ความสำเร็จในการนำพาชาวฝูเจี้ยนหลุดพ้นจากความยากจนอย่างสิ้นเชิงในปี 2562
25 Feb 2020โดยศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีนประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน
นับตั้งแต่สาธารณรัฐประชาชนจีนมีการปฏิรูปเศรษฐกิจและเปิดประเทศ และประสบความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดดในช่วงเวลา 4 ทศวรรษที่ผ่านมา ตามสถิติของรัฐบาลจีน มีประชาชนชาวจีนมากกว่า 700 ล้านคนได้หลุดพ้นจากเกณฑ์ความยากจน
ตามคำนิยามความยากจนของจีนในปี 2562 คือการมีรายได้สุทธิเฉลี่ยต่อหัวประชากรต่อปีไม่เกิน 2,300 หยวน ความสำเร็จในการดำเนินนโยบายขจัดความยากจนของจีนในช่วงระหว่างปี 2556 ถึงปี 2561 ส่งผลให้จำนวนประชากรที่ยากจนในเขตชนบททั่วจีนลดลงเหลือ 16.6 ล้านคน จาก 99 ล้านคน และอำเภอที่อยู่ในเกณฑ์ยากจนลดลงเหลือ 396 แห่ง จาก 832 แห่ง โดยมีอัตราเฉลี่ยการลดลงของจำนวนของประชากรที่ยากจนประมาณปีละ 12 ล้านคน โดยจนถึงสิ้นปี 2562 จีนมีประชากรยากจนเหลือ 5.51 ล้านคน และในคำกล่าวของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ที่ผ่านมา ประธานาธิบสีได้เน้นย้ำเป้าหมายในการพัฒนาประเทศให้ก้าวสู่การเป็นสังคมอยู่ดีกินดีและการนำพาชาวจีนทั้งหมดหลุดพ้นจากความยากจนอย่างสิ้นเชิงภายในปี 2563 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของการดำเนินงานตามแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีนระยะ 5 ปี ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2559-2563)
ในปี 2562 ฝูเจี้ยนเป็นหนึ่งใน 8 มณฑลและเทศบาลนครที่จีนประกาศรายชื่อในฐานะเมืองที่ไม่มีคนยากจนอีกต่อไป ได้แก่ ปักกิ่ง เทียนจิน เซี่ยงไฮ้ เจียงซู เจ้อเจียง กวางตุ้ง ฝูเจี้ยน และซานตง โดยนับตั้งแต่ปี 2559 ถึงปี 2561 รัฐบาลมณฑลฝูเจี้ยนได้ลงทุนงบประมาณกว่า 22,500 ล้านหยวนในการแก้ไขปัญหาความยากจน และสามารถทำให้คนยากจนในฝูเจี้ยนลดลงจาก 1.1 ล้านคนในปี 2555 เหลือ 465 คนในปี 2561 และในปี 2562 รัฐบาลมณฑลฝูเจี้ยนได้จัดตั้งกองทุนจำนวน 138 ล้านหยวนในการนำพาหมู่บ้านที่ยากจน 151 แห่งและประชากรที่ยากจน 465 คนหลุดพ้นจากความยากจนอย่างสิ้นเชิง งบประมาณดังกล่าวถูกจัดสรรไปให้นครฝูโจว 5.3 ล้านหยวน เมืองซานหมิง 31.9 ล้านหยวน เมืองจางโจว 15.9 ล้านหยวน เมืองหนานผิง 29.2 ล้านหยวน เมืองหลงเหยียน 18.6 ล้านหยวน และเมืองหนิงเต๋อ 37.1 ล้านหยวน
ความสำเร็จในการขจัดปัญหาความยากจนของมณฑลฝูเจี้ยนเป็นผลจากการดำเนินนโยบายหลัก 5 ประการ ได้แก่
- การแก้ไขปัญหาความยากจนด้วยการศึกษา รัฐบาลแต่ละเมืองของฝูเจี้ยนสนับสนุนทุนการศึกษาแก่นักศึกษาที่มีฐานะยากจน 8,000 หยวนต่อคนต่อปี และกำหนดนโยบาย “ยกเว้น 2 อุดหนุน 1” กล่าวคือ นักศึกษาที่ยากจนได้รับการยกเว้นค่าเล่าเรียนและค่าตำราเรียน และได้รับเงินอุดหนุนค่าที่พัก จนถึงปี 2561 ฝูเจี้ยนมีนักศึกษาที่ได้รับทุนการศึกษารวม 77,990 คน นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ยังจัดตั้งกองทุนค่าเล่าเรียนแก่นักศึกษาที่ยากจนประมาณ 3,000-5,000 หยวนต่อคนต่อปี และสร้างงาน part-time ให้แก่นักศึกษาดังกล่าว
