ศึกษานวัตกรรม AI ในเขต YRD (ตอนที่ 2: การประยุกต์ใช้ AI ในหลากหลายสาขา)
26 Feb 2025ปัจจุบัน เขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี (Yangtze River Delta – YRD) ซึ่งประกอบด้วยนครเซี่ยงไฮ้ มณฑลเจียงซู มณฑลเจ้อเจียง และมณฑลอานฮุยนับเป็นพื้นที่ชั้นนำด้านการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) ของจีน ซึ่งเขต YRD มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI และมีการประยุกต์ใช้ AI ในหลายหลากด้าน อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของธุรกิจ AI รายใหญ่ระดับแนวหน้าของจีนหลายราย โดยบทความนี้จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยแห่งความสำเร็จของ YRD ในเรื่องนี้ และการประยุกต์ใช้ AI ในสาขาต่าง ๆ
พัฒนา 4 ปัจจัย.. ส่งเสริมให้ YRD เป็นผู้นำด้าน AI
ตลอดช่วงที่ผ่านมา เขต YRD ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI อย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นการเติบโตและการใช้งาน AI ให้แพร่หลายมากขึ้น โดยครอบคลุมการพัฒนาใน 4 ด้านสำคัญ ได้แก่

1. การสร้างพื้นที่เฉพาะสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยี AI อาทิ การสร้างสวนอุตสาหกรรมและโซนเทคโนโลยี AI เช่น เขตไฮเทคจางเจียง(Zhangjiang Hi-Tech Park) ในเซี่ยงไฮ้ เขตใหม่เจียงเป่ย (Jiangbei New Area) ในหนานจิง มณฑลเจียงซู และเขตนิคมไฮเทคปินเจียง (Hi-Tech Zone Binjiang) ในหางโจว มณฑลเจ้อเจียง โดยรัฐบาลท้องถิ่นให้การสนับสนุนในการเสนอมาตรการจูงใจและการสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการ และการเสริมสร้างระบบนิเวศที่ครอบคลุมผสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาควิชาการ
2. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI อาทิ
– การสร้างศูนย์ข้อมูลด้าน AI ขนาดใหญ่ โดยเซี่ยงไฮ้ หนานจิง หางโจว และเหอเฝย มุ่งขยายศูนย์ข้อมูล Big Data อย่างรวดเร็ว ควบคู่กับการให้ความสำคัญกับศูนย์ข้อมูลสีเขียวที่ใช้พลังงานทดแทนในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของ AI ยกตัวอย่างเช่น SenseTime (เซี่ยงไฮ้) ตั้ง AI Data Center ขนาดใหญ่ที่เขตหลินกั่งของเซี่ยงไฮ้และมีเครือข่าย AI Data Center ในหลายเมืองในจีน โดยบริษัทฯ มีขีดความสามารถในการคำนวณสูงถึง 45,000 GPUs (สถานะมีนาคม 2567)
– การพัฒนาระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง โดยเขต YRD กำลังขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง ซึ่งมีผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำ อาทิ Alibaba Cloud (หางโจว) Tencent Cloud (เซี่ยงไฮ้) และ Huawei Cloud (หนานจิง) ซึ่งได้ลงทุนในศูนย์ข้อมูล Big Data เพื่อสนับสนุนการพัฒนา AI
3. การพัฒนาทักษะและบุคลากรด้าน AI อาทิ
– การสนับสนุนการศึกษาและการวิจัยด้าน AI โดยมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่างมหาวิทยาลัยฟู่ตั้น (เซี่ยงไฮ้) มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวทง และมหาวิทยาลัยหนานจิง ได้มีโครงการวิจัยด้าน AI ที่มีชื่อเสียง และมีการร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการค้นพบใหม่ ๆ ในด้าน AI
