เฉิงตู เปิดศูนย์ “Innovation & Startup” ต้อนรับนักลงทุนต่างชาติด้านนวัตกรรม
18 Apr 2017ภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 5 ปีของจีน ฉบับที่ 13 (พ.ศ.2559-2563) รัฐบาลนครเฉิงตูได้กำหนดยุทธศาสตร์ “ปรับเปลี่ยน-เน้นนวัตกรรม ยกระดับ-เพื่อความก้าวหน้า” มุ่งเน้นความสำคัญในการชักจูงโครงการลงทุนที่มีศักยภาพจากต่างชาติ และออกนโยบายสนับสนุนการลงทุนจากต่างชาติ โดยเฉพาะในด้านนวัตกรรม รวมทั้งสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนกับหน่วยงานต่างชาติและวิสาหกิจต่างชาติในพื้นที่ เพื่อนำมาซึ่งโอกาสการพัฒนาทางเศรษฐกิจและเตรียมพร้อมรองรับการ “ก้าวเข้ามา” ลงทุนของวิสาหกิจต่างชาติในอนาคต
เมื่อปลายเดือนกมุภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา สำนักงานการต่างประเทศและกิจกรรมชาวจีนโพ้นทะเล นครเฉิงตู ได้จัดพิธีเปิด “ศูนย์ Innovation & Startup” ซึ่งเป็นศูนย์บริการแบบ One Stop Service ณ ศูนย์ Jingrong Start Up Hub เขตพัฒนาอุตสาหกรรมไฮเทคเฉิงตู (Chengdu Hi-Tech Zone) โดยมีผู้แทนจากสถานกงสุลใหญ่ต่างประเทศที่มีเขตอาณาครอบคลุมมณฑลเสฉวน (ทั้งที่ตั้งอยู่ที่นครเฉิงตู มหานครฉงชิ่ง และนครคุนหมิง) รวมถึงผู้แทนจากหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนของจีน รวมทั้งสิ้นประมาณ 250 คน เข้าร่วมงานพิธีเปิดดังกล่าว ในโอกาสนี้ นางพันทิพา เอี่ยมสุทธา เอกะโรหิต กงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู ได้รับเชิญเข้าร่วมพิธีเปิดงานฯ และเยี่ยมชมศูนย์ Innovation & Startup ในครั้งนี้ด้วย

แนะนำ “ศูนย์ Innovation & Startup”
“ศูนย์ Innovation & Startup” ตั้งอยู่ที่ศูนย์ Jingrong Start Up Hub No.1 เขตเศรษฐกิจเกาซิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสวนอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เทียนฟู่ มีพื้นที่ประมาณ 339.96 ตารางเมตร มีภารกิจในการสนับสนุนและช่วยเหลือนักลงทุนจากต่างชาติที่สนใจเข้ามาลงทุนด้านนวัตกรรมในนครเฉิงตูอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นด้านการค้าการลงทุน โดยให้คำปรึกษาด้านนโยบายและสิทธิประโยชน์ที่นักลงทุนจะได้รับ ด้านกฎหมาย โดยการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินการจัดหาและลงทะเบียนที่พักอาศัย การทำวีซ่า การให้บริการดำเนินธุรกรรมทางการเงินการธนาคารข้ามประเทศ อาทิ การแลกเปลี่ยนเงินตรา การชำระเงินหยวน การโอนเงินหยวน การลงทุนข้ามประเทศโดยตรง และการจัดหาเงินทุนเพื่อการลงทุน ซึ่งนักลงทุนเพียงแต่เตรียมเอกสารข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลของบริษัทที่จะเข้ามาลงทุนที่นครเฉิงตูให้พร้อมเท่านั้น เจ้าหน้าที่ก็จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนในทุกขั้นตอน ซึ่งจะใช้ระยะเวลาเพียง 3 วันทำการเท่านั้น
วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งศูนย์ Innovation & Startup คือ (1) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่นักลงทุน เพื่อต้องการดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในเขต Hi-Tech Zone ให้มากขึ้นซึ่งเป็นเป้าหมายที่สำคัญอย่างยิ่งของรัฐบาลนครเฉิงตู (2) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของนครเฉิงตูให้เป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง และแหล่งรวบรวมบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถจากทั่วโลก (3) เพื่อเป็นศูนย์ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ โดยมีหน่วยงานภาครัฐจากหลายหน่วยงานมาประจำเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนต่างชาติ ทำให้นักลงทุนได้รับความสะดวกไม่ต้องเดินทางไปติดต่อหลายหน่วยงาน ซึ่งศูนย์ฯ ยังได้นำบริการออนไลน์มาให้บริการแก่นักลงทุนและผู้ประกอบการอีกด้วย
ขอบเขตการให้บริการ ได้แก่ 1) ลงทะเบียนบริษัทหรือโครงการที่จะลงทุน 2) ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ อาทิ การลงทะเบียนบริษัท การรายงานโครงการ และการทำประกันสังคมให้แก่ลูกจ้างบริษัท/โครงการ 3) จัดสิ่งอำนวยความสะดวกด้านธุรกิจ อาทิ การสื่อสาร การออมทรัพย์ทางไปรษณีย์ เครือข่ายคมนาคม เป็นต้น 4) จัดสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการดำรงชีวิต 5) การให้ข้อมูลและคำแนะนำด้านการลงทุน 6) สนับสนุนด้านเทคโนโลยี 7) จัดหาตัวแทนเฉพาะด้าน 8) สนับสนุนเทคโนโลยีทางการเงิน 9) การเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัท 10) ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจหน้าใหม่
ปัจจุบัน มีบริษัทเอกชนท้องถิ่นและต่างชาติสำคัญที่เข้ามาลงทุนในศูนย์ Jingrong Start Up Hub เขตพัฒนาอุตสาหกรรมไฮเทคเฉิงตู มณฑลเสฉวนแล้วรายบริษัท ได้แก่