- การแก้ไขปัญหาความยากจนด้วยการสร้างอาชีพ รัฐบาลจัดตั้งศูนย์อบรมเชิงเทคนิคแก่ประชาชนในเขตชนบท เช่น ห้องเรียนด้านอีคอมเมิร์ช และห้องเรียนด้านเกษตรดิจิทัล เป็นต้น รวมทั้งปล่อยสินเชื่อสนับสนุนการสร้างงานให้ชาวบ้านที่ยากจนโดยยกเว้นการชำระภาษีและการค้ำประกันทางทรัพย์สิน โดยตั้งแต่ปี 2559 ถึงปี 2561 รัฐบาลฝูเจี้ยนได้ปล่อยสินเชื่อดังกล่าวให้แก่ครอบครัวที่มีฐานะยากจนรวม 73,396 หลัง รวมมูลค่าสินเชื่อ 3,771 ล้านหยวน รวมทั้งจัดตั้งกองทุนกว่า 1,067 ล้านหยวนสนับสนุนคนยากจนของฝูเจี้ยนให้เข้าสู่ตลาดหุ้นเพื่อรับเงินปันผล นอกจากนี้ วิสาหกิจในฝูเจี้ยน 1,282 แห่งได้สร้างงานแก่ 1,326 หมู่บ้าน โดยคิดเป็นมูลค่าเงินสนับสนุนการสร้างงาน 637 ล้านหยวน และเงินสนับสนุนประชากรยากจนในการหางาน 36.72 ล้านหยวน
- การแก้ไขปัญหาความยากจนด้วยการส่งเสริมอุตสาหกรรมท้องถิ่น รัฐบาลสนับสนุนเงินทุนพัฒนาอุตสาหกรรมท้องถิ่นที่มีความได้เปรียบและมีศักยภาพในการเติบโตของท้องถิ่นนั้น ๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมทางการเกษตร อาทิ มันฝรั่ง ใบชา มะกอก สตรอเบอร์รี่ ส้ม ลำไย กล้วย พลัม ลิ้นจี่ องุ่น ส้มโอ เป็นต้น ตัวอย่างความสำเร็จที่โดดเด่น ได้แก่ การขจัดปัญหาความยากจนในอำเภออันซีของเมืองเฉวียนโจว ซึ่งเดิมเป็นอำเภอที่ยากจนที่สุดของมณฑลฝูเจี้ยน โดยในปี 2533 มีประชากรที่ยากจนกว่า 313,700 คน คิดเป็นร้อยละ 39.6 ของประชากรทั้งอำเภออันซี และชาวอันซีมีรายได้สุทธิเฉลี่ยต่อหัวประชากรต่อปีเพียง 650 หยวน ขณะที่ปัจจุบัน อำเภออันซีถูกจัดอยู่ในรายชื่ออำเภอที่มีเศรษฐกิจเข้มแข็ง 100 อันดับแรกของประเทศจีน อันเป็นผลจากการดำเนินนโยบายกองทุนสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมใบชาอำเภออันซี ซึ่งต่อมา เมืองอันซีได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองแห่งชาอูหลง และเป็นแหล่งกำเนิดของชาเถี่ยกวนอินซึ่งเป็นชาชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในและต่างประเทศ ในปี 2561 อำเภออันซีมีพื้นที่การปลูกชากว่า 250,000 ไร่ และมีผลผลิตใบชากว่า 65,000 ตันต่อปี คิดเป็นมูลค่ากว่า 17,500 ล้านหยวนต่อปี ซึ่งติดอันดับ 1 ของอำเภอที่มีผลผลิตใบชามากที่สุดของจีน
พื้นที่ไร่ชาในอำเภออันซี การประชุมอุตสาหกรรมชาจีนดีเด่น 20 อันดับแรก
ของจีนที่อำเภออันซี
นอกจากนี้ มณฑลฝูเจี้ยนยังส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ในเขตชนบทเพื่อสร้างรายได้แก่ประชากรที่ยากจนของพื้นที่นั้น ๆ โดยรัฐบาลจัดตั้งกองทุนเงินรางวัล 3 แสนหยวนให้แก่หมู่บ้านที่ติดตั้งอุปกรณ์การผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ที่มีกำลังการผลิตมากกว่า 30 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง และจัดตั้งกองทุนเงินรางวัล 2.5 แสนหยวนให้แก่หมู่บ้านที่มีกำลังการผลิตต่ำกว่า 30 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง รัฐบาลมณฑลฝูเจี้ยนได้กำหนดให้อำเภออู๋ผิง เมืองหลงเหยียน เป็นเขตสาธิต “การผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์บวกเกษตรดิจิทัล” โดยลงทุนงบประมาณกว่า 300 