– การส่งเสริมให้สถาบันการศึกษาใช้ AI ในการเรียนการสอน โดยโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาหลายแห่งในเซี่ยงไฮ้ได้ประยุกต์ใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิการสอนและการเรียน อาทิ The High School Affiliated to Fudan University Qingpu Campus, Shanghai Hongkou Quyang Fourth Primary School และ Zhangjiang High-Tech Experimental Primary School เป็นต้น นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยหนานจิงในมณฑลเจียงซูยังได้กำหนดให้ AI เป็นวิชาบังคับสำหรับนักศึกษาใหม่ทุกสาขาในระดับปริญญาตรี
4. การจัดงานระดับนานาชาติและพัฒนาแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้อง อาทิ
– การจัดงานWorld Artificial Intelligence Conference (WAIC) ที่เซี่ยงไฮ้เป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2561 โดยเป็นหนึ่งในงาน AI ที่สำคัญที่สุดในเอเชีย ซึ่งรวบรวมผู้นำในด้าน AI นักวิจัย และนักลงทุนจากทั่วโลกมาหารือเกี่ยวกับแนวโน้มและนวัตกรรม รวมทั้งการแสดงผลงานด้าน AI ล่าสุด
– แพลตฟอร์มการสร้างนวัตกรรม AI เช่น การจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ในเขตสวีฮุ่ยของเซี่ยงไฮ้ (องค์กรของภาครัฐ) ด้วยงบประมาณลงทุนกว่า 5 ล้านหยวนเมื่อช่วงต้นปี 2567 โดยปัจจุบันมีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าแล้ว 97 รายการ ข้อมูลสิทธิบัตร 4 รายการ และลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ 22 รายการ นอกจากนี้ ล่าสุดเขตสวีฮุ่ยของเซี่ยงไฮ้ประกาศจะพัฒนา Shanghai Foundation Model Innovation Center (SMC) ที่ก่อตั้งเมื่อกันยายน 2566 ให้กลายเป็นศูนย์ AI Incubator ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีพื้นที่ถึง 100,000 ตารางเมตร โดยจะให้การสนับสนุนด้านนโยบายและช่องทางการระดมทุนต่าง ๆ ให้แก่นักพัฒนา ปัจจุบันมีบริษัท Large Language Model กว่า 200 รายมาจัดตั้งสำนักงานที่นี่แล้ว
YRD ผลักดัน AI… ใช้ประโยชน์หลายภาคส่วน
ปัจจุบัน เขต YRD ได้ประยุกต์ใช้ AI ในหลากหลายภาคส่วนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินการ เช่น การบริหารจัดการเมือง การดูแลสุขภาพ การศึกษา การผลิต และการเงิน/อีคอมเมิร์ซ ฯลฯ โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการใช้ AI ในแต่ละภาคส่วน รวมถึงเมืองและบริษัทที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ ดังนี้

1. การใช้ AI เพื่อบริหารจัดการเมือง
เมืองต่าง ๆ ใน YRD อาทิ เซี่ยงไฮ้ หางโจว หนานจิง และเหอฝย มีการใช้AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเมืองอย่างเป็นองค์รวม ตั้งแต่การจราจรไปจนถึงการจัดการขยะและความปลอดภัยสาธารณะ เช่น การวิเคราะห์เชิงพยากรณ์ เซ็นเซอร์อัจฉริยะ การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และการรับประกันความปลอดภัยสาธารณะ อาทิ
ตัวอย่างบริษัทชั้นนำที่ใช้ AI บริหารจัดการเมือง อาทิ
(1) SenseTime (เซี่ยงไฮ้): เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยี AI ซึ่งรวมถึงเพื่อบริหารจัดการเมือง เช่น การจัดการการจราจร การจดจำใบหน้า การรักษาความปลอดภัย และการป้องกันการทิ้งขยะในที่สาธารณะ
