ใส่ใจนักท่องเที่ยวชาวเสฉวนฉงชิ่งด้วยเกร็ดเล็กๆ ในพฤติกรรมการทาน พร้อมช่วยกันดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวไทย
9 Jan 2014ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์กรุ๊ปทัวร์ชาวจีนจากนครเฉิงตูจำนวน 41 ราย เดินทางไปเที่ยวภูเก็ตในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา และได้มีลูกทัวร์จำนวน 20 ราย เกิดอาการท้องเสียหลังจากรับประทานอาหารมื้อค่ำในวันที่ 29 ม.ค. 55 ที่ร้านอาหารท้องถิ่นแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต
ความสวยงามของทะเลภูเก็ต
เรื่องราวดังกล่าวได้ถูกโพสต์ลงใน เวยปั๋ว (บล็อคโซเชียลเน็ตเวิร์คอันดับ 1 ของจีน) ภายในคืนวันเดียวกัน โดยมีเนื้อหาไม่พอใจที่ถูกเพิกเฉยจากบริษัททัวร์ท้องถิ่นหลังจากเพื่อนร่วมคณะกว่า 20 คนมีอาการท้องเสียหลังจากกินอาหารเข้าไป จนกลายเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นในโลกสังคมออนไลน์ กล่าวถึง ความรับผิดชอบของบริษัทท่องเที่ยวท้องถิ่นที่มีต่อนักท่องเที่ยวชาวเฉิงตู ว่าจะเป็นไปในทางใด
ทันทีที่ผู้สื่อข่าวทราบเรื่องดังกล่าวจากเวยปั๋ว ต่างให้ความสนใจและได้ติดต่อไปยังบริษัททัวร์ที่เกี่ยวข้องจำนวน 6 รายในนครเฉิงตู รวมถึงได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากผู้ป่วย และนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่ร่วมเดินทางไปกับทัวร์คณะนี้จนได้ความว่า ทริปดังกล่าวเป็นทัวร์แบบหมู่คณะท่องเที่ยวภูเก็ตเป็นจำนวน 5 วัน 7 คืน ออกเดินทางสู่ภูเก็ตเมื่อค่ำวันที่ 25 ม.ค. และกลับนครเฉิงตูในเช้าวันที่ 31 ม.ค.
จนเมื่อถึงวันที่ 29 ม.ค. บริษัททัวร์ท้องถิ่นได้จัดให้คณะทานอาหารค่ำในร้านอาหารแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นพบว่ามีนักท่องเที่ยว 20 คน เกิดอาการท้องเสียและอาเจียน โดย 1 ใน 3 คนเป็นหญิงมีอาการหนักต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลท้องถิ่นในช่วงกลางดึก ส่วนที่เหลือเดินทางไปโรงพยาบาลในเช้าวันรุ่งขึ้น จากการวินิจฉัยของแพทย์พบว่ามีสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ
ทว่าหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นักท่องเที่ยวรวมถึงผู้ป่วยต่างไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ใดๆจากบริษัทท่องเที่ยวท้องถิ่นเลย จนเวลาล่วงเลยมาเย็นวันที่ 30 ม.ค. ผู้จัดการบริษัททัวร์ท้องถิ่นดังกล่าว จึงได้เดินทางมาเจรจาและแสดงความรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ลูกทัวร์ทั้ง 41 คนโดยทันทีเป็นจำนวนเงินคนละ 1,500 หยวน ส่วนผู้ป่วยท้องเสียนั้น ทางบริษัทท่องเที่ยวในนครเฉิงตูจะเป็นผู้ประสานงานเรื่องค่ารักษาพยาบาล โดยบริษัทประกันภัยท่องเที่ยวเป็นผู้จ่ายให้กับผู้ป่วยทั้งหมด
หลังจากเรื่องราวยุติลง กรมการท่องเที่ยวประจำนครเฉิงตูจึงได้รายงานสถานการณ์ดังกล่าวผ่านสื่อมวลชนท้องถิ่นว่า คณะนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวมีความพอใจต่อความรับผิดชอบของบริษัทท่องเที่ยวท้องถิ่น รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ป่วยทุกคนขณะนี้ปลอดภัยดีแล้ว
ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเที่ยวไทยมีจำนวนมาก การเข้าใจพฤติกรรมการบริโภคอาหารของคนจีนถือเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากจีนเป็นประเทศใหญ่ มีอาหารหลากหลาย บางคนอาจมีอาการแพ้อาหารในบางชนิด การถามไถ่ก่อนจัดเซทเมนูอาหารถือเป็นสิ่งที่ต้องบริหารจัดการ
สำหรับพฤติกรรมการกินของคนเสฉวนและคนฉงชิ่งส่วนใหญ่นั้น คือ ทานอาหารร้อนๆ ปรุงสุกใหม่ๆ (พร้อมเสิร์ฟทันทีไม่รอให้เย็น) มีซุปร้อนๆ และผักดองเคียง ชอบทานเผ็ด (โดยเฉพาะเผ็ดแบบชา) อาหารหนักเค็ม เน้นมัน ไม่นิยมออกรสหวาน (เว้นแต่อาหารบางชนิด) และเสิร์ฟข้าวสวยเป็นลำดับสุดท้าย (ต่างจากไทยที่ต้องกินข้าวพร้อมกับ) หลังจากนั้นปิดท้ายเมนูด้วยผลไม้ไทย