ล้านหยวนเพื่อสร้างสถานีผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีกำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ต่อชั่วโมง ซึ่งสถานีดังกล่าวสามารถลดจำนวนการใช้ถ่านหินได้ 4,132 ตันต่อปี ลดฝุ่นละอองจากถ่านหินในอากาศ 3,427 ตันต่อปี และลดซัลเฟอร์ไดออกไซด์ 378 ตันต่อปี รวมทั้งลดสารชนิดอื่น ๆ ที่ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย ขณะที่อำเภอกู๋เถี่ยน เมืองหนิงเต๋อถูกกำหนดเป็นอำเภอนำร่องการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ของฝูเจี้ยน โดยได้ดำเนินโครงการการขจัดความยากจนด้วยการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ 56 รายการ สร้างรายได้กว่า 7 ล้านหยวนต่อปีแก่ครอบครัวยากจนกว่า 2,000 แห่งของทั่วอำเภอ
พื้นที่การติดตั้งอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ในพื้นที่ยากจนของฝูเจี้ยน
การปลูกดอกเบญจมาศแอฟริกาในเรือนกระจก ชาวอำเภอเซี่ยงห่าง เมืองหลงเหยียน ได้รับเงินอุดหนุน
ในพื้นที่ยากจนของอำเภอเหลียนเฉิง เมืองหลงเหยียน การเลี้ยงกระต่ายในโครงการบรรเทาความยากจนของฝูเจี้ยน
การพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว พื้นที่ไร่สตรอเบอร์รี่ในอำเภอต้าเถี่ยน เมืองซานหมิง
ในอำเภอฉ่างติงเมืองหลงเหยียน
นโยบายการสร้างบ้านใหม่และการโยกย้ายถิ่นที่พักในอำเภออู๋ผิง เมืองหลงเหยียน มณฑลฝูเจี้ยน
4. การแก้ไขปัญหาความยากจนด้วยการซ่อมแซมบ้านเก่าและสร้างบ้านใหม่ให้แก่ผู้ยากจนในเขตชนบท มณฑลฝูเจี้ยนสนับสนุนเงินทุนในการซ่อมแซมบ้านเก่าและสร้างบ้านใหม่ในพื้นที่เขตชนบทที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและสร้างรายได้แก่คนในพื้นที่นั้น ๆ โดยรัฐบาลดำเนินนโยบายโยกย้ายถิ่นที่พักของผู้ยากจนออกจากพื้นที่ยากจนไปสู่เขตใหม่ที่มีโครงสร้างพื้นฐานครบถ้วนซึ่งจัดสรรโดยรัฐบาล ทั้งนี้ ภายใต้แผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีนระยะ 5 ปี ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2559-2563) รัฐบาลจีนได้ลงทุนงบประมาณกว่า 100,000 ล้านหยวนให้แก่ทุกมณฑลเพื่อดำเนินนโยบายดังกล่าว และในปี 2562 มีการโยกย้ายถิ่นที่พักของประชาชนยากจนออกจากพื้นที่ยากจนแล้วกว่า 10 ล้านคน
ทีมหมอครอบครัวของอำเภอกวงจื่อ เมืองหนานผิง มณฑลฝูเจี้ยน
5. การแก้ไขปัญหาความยากจนด้วยการสร้างสวัสดิการรักษาพยาบาล ในปี 2562 มณฑลฝูเจี้ยนมีจำนวนประชากรกว่า 6.2 แสนคนที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากนโยบายการสนับสนุนแก้ไขความยากจนผ่านระบบสวัสดิการรักษาพยาบาล โดยรัฐบาลเป็นผู้รับผิดชอบการชำระค่าสวัสดิการรักษาพยาบาลทั้งหมดให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าว คิดเป็นงบประมาณ 138 ล้านหยวน และอีกกว่า 1.1 แสนคนได้รับเงินอุดหนุนทางการแพทย์จากรัฐบาลมณฑลฝูเจี้ยน คิดเป็นงบประมาณ 379 ล้านหยวน นอกจากนี้ รัฐบาลฝูเจี้ยนเพิ่มประเภทโรคที่สามารถรับเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาลของผู้ป่วยยากจนจากเดิม 13 ชนิด เป็น 30 ชนิด อาทิ โรคมะเร็งปอด โรคมะเร็งตับ กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน โรคต้อกระจก โรคธาลัสซีเมีย โรคจิตขั้นรุนแรง โรคหัวใจขาดเลือด โรคปอด โรคเนื้องอกในกระดูก โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ และโรคปากแหว่งเพดานโหว่ เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ป่วยยากจนภายใต้ระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของฝูเจี้ยนยังสามารถใช้ช่องทางสีเขียวในการชำระค่ารักษาพยาบาลแบบ one-stop service นับเป็นการดำเนินนโยบายแบบครบวงจรและรอบด้าน
