อุตสาหกรรรมรถยนต์ในจีนส่วนใหญ่นำเข้าชิ้นส่วนดังกล่าวจากต่างประเทศ แต่การบังคับใช้มาตรฐานการปล่อยก๊าซระดับ 6 ของจีนได้กระตุ้นให้ผู้ประกอบการภายในประเทศหันมาพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อผลิตชิ้นส่วนข้างต้นมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดรถยนต์ที่สอดคล้องกับข้อบังคับในประเทศ
เมื่อเดือน พ.ค. 2563 รัฐบาลมณฑลฝูเจี้ยนประกาศ “แผนการดำเนินการสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมระบบนิเวศระยะ 3 ปี (ปี 2563-2565)” โดยจัดสรรงบประมาณมูลค่ากว่า 1.18 พันล้านหยวน เพื่อประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเอไอ ความเป็นอัจฉริยะ และระบบดิจิทัล ในการจัดตั้งแพลตฟอร์ม “ทะเลอัจฉริยะ” และสถานีซูเปอร์บรรยากาศที่เป็นระบบตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเลและอากาศโดยอัตโนมัติแบบ real time นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา รัฐบาลมณฑลฝูเจี้ยนประกาศ “แผนการส่งเสริมการสร้างพื้นที่ป่าไม้บนเกาะ (ปี 2563-2568)” ซึ่งได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีจีนแล้ว และรัฐบาลฝูเจี้ยนได้เริ่มถมทะเลเพื่อก่อสร้างป่าไม้ทั้งหมด 10 แห่ง โดยเน้นพื้นที่เกาะเหมยโจวและเขตผิงถานเป็นหลัก รวมทั้งมีแผนดำเนินโครงการก่อสร้างเขตการท่องเที่ยวระบบนิเวศบนเกาะผิงถานด้วยเงินลงทุนกว่า 8 พันล้านหยวน ทั้งนี้ เขตผิงถานได้รับการคัดเลือกจากกรมการป่าไม้แห่งชาติให้เป็น “เมืองแห่งป่าไม้ระดับประเทศ” ประจำปี 2562 และในปี 2563 เขตผิงถานตั้งเป้าหมายรับนักท่องเที่ยวให้ได้ 7.5 ล้านคน และตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 8.5 พันล้านหยวน
รัฐบาลท้องถิ่นส่งเสริมอุตสาหกรรมวัฒนธรรมการแสดงละครเวที “ประทับใจผิงถาน”
เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว จนถึงปัจจุบัน มีผู้เข้าชมกว่า 120,000 ครั้ง
แพลตฟอร์ม “ทะเลอัจฉริยะ” ระบบตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเล ร่างแบบเขตการท่องเที่ยวระบบนิเวศหลงซี เกาะผิงถาน
การอนุรักษ์ระบบนิเวศวิทยาของมณฑลเจียงซี
ในปี 2562 มณฑลเจียงซีมีค่าใช้จ่ายในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 1.97 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.2 และมีโครงการก่อสร้างเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 21 รายการ มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 7.89 พันล้านหยวน เช่น สถานีบำบัดน้ำเสียเขตชนบทอำเภอกว่างชาง เมืองฝู่โจว โครงการรักษาความสะอาดทะเลสาบหยางเจีย เมืองก้านโจว โรงไฟฟ้าพลังงานขยะอำเภอจางซู่ โรงไฟฟ้าพลังงานขยะอำเภอกือหยาง เป็นต้น ในปี 2563 รัฐบาลมณฑลเจียงซีคาดว่าจะมีรายได้ภาครัฐกว่า 4.17 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 โดยมีรายได้จากภาษีสิ่งแวดล้อม 320 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 37 และรายจ่ายภาครัฐเท่ากับ 5.42 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 โดยรัฐบาลมณฑลเจียงซีมีแผนลงทุนงบประมาณ 200 ล้านหยวน เพื่อจัดตั้ง “กองทุนพัฒนาแถบเศรษฐกิจแยงซีเกียงสีเขียวแห่งชาติ” และลงทุนอีก 1 พันล้านหยวน เพื่อดำเนินการป้องกันมลพิษทางระบบนิเวศ ทั้งนี้ ในปี 2562 เจียงซีมีอัตราจำนวนวันที่มีอากาศดีเฉลี่ยร้อยละ 89.7 โดยอัตราเฉลี่ยจำนวนวันที่มีอากาศดีสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของระดับประเทศที่ประมาณร้อยละ 82 และมีอัตราพื้นที่ป่าไม้คิดเป็นร้อยละ 63.1 ของพื้นที่ทั่วมณฑล สูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากมณฑลฝูเจี้ยน
