“เตือนภัย ผู้ประกอบการไทย อย่าชะล่าใจในการทำธุรกิจกับจีน”
9 Aug 2021ปัจจุบัน การทำการค้ากับต่างประเทศเป็นที่ใฝ่ฝันของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะการทำการค้ากับจีนเนื่องจากเป็นหนึ่งในมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก มีตลาดภายในประเทศขนาดใหญ่ ขณะเดียวกัน ก็มีสินค้าส่งออกราคาไม่แพงซึ่งที่เป็นที่ถูกใจผู้บริโภคชาวไทยมากมายหลายชนิด
อย่างไรดี ด้วยความก้าวหน้าทางอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยี ทำให้มิจฉาชีพที่แอบแฝงมาในคราบของผู้ประกอบการหรือนักธุรกิจ สามารถพัฒนารูปแบบในการหลวงลวงหรือฉ้อโกงได้ง่ายดายยิ่งขึ้น สร้างความเสียหายแก่ทางธุรกิจและทางการเงินแก่ผู้ประกอบการที่สุจริตอย่างมากมาย รวมถึงผู้ประกอบการไทยที่ถูกฉ้อโกงจากคู่ค้าจีน
ในช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมา ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน (ศูนย์ BIC) ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครซีอานได้รับการร้องเรียนจากวิสาหกิจไทยหลายรายว่า ถูกฉ้อโกงจากคู่ค้าชาวจีน ทั้งในรูปแบบและวิธีการต่าง ๆ อาทิ การขอรับเงินค่าดำเนินการหรือค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ล่วงหน้า การโอนเงินชำระค่าสินค้าในทันทีที่ลงนามในสัญญาซื้อขายโดยมิได้ตรวจสอบสถานะที่แน่ชัดของคู่สัญญาชาวจีน ซึ่งกว่าผู้ประกอบการไทยจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว
ดังนั้น ศูนย์ BIC จึงขอให้ผู้ประกอบการไทยที่ประสงค์จะทำธุรกิจกับผู้ประกอบการจีน เพิ่มความระมัดระวังและรอบคอบ ไม่ตื่นเต้นกับยอดการสั่งซื้อสินค้ามากเกินไปจนอาจกลายเป็นเหยื่อของการหลอกลวงฉ้อโกง ทั้งนี้
ศูนย์ BIC ขอเสนอแนะข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจของท่าน ดังนี้
- ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นของบริษัทคู่ค้าจีน เพื่อประกอบการพิจารณาที่เว็บไซต์ gsxt.gov.cn (National Enterprise Credit Information Publicity System) ซึ่งเป็นเว็บฐานข้อมูลทะเบียนพาณิชย์สาธารณะของกระทรวงพาณิชย์จีน
- ตรวจสอบข้อสัญญาและรายละเอียดการสั่งซื้ออย่างรอบคอบและสมเหตุผลตามหลักธุรกิจสากล ทุกครั้งที่ได้รับคำสั่งซื้อสินค้า
- หากพบข้อสงสัยหรือไม่เป็นไปตามแนวปฏิบัติสากล ค้นหาข้อมูลโดยการพิมพ์ชื่อบริษัทคู่ค้าผ่านช่องทางออนไลน์หรือค้นหาชื่อผ่านเว็บไซต์หรือเว็บบอร์ดที่รวบรวมข้อมูลการฉ้อโกง อาทิ fraudslist.com และหากพบชื่อบริษัทคู่ค้าในเว็บไซต์หรือเว็บบอร์ดเหล่านี้ ตั้งข้อสันนิษฐานในเบื้องต้นว่า อาจเป็นคำสั่งซื้อปลอมหรือ มีเจตนาฉ้อโกงแอบแฝง ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่า ในเว็บไซต์ของบริษัทจีนเหล่านี้ มักมีแต่หน้าภาษาอังกฤษ แต่ไม่มีเนื้อหาเกี่ยวกับบริษัทมากนัก หรือข้อมูลสินค้าของบริษัทก็มักเป็นเพียงรูปภาพ ไม่มีรายละเอียด รวมถึงข่าวสารของบริษัทก็มักเป็นข่าวภาษาอังกฤษที่ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท เหมือนเป็นการคัดลอกมาจากเว็บไซต์ต่าง ๆ
- พิจารณาขอรับเอกสาร/หลักฐานทางการค้าที่ออกให้โดยหน่วยงานภาครัฐจากบริษัทคู่ค้าจีน อาทิ หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท หนังสือรับรองการอนุญาตนำเข้า-ส่งออกสินค้า และหนังสือรับรองความน่าเชื่อถือทางการเงินจากธนาคารของจีน