(2) Shanghai Shentong Metro Group (เซี่ยงไฮ้): ใช้ AI ควบคุมความปลอดภัยในการขับเคลื่อนขบวนรถไฟฟ้า และการจัดการฝูงชนในสถานีรถไฟฟ้า
(3) Shanghai Municipal Engineering Design Institute (เซี่ยงไฮ้): ใช้ AI ในการวางผังเมืองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจราจร
(4) Alibaba Cloud (หางโจว): แผนกคลาวด์ของ Alibaba Group ได้ใช้ AI สร้าง “City Brain” ที่รวมการตรวจสอบการจราจร การจัดการที่จอดรถ และระบบตรวจจับอาชญากรรม

2. การใช้ AI เพื่อการแพทย์และสุขภาพ
ปัจจุบัน AI เป็นเครื่องมือสำคัญในการปฏิวัติแวดวงการแพทย์และสุขภาพ โดยมีการนำ AI มาใช้ในการตรวจจับโรคตั้งแต่ระยะแรก การวินิจฉัยภาพทางการแพทย์ การผ่าตัดโดยหุ่นยนต์ การแพทย์ทางไกล การค้นคว้ายา และการแพทย์ที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของโรงพยาบาลและระบบสธารณสุขในภาพรวม
ตัวอย่างบริษัทชั้นนำที่ใช้ AI เพื่อการแพทย์และสุขภาพ อาทิ
(1) Ping An Healthcare (เซี่ยงไฮ้): พัฒนาแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนโดย AI เพื่อให้บริการปรึกษาสุขภาพออนไลน์ การตรวจจับโรคตั้งแต่ระยะแรกผ่านภาพเอ็กซ์เรย์ และบริการจัดการสุขภาพที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล
(2) Shenzhen Mindray (เซี่ยงไฮ้): ใช้เทคโนโลยี AI สำหรับการวินิจฉัยทางการแพทย์
(3) Alibaba Health (หางโจว): ใช้เทคโนโลยี AI สำหรับโซลูชันด้านสุขภาพ

3. การประยุกต์ใช้ AI เพื่อการศึกษา
มีการใช้อย่างแพร่หลายในการเพิ่มประสบการณ์การเรียนรู้ การให้คำปรึกษาผ่านระบบเสมือน และการสร้างแพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ AI โดยเฉพาะในการสร้างเนื้อหาการเรียน
ที่เหมาะสมกับระดับของผู้เรียนแต่ละคน และการให้ความเห็นและคำแนะนำแบบเรียลไทม์สำหรับการทำแบบทดสอบของนักเรียน ทั้งในวิชาเชิงปริมาณและคุณภาพ
ตัวอย่างบริษัทชั้นนำที่ใช้ AI เพื่อการเรียนการสอน อาทิ
(1) Squirrel AI (เซี่ยงไฮ้): ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลการเรียนรู้แบบปรับตัว (Adaptive Learning) และการเรียนรู้ส่วนบุคคล (Personalized Learning) ผ่านแพลตฟอร์มที่ปรับเนื้อหาให้เหมาะกับแต่ละคน พร้อมใช้ Learning Analytics เพื่อพัฒนาหลักสูตรและวิธีการสอนให้มีประสิทธิภาพ
(2) iFlytek (อานฮุย): ใช้เทคโนโลยีการรู้จำเสียงในการศึกษาโดยพัฒนาแอปพลิเคชันการเรียนรู้ภาษาที่ขับเคลื่อนด้วย AI ระบบการรู้จำเสียง การฝึกฝนการอ่าน และการแปลภาษาอัตโนมัติ

4. การใช้ AI ในภาคอุตสาหกรรม
AI เข้ามามีบทบาทด้านการทำงานอัตโนมัติขอสายการผลิต การเพิ่มประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทาน การควบคุมคุณภาพ และการวางแผนการบำรุงรักษาล่วงหน้า โดยมีการเพิ่มการใช้หุ่นยนต์และระบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI และบูรณาการเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน
ตัวอย่างบริษัทชั้นนำที่ใช้ AI ในภาคอุตสาหกรรม อาทิ
(1) Siasun Robot & Automation (เซี่ยงไฮ้): พัฒนาและติดตั้งโซลูชันหุ่นยนต์ที่ใช้ AI สำหรับการสร้างระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์, และโลจิสติกส์