ส่วนเครื่องดื่ม ต้องดื่มร้อนๆ ไม่นิยมบริโภคน้ำแข็งและเครื่องดื่มเย็นๆ แช่ตู้ อาทิ น้ำอัดลม ชาบรรจุขวด รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (เช่น เบียร์) สามารถเสิร์ฟแบบไม่มีน้ำแข็งหรือไม่แช่เย็นได้ ถึงแม้อากาศเมืองไทยจะร้อนก็ตาม (แต่ยกเว้นในบางคนและบางกรณี)
การที่นักท่องเที่ยวรับประทานอาหารที่ไม่คุ้นเคย รวมถึงมีการปรุงแบบไม่ถูกสุขลักษณะ อาจนำมาซึ่งการเจ็บไข้ได้ในภายหลัง หากทราบถึงเกร็ดเล็กๆ เกี่ยวกับพฤติกรรมการบริโภคทั่วไปของนักท่องเที่ยวแล้วก็สามารถช่วยลดความเสี่ยง ทำให้ท่องเที่ยวเมืองไทยได้อย่างมีความสุข
พระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่
ยังมีอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่คนไทยทุกคนต้องช่วยกันดูแลนักท่องเที่ยวในขณะที่พำนักอยู่ในไทย ซึ่งเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 55 สนง.การต่างประเทศแห่งมณฑลเสฉวน ได้ออกประกาศให้นักท่องเที่ยวชาวเสฉวนโดยเฉพาะสุภาพสตรีที่เดินทางไปเที่ยวเมืองไทยแบบอิสระ หลีกเลี่ยงเดินทางตามลำพังไปในสถานที่เปลี่ยวโดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนและเช้าตรู่ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ปล้นชิงทรัพย์ที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งโดยเฉพาะในช่วงฤดูท่องเที่ยว
เนื่องจากในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุปล้นทรัพย์นักท่องเที่ยวสุภาพสตรีชาวจีนติดต่อกัน 3 คดี ในท้องที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้ สนง.การต่างประเทศแห่งมณฑลเสฉวน มีคำเตือนเพื่อเพิ่มความระมัดระวังโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวหญิงชาวเสฉวนที่ไปเที่ยวเมืองไทยแบบลำพัง โดยมิให้ไปคนเดียวในสถานที่เปลี่ยวในช่วงเวลาค่ำคืนและตอนเช้า ไม่พกเงินสดติดตัวเป็นจำนวนมาก รวมถึงระวังการใส่เครื่องประดับราคาแพงและสิ่งของมีค่าอื่นๆ ซึ่งอาจเป็นสิ่งล่อตาล่อใจและง่ายต่อการก่อคดี
สนง.การต่างประเทศ มณฑลเสฉวน ยังแนะนำว่า หากนักท่องเที่ยวประสบเหตุการณ์ดังกล่าว ให้รีบแจ้งความกับสถานีตำรวจ รวมถึงรีบติดต่อกับสถานทูตจีนประจำประเทศไทยที่เบอร์โทรศัพท์ 0066-2-245-7044 หรือ สถานกงสุลจีน ณ จังหวัดเชียงใหม่ ที่เบอร์โทรศัพท์ 0066-81-882-3283
ปัจจุบัน เศรษฐกิจจีนที่เติบโตและแข็งแกร่งส่งผลต่อรายได้ของประชากรที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้คนเริ่มให้ความสนใจกับการท่องเที่ยวและหันมาท่องเที่ยวนอกประเทศมากขึ้นตามลำดับ เพื่อเปิดโอกาสให้ตนเองได้พบเห็นสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ นอกเหนือจากที่เป็นอยู่
เมืองไทย ถือเป็นประเทศแรกในดวงใจที่ชาวจีนมีความใฝ่ฝันอยากเดินทางมาท่องเที่ยว เพื่อชื่นชมความงามทางธรรมชาติและสัมผัสมนต์เสน่แห่งศิลปวัฒนธรรมของไทย รวมถึงคนไทย
รอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยไมตรีจิต และน้ำใจอันงดงามของคนไทยสามารถสร้างความประทับใจให้ตราตรึงอยู่ในความทรงจำของนักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนพร้อมกับภาพถ่ายบันทึกช่วงเวลาแห่งความสุขตลอดเวลาที่ท่องเที่ยวอยู่ในประเทศไทย และพร้อมจะถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์ต่างๆ สู่ญาติสนิทมิตรสหาย สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนรอบข้างได้ โดยจะเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจต่อการมาเที่ยวเมืองไทย ซึ่งบุคคลเหล่านั้นมีแต่จะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมหาศาลในอนาคต
โปรดช่วยกันดูแลนักท่องเที่ยวไม่ว่าชาติใดภาษาใด เพื่อมิให้ความภาคภูมิใจของคนไทยเลือนหายไปจากใจของผู้มาเยือน