1) กลุ่มบริษัท VISIONERTECH จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี 2558 ประกอบธุรกิจด้านเทคโนโลยี เลนส์กล้องที่มีความโดดเด่นที่สามารถทำให้ภาพถ่ายออกมาเหมือนจริง ซึ่งได้รับการร่วมมือเป็นอย่างดีกับหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชนชั้นนำหลายบริษัท เช่น บริษัท Intel จำกัด บริษัท Huawei จำกัด และบริษัท Protruly จำกัด รวมถึงการร่วมมือกับต่างประเทศในด้านต่าง ๆ อาทิ การป้องกันอัคคีภัย การศึกษา อสังหาริมทรัพย์ และความบันเทิง เป็นต้น
2) กลุ่มบริษัท D’STRICT จำกัด เป็นบริษัทที่เป็นการร่วมทุนระหว่างนักลงทุนจากสาธารณรัฐเกาหลีใต้กับนักธุรกิจชาวจีน ประกอบธุรกิจสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงในการสร้างสรรค์ผลงานออกมาในรูปแบบที่โดดเด่นเป็นพิเศษ ซึ่งบริษัทดังกล่าวเคยร่วมมือบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านดังกล่าว เช่น TIFFANY & CO.,Ltd. และบริษัท ซัมซุง จำกัด ด้วย
3) บริษัท LAOWAI HERE ตั้งขึ้นเมื่อปี 2557 โดยชาวจีนและนักธุรกิจประเทศต่าง ๆ อาทิ สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา, แคนาดา เป็นต้น ให้บริการด้านการแลกเปลี่ยนทรัพยากรมนุษย์จากต่างประเทศ การแลกเปลี่ยนทางภาษาและวัฒนธรรมสำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางมายังมณฑลเสฉวน เพื่อส่งเสริมให้เกิดความรู้ความเข้าใจในวิถีชีวิต วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวจีน วิธีการติดต่อสื่อสาร การประกอบธุรกิจ การลงทุน การดำรงชีวิตเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ ส่งเสริมให้มีความเข้าใจในวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมและประเพณีของชาวจีนอย่างลึกซึ้ง โดยสามารถดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ ในขณะเดียวกัน ชาวจีนที่มีความสนใจที่จะออกไปลงทุนที่ต่างชาติก็สามารถที่จะไปเรียนรู้และศึกษาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม การดำรงชีวิต และการสื่อสารของประเทศนั้น ๆ ได้เช่นกัน โดยบริษัทดังกล่าวจะจัดหาผู้แทนจากประเทศดังกล่าวมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับนักลงทุนชาวจีนอีกด้วย
นอกจากนี้ รัฐบาลนครเฉิงตูยังจัดตั้งโครงการ “Home in Chengdu Innovation and Entrepreneurship” เพื่อสร้างสังคมและบรรยากาศที่เหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัยสำหรับชาวต่างชาติ โดยตั้งแต่เดือนตุลาคม2559 เป็นต้นมา มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามายังนครเฉิงตูประมาณ 630,000 คน และชาวคนต่างชาติพักอาศัยอยู่มากกว่า 14,000 คน ปัจจุบัน นครเฉิงตูมีสถานกงสุลใหญ่ต่าวงประเทศจาก 16 ประเทศ ตั้งอยู่ ดังนั้น การยกระดับสภาพแวดล้อมทางสังคมให้น่าอยู่ขึ้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ขณะเดียวกัน ได้มีการเปิดตัวเว็บไซต์ Home in Chengdu อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นช่องทางเชื่อมโยงระหว่างนักธุรกิจต่างชาติและหน่วยงานภาครัฐของนครเฉิงตู โดยนักธุรกิจต่างชาติสามารถรับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในนครเฉิงตู ข้อมูลข่าวสารทางธุรกิจ เป็นต้น นอกจากนั้น ยังสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านเว็บไซต์ดังกล่าวได้อีกด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้นักธุรกิจมีความรู้สึกสะดวกสบายเหมือนอยู่ประเทศของตนเอง
จะเห็นได้ว่า การจัดตั้งศูนย์ “Innovation & Startup” เป็นการอำนวยความสะดวกและขจัดอุปสรรคให้แก่นักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะในเรื่องภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร เนื่องจากหน่วยงานต่าง ๆ จะใช้ภาษาจีนเป็นหลักในการสื่อสาร มีหน่วยงานที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างจำกัด ทำให้ชาวต่างชาติมักจะประสบปัญหาในการดำเนินการทำธุรกรรมต่าง ๆ แต่ละขั้นตอนใช้เวลาค่อนข้างนาน ดังนั้น การตั้งศูนย์ดังกล่าวจึงถือเป็นการสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดีเพื่อดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ และที่สำคัญยังเปรียบเสมือนเป็นหน้าต่าง “One Stop Service” ที่เปิดให้บริการโดยตรงกับชาวต่างชาติให้ “ก้าวเข้ามา” ลงทุนในนครเฉิงตูมากขึ้น และร่วมกันสร้างนครเฉิงตูให้เป็นเมืองแห่งนวัตกรรมในดินแดนจีนตะวันตก
น.ส.แขลดาพร แสงจันทร์ศิวดล
ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู
แหล่งที่มา การเข้าร่วมงานพิธีเปิด “ศูนย์ Innovation & Startup” เขตเกาซิน เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560