(2) Jiangsu Yueda Group (ซูโจว) : เป็นกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ในจีนที่ดำเนินธุรกิจหลากหลาย เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ พลังงานสะอาด อสังหาริมทรัพย์ การผลิต และการเงิน และมุ่งใช้ AI ในการทำงานในอุตสาหกรรมและขั้นตอนต่าง ๆ
(3) Geely Automobile (หางโจว): เป็นบริษัทยานยนต์และยานยนต์พลังงานใหม่ที่ใช้ AI เพื่อพัฒนาการขับเคลื่อนยานยนต์อัตโนมัติ
(4) Hikvision (หางโจว): เป็นบริษัทด้านโซลูชันรักษาความปลอดภัยและระบบตรวจสอบ โดยใช้ AI เพื่อช่วยในการเก็บภาพ วิเคราะห์ข้อมูลจากภาพ และคาดการณ์แนวโน้มที่เกี่ยวข้อง

5. การใช้ AI ในธุรกิจการเงินและการพาณิชย์
AI มีบทบาทช่วยเปลี่ยนแปลงธุรกิจการเงินยุคใหม่ด้วยการบริการลูกค้าอัตโนมัติ (แชทบอท) การเพิ่มความรวดเร็วและแม่นยำในการดำเนินการตามคำสั่งซื้อขายโดยใช้อัลกอริธึม การวิเคราะห์แนวโน้มการลงทุน การสร้างผลิตภัณฑ์การเงินที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลการสนับสนุนอีคอมเมิร์ซในการจับคู่ผู้ซื้อและผู้ขาย ตลอดจนการตรวจจับการฉ้อโกงที่ล้ำสมัย เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการใช้ AI เพื่อแนะนำสินค้า แบ่งกลุ่มลูกค้า และตั้งราคาที่ปรับเปลี่ยนได้ทันทีตามกลุ่มและความสนใจของลูกค้า
ตัวอย่างบริษัทชั้นนำที่ใช้ AI ในภาคอุตสาหกรรม อาทิ
(1) Shanghai Pudong Development Bank (เซี่ยงไฮ้): ใช้ AI ในการใช้อัลกอริธึมในการซื้อขายสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ การประเมินเครดิตลูกค้า การบริหารความเสี่ยง และการตรวจจับการทุจริต
(2) JD.com (เซี่ยงไฮ้): แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของจีน ซึ่งใช้ AI ในด้านการค้าออนไลน์ โลจิสติกส์ และการพัฒนาธุรกิจฟินเทค
(3) Ant Group (หางโจว): อัลกอริธึมที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ Ant Group ภายใต้เครือ Alibaba โดยนำมาใช้ในบริการฟินเทคหลายประเภท เช่น การพิจารณาสินเชื่อออนไลน์ การจัดการความมั่งคั่ง และระบบการชำระเงิน
บทความนี้ได้นำเสนอข้อมูลการประยุกต์ใช้ AI อย่างรอบด้านในหลากหลายสาขา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในปัจจุบัน โดยบทความต่อไปจะแนะนำถึงการสร้างความร่วมมือด้าน AI ของเขต YRD รวมทั้งโอกาสในความร่วมมือกับไทย โปรดติดตาม
—————-
จัดทำโดย นางสาวณัฐธิดา นิสภกุลชัย ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ข้อมูลอ้างอิง
(1) https://www.cfbond.com หัวข้อ 多地力挺人工智能产业发展 上市公司“含AI量”持续提升วันที่ 5 ธ.ค. 2567
(2) https://baijiahao.baidu.com หัวข้อ 工业AI平台助力人工智能在制造行业应用 วันที่ 15 ธ.ค. 2567(3) https://baijiahao.baidu.com หัวข้อ 恒荣汇彬:如何利用人工智能提高效率วันที่ 11 ธ.ค. 2567
(4) https://www.ft.com/ หัวข้อ China’s ‘AI-in-a-box’ products threaten Big Tech’s cloud growth strategies วันที่ 18 พ.ค. 2567
(5) https://www.alibabacloud.com หัวข้อ SDN: Enabling Smart Citiesวันที่ 20 พ.ค. 2567
(6) https://www.morningstar.com หัวข้อ Squirrel Ai Learning Sets Guinness World Recordวันที่ 06 ธ.ค. 2567