สารพันรถไฟในมณฑลหูหนาน
7 Jun 2019จากแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่างจางเจียเจี้ยที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกด้วยการเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง “Avatar” จนทำให้คนไทยรู้จักมณฑลหูหนานมากขึ้น แต่น้อยคนนักจะรู้ว่าหูหนานมีความสำคัญในฐานะมณฑลแห่งเทคโนโลยีระบบรางของจีนที่มีมาตรฐานระดับสากล แถมยังมีความหลากหลายของรถไฟไว้ให้เลือกใช้บริการตามความต้องการของประชาชนอีกด้วย
มณฑลหูหนานมีพื้นที่ 211,800 ตร.กม. (ประมาณร้อยละ 41 ของพื้นที่ประเทศไทย) มีทางรถไฟที่สร้างเสร็จแล้ว 5,069 กม. มากเป็นอันดับ 10 ของจีน และทางรถไฟความเร็วสูง 1,730 กม. ติดอันดับ 4 ของจีน โดยมีเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงเชื่อมไปยังเมืองเอกถึง 23 มณฑล/เขต (จาก 31 มณฑล/เขตของจีน) กลายเป็นศูนย์กลางรถไฟที่สำคัญของจีน โดยมีเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายสำคัญ 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางรถไฟความเร็วสูงปักกิ่ง-ฉางซา-กว่างโจว เชื่อมจากเหนือจรดใต้ และรถไฟความเร็วสูงเซี่ยงไฮ้-ฉางซา-คุนหมิง เชื่อมจากตะวันออกจรดตะวันตกของจีน ทำให้การเดินทางจากนครฉางซาไปยังมณฑลอื่นสะดวกรวดเร็ว นอกจากนี้ แต่ละเมืองของมณฑลหูหนานก็มีรถไฟความเร็วสูงแล่นผ่านครอบคลุมถึง 12 เมือง จาก 14 เมืองของมณฑล ทำให้สามารถเดินทางถึงกันได้ภายในระยะเวลา 2 ชม. เท่านั้น ขณะเดียวกันยังมีรถไฟระหว่างเมือง (Intercity Railway) ความเร็ว 200 กม./ชม. เชื่อม 3 เมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของมณฑลหูหนาน ได้แก่ นครฉางซา เมืองจูโจว และเมืองเซียงถาน ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. 2559 ทำให้สามารถเดินทางถึงกันได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ชม.
ไม่เพียงเท่านั้น หูหนานยังเป็นมณฑลแรกของจีนที่สามารถสร้างรถไฟแม็กเลฟ (Changsha Maglev Express) หรือรถไฟที่เคลื่อนด้วยพลังแม่เหล็กไฟฟ้าลอยตัวเหนือราง (magnetically levitating : maglev) ซึ่งออกแบบ ผลิต และบริหารงานโดยจีนทั้งหมด เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อเดือน พ.ค. 2559 โดยแล่นจากสถานีรถไฟฉางซาสายใต้ไปยังสถานีสนามบินนานาชาติหวงฮัวฉางซา ทำให้นครฉางซากลายเป็นเมืองที่ 2 ของจีนที่มีเส้นทางเดินรถไฟแม็กเลฟ ต่อจากมหานครเซี่ยงไฮ้ (โดยสำหรับกรณีของรถไฟ Maglev เซี่ยงไฮ้เป็นเทคโนโลยีที่จีนพัฒนาร่วมกับประเทศเยอรมนี ความเร็วสูงสุด 430 กม./ชม. เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2545) และทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่ 4 ที่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี Medium-Low Speed Maglev Train ต่อจากเยอรมนี ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ โดยสามารถเร่งความเร็วสูงสุด 100 กม./ชม. อย่างไรก็ตาม หูหนานมีแผนจะพัฒนารถไฟแมกเลฟให้มีความเร็ว 200 กม./ชม. ภายในปี 2563 ทั้งนี้ ตลอดเวลา 3 ปีที่เปิดให้บริการรถไฟแม็กเลฟ มีผู้โดยสารใช้บริการรวม 9.16 ล้านคน หรือเฉลี่ยประมาณวันละ 8,370 คน
อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญคือ มณฑลหูหนานเป็นแหล่งที่ตั้งบริษัทผู้ผลิตรถไฟและอุปกรณ์รถไฟรายใหญ่ที่สุดของจีน ชื่อว่า CRRC ตั้งอยู่ที่เมืองจูโจว ห่างจากนครฉางซาประมาณ 70 กม. โดยเป็นฐานการผลิตหัวรถจักรไฟฟ้า (Electric Locomotive) ที่ใหญ่ที่สุดของจีน คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 60 ของหัวรถจักรไฟฟ้าทั้งหมดของจีน มีการส่งออกหัวรถจักรไฟฟ้า รถไฟความเร็วปานกลาง-สูงระบบ EMU (Electric Multiple Unit) และรถไฟใต้ดิน ไปต่างประเทศกว่า 20 ประเทศ เช่น อิหร่าน อุซเบกิสถาน คาซัคสถาน สิงคโปร์ ตุรกี อินเดีย แอฟริกาใต้ เอธิโอเปีย มาซิโดเนีย เซอร์เบีย ปากีสถาน และมาเลเซีย รวมถึงเป็นโรงงานผลิตอุปกรณ์และอะไหล่ระบบรางที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
ในด้านการขนส่งสินค้า หูหนานเปิดให้บริการรถไฟด่วนหูหนาน-ยุโรป (Hunan-Europe Railway Express) มาตั้งแต่ปี 2557 โดยเป็น 1 ใน 5 เส้นทางรถไฟจีน-ยุโรปที่มีศักยภาพของจีน (รองจากเฉิงตู ฉงชิ่ง เจิ้งโจว และอู่ฮั่น) และยังเป็นส่วนหนึ่งของ “แผนพัฒนาเส้นทางรถไฟด่วนจีน-ยุโรป (China-Europe Railway Express) ปัจจุบัน มีขบวนเดินรถทั้งขาไปและกลับกว่า 10 เส้นทาง อาทิ จากฉางซาไป Hamburg (เยอรมนี) Tashkent (อุซเบกิสถาน) Moscow (รัสเซีย) Minsk (เบลารุส) Malaszewicze และ Warsaw (โปแลนด์) Budapest (ฮังการี) Teheran (อิหร่าน) Tilburg (เนเธอร์แลนด์) และฝั่งขากลับจาก Hamburg (เยอรมนี) Budapest (ฮังการี) Teheran (อิหร่าน) สู่นครฉางซา นับเป็นการนำสินค้า “Made in Hunan” ไปเคาะประตูเพิ่มในตลาดยุโรป เอเชียกลาง และตะวันออกกลาง และยังเป็นการส่งเสริมตลาด Cross border E-Commerce ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
นอกเหนือจากรถไฟระบบราง หูหนานยังได้พัฒนารถไฟไร้ราง หรือระบบการขับเคลื่อนอัตโนมัติหรือไร้คนขับที่เรียกว่า Autonomous Rail Rapid Transit System (ART) เป็นที่แรกของโลก เปิดทดลองให้บริการเดินรถเมื่อเดือน พ.ค. 2561 ในตัวเมืองจูโจว (ห่างจากนครฉางซาประมาณ 75 กม.) รวม 4 สถานี ระยะทาง 3.1 กม. วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 70 กม./ชม. ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการแก้ไขปัญหาจราจรของเมืองใหญ่ โดยออกแบบมาสำหรับวิ่งในเมืองที่ถนนหนทางไม่กว้างขวางมากนัก เนื่องจากตีโค้งวงแคบกว่ารถประจำทาง และสามารถวิ่งบนถนนช่องเดินรถเดียวกับรถประจำทางได้ รถไฟไร้รางใช้เทคโนโลยีรางเสมือนในการควบคุม โดยใช้ระบบเซ็นเซอร์นำทางเดินรถ (ประกอบด้วยกล้องที่มีความคมชัดสูง ระบบ GPS และเรดาร์) และข้อมูลการเดินรถจะถูกส่งเข้าไปที่ “สมอง” หรือ หน่วยควบคุมส่วนกลางระบบ ART ซึ่งการขับเคลื่อนจะวิ่งบนเลนถนนตามแนวเส้นประสีขาว 2 เส้นแทนที่รางจริง จึงทำให้ประหยัดต้นทุนการสร้างรางได้อย่างมาก
ในอนาคต นอกจากรถไฟใต้ดินที่เปิดให้บริการในนครฉางซาแล้ว หูหนานยังมีแผนจะสร้างรถไฟฟ้า Skyrail (รถไฟฟ้าแบบ Monorail ที่ใช้ในเมืองขนาดกลาง) ในเมืองเหิงหยาง ซึ่งอยู่ห่างจากนครฉางซาไปทางตอนใต้ประมาณ 190 กม. โดยเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลเมืองเหิงหยางและบริษัทรถยนต์ BYD ด้วยเหตุผลใช้เงินลงทุนและเวลาในการสร้างน้อยกว่ารถไฟใต้ดิน อีกทั้งยังเวนคืนที่ดินน้อยกว่า
สารพัดสารพันรถไฟในมณฑลหูหนานเกิดขึ้นได้จากการพัฒนาเทคโนโลยีด้านรถไฟอย่างต่อเนื่องและมีความหลากหลาย เพื่ออำนวยความสะดวกด้านคมนาคมให้กับประชาชนของตนที่มีจำนวนมากถึง 69 ล้านคน สูงเป็นอันดับ 7 ของจีน และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของชาวจีนที่นิยมการเดินทางด้วยรถไฟ ทำให้ประชาชนได้มีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น ขณะเดียวกันก็รองรับกระแสการขยายตัวของเมือง (Urbanization) ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของมณฑลหูหนานอีกด้วย
********************************************
แหล่งข้อมูล
– http://hn.people.com.cn/n2/2019/0316/c195194-32744794.html
– http://hn.qq.com/a/20180404/008280.htm
– https://www.sohu.com/a/230951262_290084
– http://k.sina.com.cn/article_6523388853_184d303b500100d2dk.html?cre=tianyi&mod=pcpager_fintoutiao&loc=23&r=9&doct=0&rfunc=40&tj=none&tr=9
– http://www.sohu.com/a/244347181_378344
– http://www.enghunan.gov.cn/News/Localnews/201905/t20190508_5329502.html