เก็บตกควันหลง… ประชุม G20 กับ Mini EV ของเมืองหลิ่วโจว —- ความภาคภูมิใจของกว่างซี
8 Dec 2022
เพิ่งปิดฉากไปไม่นานสำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G20 ครั้งที่ 17 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 15-16 พฤศจิกายน 2565 โดยนอกจากการหารือกันในประเด็นความตึงเครียดที่ทั่วโลกกำลังติดตาม ไม่ว่าจะเป็นสงครามรัสเซีย-ยูเครน และความมั่นคงทางด้านอาหารแล้ว อีกหนึ่งในไฮไลท์สำคัญ คือ การพบหารือกันของ 2 ผู้นำประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา
แต่…วันนี้ บีไอซีหนานหนิง ไม่ได้มาพูดคุยเรื่องตึงเครียดชวนกุมขมับข้างต้นแต่อย่างใด เราจะขอนำท่านผู้อ่านไปเก็บตกเรื่องสัพเพเหระในเวที G20 กับ Air ev รถยนต์ไฟฟ้าขนาดจิ๋วที่วิ่งให้บริการตลอดการประชุม G20 ที่เป็นความภาคภูมิใจของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง
เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยว่า… เมื่อพูดถึงรถยนต์กินน้ำมันที่วิ่งอยู่บนท้องถนนบ้านเรา ส่วนใหญ่จะรู้จักค่ายรถญี่ปุ่นหรือไม่ก็ค่ายรถยุโรป แทบจะไม่เคยได้ยินชื่อค่ายรถยนต์แบรนด์จีน แล้วทำไมพอพูดถึง ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ ต้องมีที่นั่งของค่ายรถยนต์แบรนด์จีน เหตุใด…จีนถึง ‘ผงาด’ ขึ้นบนเวทีรถยนต์ไฟฟ้าของโลก
คีย์เวิร์ดอยู่ที่ “ระบบขับเคลื่อนยานยนต์” ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญ (core technology) ของรถยนต์ การก้าวเข้าสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้าของโลก เกิดขึ้นพร้อมกับการที่จีนได้ปลดแอกเทคโนโลยีการผลิตเครื่องยนต์สันดาปที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งถูกผูกขาดจากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นและค่ายรถยนต์ยุโรปมาโดยตลอด แม้แต่การส่งมนุษย์ขึ้นไปในอวกาศ จีนก็ทำได้มาแล้ว ดังนั้น การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าถือเป็นเรื่องขี้ประติ๋วสำหรับจีน ความก้าวหน้าในการวิจัยและต่อยอดเทคโนโลยีระบบส่งกำลัง (Powertrain System) และชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า ทำให้จีน ‘กระโดด’ ขึ้นมาเป็นผู้นำแห่งวงการยานยนต์ไฟฟ้าของโลก และเป็นตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน
รถยนต์ไฟฟ้าได้สร้างการเปลี่ยนแปลงทางความคิด และประสบการณ์ในการขับขี่ (user experience) รูปแบบใหม่ที่ต่างไปจากการใช้ยานพาหนะแบบเดิม เนื่องจากมีความคล่องตัว ประหยัดพลังงาน และมีราคาที่สมเหตุสมผลจับต้องได้ เกิดเป็นกระแสความนิยมรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ปัจจุบัน ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าในจีนมีการพัฒนาออกมาหลายรุ่น หลายแบบ โดยในบรรดาค่ายรถยนต์ไฟฟ้าของจีน ต้องมีชื่อของ SGMW ซึ่งเป็นค่ายผู้ผลิตรถยนต์สันดาปและรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำระดับโลกจากเมืองหลิ่วโจวของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าขนาดจิ๋วที่เรียกกันว่า “Mini ev” (Mini Electric Vehicle) ถือว่ากำลังไปได้สวยทั้งในตลาดจีนและตลาดต่างประเทศ
บริษัท SGMW เป็นค่ายรถยนต์จีนรายแรกที่ ‘ก้าวออกไป’ ตั้งโรงงานแบบครบวงจรทั้งห่วงโซ่การผลิตในต่างประเทศ ที่เกาะชวาตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย ด้วยมูลค่าเงินลงทุนราว 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2565 บริษัทได้ฉลองการเปิดตัว Air ev รถยนต์ไฟฟ้าขนาดจิ๋วรุ่นพวงมาลัยขวารุ่นแรกที่ผลิตในอินโดนีเซียแล้ว รถไฟฟ้าจิ๋ว Air ev จำนวน 300 คัน ยังถูกเลือกให้เป็นรถยนต์ที่วิ่งให้บริการรับ-ส่งคณะผู้แทนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตลอดการประชุม G20 บนเกาะบาหลี ซึ่งช่วยเสริมสร้างการรับรู้แบรนด์ “Made in Liuzhou – Made in China” ในต่างประเทศ และเป็นตัวอย่างของรถยนต์พลังงานทางเลือกแบรนด์จีนที่เร่งสปีดสู่ตลาดโลก
นายหยาง จื้อกัง (Yang Zhigang/杨志刚) ผู้อำนวยการสำนักงานพาณิชย์เมืองหลิ่วโจว ให้ข้อมูลว่า หลายปีมานี้ เมืองหลิ่วโจวมุ่งสนับสนันและผลักดันให้ภาคธุรกิจหลิ่วโจว ‘ก้าวออกไป’ ต่างประเทศ ทั้งในรูปแบบของการลงทุนก่อตั้งโรงงานในต่างประเทศ และรูปแบบการแปรรูปและประกอบชิ้นส่วนในต่างประเทศ โดยบริษัท SGMW เป็นเพียงหนึ่งในภาพย่อของยุทธศาสตร์การ ‘ก้าวออกไป’ ของภาคธุรกิจหลิ่วโจว (Liugong ผู้ผลิตเครื่องจักรกลที่ใช้ในงานวิศวกรรมก่อสร้าง เป็นอีกหนึ่งภาคธุรกิจหลิ่วโจวที่ประสบความสำเร็จในการ ‘ก้าวออกไป’ ปัจจุบัน มีบริษัทลูกและสำนักงานตัวแทน 30 แห่งทั่วโลก)
บีไอซี เห็นว่า การส่งเสริมนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว (Green economy) และแนวโน้มเทรนด์การใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกกำลังมาแรง กลายเป็น key industrial sector ที่น่าจับตามองของกว่างซี ที่สำคัญ ทิศทางการพัฒนาดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ที่ตั้งเป้าจะสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนา EV และกำหนดเป้าหมายให้ไทยมีสัดส่วนการผลิตรถยนต์ EV ทุกประเภท รวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของรถยนต์ที่ผลิตได้ในประเทศทั้งหมด ภายในปี 2573 ดังนั้น ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการ ‘ก้าวออกไป’ ของภาคธุรกิจหลิ่วโจว จึงเป็นจังหวะที่ดีที่ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องของไทยจะได้แสวงหาความร่วมมือกับกว่างซี ทั้งทางด้านการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) การแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ การนำเข้ายานยนต์พลังงานทางเลือกและการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ การพัฒนาทรัพยากมนุษย์เพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน ไปจนถึงการต่อยอดความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างไทยกับกว่างซี (และจีน) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ของทั้งสองฝ่ายต่อไปในอนาคต