ในปี 2563 รัฐบาลมณฑลเจียงซีประกาศดำเนินโครงการก่อสร้างที่สำคัญระดับมณฑลกลุ่มแรก ทั้งหมด 335 รายการ ในจำนวนนี้ มีโครงการก่อสร้างเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทั้งหมด 19 รายการ โดยแบ่งเป็น (1) โครงการก่อสร้างเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่สร้างแล้วเสร็จ 6 รายการ อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะเมืองจิ่วเจียง โรงไฟฟ้าพลังงานขยะเมืองอิงถาน โรงไฟฟ้าพลังงานขยะเมืองลื่อผิง โรงไฟฟ้าพลังงานขยะอำเภอว่านจ้าย เมืองอี่ชุน เป็นต้น (2) โครงการก่อสร้างเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง 9 รายการ อาทิ โครงการวิจัยวัสดุใหม่พลาสติกชีวภาพซึ่งมีกำลังผลิตปีละ 300,000 ตัน โครงการชลประทานเมืองจิ่งเต๋อเจิ้น และโครงการวิจัยวัสดุก่อสร้าง สีเขียว โรงไฟฟ้าพลังงานขยะอำเภอหนานเฟิง นครฝู่โจว โรงไฟฟ้าพลังงานขยะเมืองอำเภอสุ่ยโจว เมืองจี่อาน และโครงการก่อสร้างการป่าไม้เขตก้านเจียง นครหนานชาง เป็นต้น และ (3) โครงการก่อสร้างเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ก่อสร้างใหม่ 4 รายการ อาทิ โครงการก่อสร้างตำบลนกอพยพเมืองจิ่วเจียงระยะที่ 2 โครงการจัดการแบตเตอรี่ลิเธียมเก่าซึ่งมีกำลังการจัดการปีละ 120,000 ตัน เขตพัฒนาเศรษฐกิจเมืองอี่ชุน โรงไฟฟ้าพลังงานขยะอำเภอจิ้นเสี่ยน นครหนานชาง และโครงการการรักษาระเบียงระบบนิเวศซิ่นเจียง เมืองซ่างเหร่า เป็นต้น
ร่างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะเมืองจิ่วเจียง โครงการตำบลนกอพยพเมืองจิ่วเจียงระยะที่ 2
โครงการชลประทานเมืองจิ่งเต๋อเจิ้น โครงการป้องกันน้ำท่วมเมืองซินหยู่
ที่ใช้มูลค่าการลงทุนกว่า 280 ล้านหยวน
นอกจากนี้ รัฐบาลเจียงซีออก “ประกาศว่าด้วยมาตรการส่งเสริมการก่อสร้างระบบนิเวศวิทยาและวัฒนธรรมทั่วมณฑล” โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 นับเป็นมณฑลแห่งที่ 4 ของประเทศที่ออกประกาศ ว่าด้วยการส่งเสริมการก่อสร้างระบบนิเวศวิทยาและวัฒนธรรม ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวมีสาระสำคัญ เช่น การกำหนดให้เดือน มิ.ย. ของทุกปีเป็นเดือนแห่งการประชาสัมพันธ์ระบบนิเวศวิทยาและวัฒนธรรมของมณฑลเจียงซี การเปิดอุทยานและสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศให้ประชาชนเข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น การส่งเสริมการใช้พลังงานสีเขียว การสนับสนุนการใช้รถยนต์พลังงานใหม่ การใช้วัสดุก่อสร้างสีเขียว การทำเกษตรอินทรีย์ การปิดวิสาหกิจด้านการผลิตถ่านหินที่ไม่ได้มาตรฐานทั้งหมดภายในเดือน พ.ย. 2563 การคัดแยกขยะอย่างสมบูรณ์ การห้ามจับสัตว์น้ำ ล่านกอพยพ และบุกเบิกแร่ธาตุในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงตอนในมณฑลเจียงซีอย่างเด็ดขาดตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 และห้ามจับสัตว์น้ำในพื้นที่ทะเลสาบผอหยางของมณฑลเจียงซีอย่างเด็ดขาดตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 รวมทั้งการตั้งเป้าหมายปลูกป่าไม้ให้ได้ 291,666 ไร่ภายสิ้นปีนี้
***********
แหล่งอ้างอิง
รัฐบาลมณฑลฝูเจี้ยน http://www.fujian.gov.cn/xw/fjyw/202006/t20200604_5290552.htm
รัฐบาลเมืองเซี่ยเหมิน http://www.xm.gov.cn/zjxm/csjs/202003/t20200330_2435131.htm
กระทรวงสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศแห่งชาติ
http://www.mee.gov.cn/ywdt/spxw/202006/t20200603_782484.shtml
http://www.mee.gov.cn/ywdt/dfnews/202005/t20200521_780108.shtml
สนข. มณฑลเจียงซี http://jx.ifeng.com/a/20191231/8047897_0.shtml
http://epaper.jxwmw.cn/html/2019-11/07/content_5410_1834454.htm
สนข. มณฑลฝูเจี้ยน http://my.fjsen.com/2020-03/08/content_30209431.htm
นสพ. People.cn http://fj.people.com.cn/n2/2020/0531/c181466-34053608.html
สนข. Xinhua.net https://www.sohu.com/a/400618448_267106
http://www.h2o-china.com/news/304531.html
นสพ. Chinanews สาขามณฑลฝูเจี้ยน
http://www.fj.chinanews.com/news/fj_fjzzs/2020/2020-06-14/468843.html
บ. Suntar http://www.suntar.com/products/detail/68
บ. Zhongchuang Environment http://www.savings.com.cn/
รัฐบาลมณฑลเจียงซี http://www.jiangxi.gov.cn/art/2020/2/20/art_396_1507986.html