ในขณะเดียวกัน ผู้ป่วยยากจนสามารถรับเงินชดเชยร้อยละ 70 ของค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดต่อครั้งในโรงพยาบาลระดับมณฑลที่รัฐบาลกำหนด และสามารถรับเงินชดเชยร้อยละ 80 ของค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดต่อครั้งในโรงพยาบาลระดับเมืองและอำเภอ นอกจากนี้ ผู้ป่วยยากจนสามารถมีสิทธิใช้บริการ “หาหมอก่อน จ่ายทีหลัง” ในโรงพยาบาลที่รัฐบาลกำหนดของแต่ละพื้นที่ของฝูเจี้ยน ในขณะเดียวกัน รัฐบาลยังจัดบริการทีมหมอครอบครัว (Family Care Team) แบบไม่มีค่าใช้จ่ายให้แก่ครอบครัวยากจนในเขตชนบทเพื่อป้องกันการเกิดโรค โดยในปี 2562 มีประชาชนกว่า 86,000 คนได้รับการดูแลรักษาผ่านทีมหมอครอบครัวทีมหมอครอบครัวของอำเภอกวงจื่อ เมืองหนานผิง มณฑลฝูเจี้ยน
ทั้งนี้ มณฑลฝูเจี้ยนยังถูกกำหนดให้เป็น “พี่เลี้ยง” ในโครงการขจัดปัญหาความยากจนให้แก่เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุยในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน โดยตั้งแต่ปี 2539 ถึงปี 2561 มณฑลฝูเจี้ยนได้สนับสนุนงบประมาณให้แก่เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุยเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนกว่า 1,708 ล้านหยวน และสนับสนุนการดำเนินโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานกว่า 4,000 โครงการ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 40,000 ล้านหยวน และในปี 2562 ฝูเจี้ยนสนับสนุนเงินทุนแก่เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุยเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรม 470 ล้านหยวน และจัดให้แรงงานยากจนของเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุยอยู่ในโครงการการสนับสนุนการจัดหางานแก่ผู้ยากจนของมณฑลฝูเจี้ยนอีกด้วย นอกจากนี้ ในด้านสังคม ฝูเจี้ยนได้จัดส่งบุคลากรด้านการศึกษาและบุคลากรทางการแพทย์ไปยังเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุยเพื่อสนับสนุนด้านการเรียนการสอนและด้านสาธารณสุข และรับอบรมครูระดับมัธยมศึกษาและระดับอาชีวศึกษาและบุคลากรทางการแพทย์จากเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย
*******
แหล่งข้อมูล
เว็บไซต์ รัฐบาลกลางสาธารณรัฐประชาชนจีน http://www.gov.cn/xinwen/2019-10/12/content_5438657.htm
เว็บไซต์ สนข. Xinhuanet http://www.xinhuanet.com/politics/2019-12/31/c_1125410025.htm
เว็บไซต์ สนข. People http://fj.people.com.cn/n2/2019/0812/c181466-33237895.html
เว็บไซต์ สนข. CCTV จีน http://www.sohu.com/a/327932815_428290
เว็บไซต์ สำนักงานกิจการไต้หวัน ฮ่องกงและมาเก๊าของฝูเจี้ยน http://www.fjtb.gov.cn/focus/hxlw201811/201904/t20190409_12155011.html