รู้ทันจีน อนุญาตผู้ลงทุนรายย่อยชาวต่างชาติลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
20 Nov 2019เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2561 เป็นวันแรกที่จีนอนุญาตให้ผู้ลงทุนรายย่อยชาวต่างชาติสามารถเปิดบัญชีหลักทรัพย์สกุลเงินหยวน (A share) เพื่อลงทุนในตลาดหลักทรัพย์จีนได้เป็นครั้งแรก จากที่ผ่านมา ผู้ลงทุนรายย่อยชาวต่างชาติสามารถเปิดบัญชีหลักทรัพย์สกุลเงินต่างชาติ (B share) เท่านั้น
China Securities Depository and Clearing Corporation Limited (CSDC) ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางของจีนในการทำธุรกรรมการเปิดบัญชีและรับชำระหลักทรัพย์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2544 ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งบริษัท และกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์ของจีน โดยเป็นนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร ถือหุ้นโดยตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ และตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น ฝ่ายละครึ่ง โดย SCDC ได้รับดูแลธุรกรรมการเปิดบัญชีและรับชำระหลักทรัพย์ทั้งหมดแทนตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2544 เป็นต้นมา ตามเจตนารมณ์ของกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์ ที่ระบุให้มีระบบการเปิดบัญชีและรับชำระหลักทรัพย์ในจีนเพียงแห่งเดียวเท่านั้น
ประกาศของ CSDC อนุญาตให้ผู้ลงทุนรายย่อยชาวต่างชาติเปิดบัญชีหลักทรัพย์สกุลเงินหยวน (A share) เพื่อลงทุนในตลาดหลักทรัพย์จีนได้ 2 ประเภท ได้แก่ ชาวต่างชาติที่ทำงานในจีน และพนักงานชาวต่างชาติของบริษัทจีนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์โดยทำงานอยู่นอกประเทศจีนซึ่งได้เข้าร่วมโปรแกรม Employee Stock Ownership Plan (ESOP) ของบริษัท
สำหรับคนไทยที่มีคุณสมบัติสอดคล้องกับเงื่อนไขของ CSDC และมีความประสงค์จะเปิด บัญชีหลักทรัพย์สกุลเงินหยวน (A share) สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของ CSDC “http://www.chinaclear.cn/zdjs/gszb/201808/b37de864ebda410cbe619696726fda1e.shtml”
การที่จีนอนุญาตให้ผู้ลงทุนรายย่อยชาวต่างชาติเปิดบัญชีหลักทรัพย์สกุลเงินหยวน (A share) ได้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินนโยบายเปิดสู่ภายนอก เนื่องจากโดยทั่วไป ตลาดหลักทรัพย์ในแต่ละประเทศ ก็อนุญาตให้ผู้ลงทุนรายย่อยชาวต่างชาติสามารถเปิดบัญชีหลักทรัพย์สกุลเงินท้องถิ่นได้อยู่แล้ว เพียงแต่จีนมีการดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ขณะเดียวกัน ช่วงเวลาที่จีนเริ่มอนุญาตให้ผู้ลงทุนรายย่อยชาวต่างชาติเปิดบัญชีหลักทรัพย์สกุลเงินหยวน (A share) ได้นั้น เป็นช่วงที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของจีนอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ ซึ่งอาจมองได้ว่า จีนดันนโยบายนี้ออกมาเพื่อสร้างความคึกคักให้ตลาดหลักทรัพย์ อีกทั้งยังสามารถป้องกันเงินของชาวต่างชาติที่ทำงานในจีนไม่ให้ไหลออก และยังเป็นการดึงดูดเงินของพนักงานชาวต่างชาติของบริษัทจีนซึ่งทำงานอยู่นอกประเทศจีนให้ไหลเข้ามาได้อีกด้วย เรียกว่า ยิงปืนนัดเดียว ได้นกหลายตัว
แม้นโยบายดังกล่าวจะประกาศใช้มาเป็นระยะเวลากว่า 1 ปีแล้ว แต่คาดว่า ผู้ลงทุนรายย่อยชาวต่างชาติในตลาดหลักทรัพย์จีนยังคงมีอยู่น้อยมากทั้งด้านจำนวนและมูลค่าการลงทุน อาจเป็นเพราะไม่ทราบว่ามีนโยบายนี้ หรืออาจอยู่ระหว่างตัดสินใจ สำหรับคนไทยที่สนใจ ก็ควรศึกษาตลาดหลักทรัพย์จีนให้ถ่องแท้ก่อนตัดสินใจลงทุน เพราะการลงทุนทุกอย่างย่อมมีความเสี่ยง
*********************************************************************
จัดทำโดย นายโกสินทร์ บุณยวัฒโนภาส
ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน สถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง