พี่สอนน้อง แชร์ประสบการณ์จากการออกงานเทศกาลไทยฯ
25 May 2018เพิ่งเสร็จสิ้นไปสดๆ ร้อนๆ กับงานเทศกาลไทย ณ นครคุนหมิง เมื่อวันที่ 11-15 พ.ค. 2561 ซึ่งได้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 แล้ว ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานเทศกาลไทยฯ ก็มีความหลากหลาย บางท่านเป็นผู้ประกอบการมากประสบการณ์ บางท่านเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่ บางท่านเป็นผู้นำเข้าในพื้นที่ และบางส่วนเป็นผู้ผลิตหรือผู้ส่งออกที่เดินทางมาจากไทย ขณะที่สินค้าก็มีความหลากหลายเช่นเดียวกันมีทั้งที่ได้รับความนิยมอยู่แล้ว และสินค้าชนิดใหม่ที่ตั้งใจนำมาทดลองตลาด
ในโอกาสนี้ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน สถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง ได้รับเกียรติจากผู้ประกอบการหลายท่านในการให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประสบการณ์ในการเข้าร่วมงานเทศกาลไทยฯ และมุมมองต่อโอกาสของสินค้าไทยในตลาดจีน เพื่อนำข้อมูลที่มีประโยชน์มาแบ่งปันกันแบบ “พี่สอนน้อง”
ผลไม้ฟรีซดราย “i-Health”ขายดี มีโอกาส ไม่ง้อล้ง
จังหวัดจันทบุรีนอกจากได้ชื่อว่าเป็นแหล่งพลอยคุณภาพดีของไทยแล้ว ยังเป็นแหล่งผลิตผลไม้คุณภาพชั้นเยี่ยมอีกด้วย แม้ผลไม้ไทยจะเป็นที่นิยมของผู้บริโภคจีน โดยเฉพาะทุเรียน มังคุด และลำไย แต่ที่ผ่านมามักได้ยินข่าวล้งผลไม้กดราคาผลผลิตของเกษตรกร ด้วยผลไม้เป็นสินค้าที่เน่าเสียง่าย จึงต้องยอมตัดใจขายในราคาถูก ขณะที่ล้งนำไปขายต่อในราคาสูง
คุณภูเมธ จรรยารักษ์ และคุณทิพย์วารี ปิยชนันธร คู่สามีภรรยาคนเมืองจันท์ที่ประกอบอาชีพค้าขายเครื่องประดับพลอยอยู่แล้ว ได้เกิดไอเดียในการนำผลไม้จากสวนของตนเองและญาติในจังหวัดจันทบุรีมาแปรรูปโดยกรรมวิธีฟรีซดรายเป็น “ผลไม้กึ่งขนมทานเล่น” ซึ่งคงคุณภาพสารอาหารและรสชาติ ที่สำคัญงคือ เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรได้โดยไม่ต้องง้อล้ง
คุณทิพย์วารีฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้เริ่มต้นผลิตผลไม้ฟรีซดราย ตรา “i-Health” ได้แก่ ทุเรียน มังคุด มะม่วง และลำไยสอดใส้ครีมทุเรียน ตั้งแต่เดือน พ.ค. 2560 โดยนำสินค้าชนิดนี้เข้าร่วมงานเทศกาลไทยปีนี้เป็นครั้งแรก ที่ผ่านมาได้เคยนำสินค้าไปร่วมงานแสดงสินค้าอื่นมาแล้ว 2 ครั้ง โดยได้รับยอดสั่งซื้อจำนวนหนึ่ง
สินค้ากลุ่มผลไม้ฟรีซดรายของไทยส่วนใหญ่นิยมใช้ทุเรียนและลำไยสอดใส้ครีมทุเรียน เราต้องการสร้างความแปลกใหม่ จึงเพิ่มมังคุดและมะม่วง จากการสังเกตพฤติกรรมผู้บริโภคจีน พบว่า ผลไม้ฟรีซดรายเหมาะสำหรับผู้บริโภควัยรุ่นและวัยทำงาน ส่วนผู้บริโภคอายุ 50 ปีขึ้นไปมักจะยึดติดกับผลไม้สดและผลไม้แปรรูปแบบดั้งเดิม โดยทุเรียนฟรีซดรายได้รับความนิยมมากที่สุด แต่มังคุดฟรีซดรายที่มีรสหวานอมเปรี้ยวก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคชาวคุนหมิงที่ชอบอาหารรสเปรี้ยวเหมือนคนไทย ขณะที่ผู้บริโภคจีนในเมืองอื่นจะรู้สึกว่ามังคุดฟรีซดรายมีรสเปรี้ยวเกินไป
คู่แข่งของผลไม้ฟรีซดรายของไทย ได้แก่ ผลไม้ฟรีซดรายของจีน เนื่องจากจีนมีการนำเข้าผลไม้ไทยจำนวนมาก จึงได้นำผลไม้ส่วนหนึ่งมาแปรรูปเป็นผลไม้ฟรีซดราย โดยมีราคาถูกกว่าผลไม้ฟรีซดรายของไทย แต่ก็มีคุณภาพต่ำกว่าเช่นกัน คุณทิพย์วารีฯ จึงมองว่า สินค้าไทยยังมีโอกาสในจีน แต่คนไทยต้องช่วยกันรักษาคุณภาพ และไม่ขายตัดราคากันเอง
น้ำพริกทรงเครื่อง “หนิง” สินค้าอาหารน้องใหม่ ฉีกรูปแบบอาหารไทยดั้งเดิมในสายตาคนจีน
มีผู้บริโภคจีนจำนวนไม่น้อยที่ชอบอาหารไทย นอกจากการไปร้านอาหารไทยแล้ว บางส่วนก็นิยมซื้อเครื่องปรุงอาหารไทยมาปรุงรับประทานเองที่บ้าน แต่ความไม่เชี่ยวชาญก็ทำให้บางครั้งได้อาหารไทยที่รสชาติไม่กลมกล่อมถูกปาก สินค้าอาหารพร้อมรับประทานจึงตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ชอบความสะดวกสบายได้อย่างดี
คุณวรรณวิสา หวานคำเพราะ ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท ครัวคุณหนิง จำกัด ได้นำน้ำพริกทรงเครื่อง ตรา “หนิง” Ning Chili Secret เข้าร่วมงานเทศกาลไทยฯ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวสินค้าในต่างประเทศเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ น้ำพริกทรงเครื่อง “หนิง” มีวางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตห้างสรรพสินค้าพารากอน ท๊อปซุปเปอร์มาร์เก็ต วิลล่ามาร์เก็ต และเดอะมอล สกายพอร์ต ดอนเมือง ซึ่งกลุ่มลูกค้ามีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ
คุณวรรณวิสาฯ เล่าเหตุผลในการเข้าร่วมงานเทศกาลไทยฯ ว่า ต้องการทดลองตลาดและการตอบรับของผู้บริโภคชาวจีน จึงนำน้ำพริกทรงเครื่องมาจำนวนมากเพื่อให้ผู้บริโภคทดลองชิม พบว่า มีจำนวนไม่น้อยที่ได้ชิมแล้วก็ตัดสินใจซื้อน้ำพริกทรงเครื่อง นอกจากนี้ ยังได้นำสินค้าชนิดใหม่ที่ยังไม่ได้วางตลาดในประเทศไทยมาแจกให้ผู้บริโภคทดลองชิมในงานเทศกาลไทยฯ โดยเฉพาะ ได้แก่ ปลากรอบ และคางกุ้ง
จากความตั้งใจเดิมที่มาเข้าร่วมงานเทศกาลไทยฯ โดยเน้นทดลองตลาดเป็นหลัก แต่หลังจากที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครคุนหมิง จัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ โดยเชิญผู้นำเข้าในพื้นที่มาชมสินค้าและเจรจาธุรกิจ ก็มีผู้นำเข้ารายหนึ่งเหมาน้ำพริก ปลากรอบ และคางกุ้งทั้งหมด และยังมีผู้นำเข้าอีกรายหนึ่งแสดงความสนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายอีกด้วย
สมุนไพรไทย “อภัยภูเบศร” โดนใจคนจีนที่นิยมการแพทย์สมุนไพร
ชาวจีนส่วนใหญ่ยังคงนิยมและเชื่อมั่นในการรักษาโรคด้วยการแพทย์แผนจีน การใช้พืชสมุนไพรและยาสมุนไพรจีน โดยเฉพาะมณฑลยูนนานได้ประกาศให้มีการส่งเสริมการใช้พืชสมุนไพรและยาสมุนไพรจีนในโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนและโรงพยาบาลแพทย์ปัจจุบัน ขณะที่ยาสมุนไพรไทยหลายชนิดก็ใช้พืชสมุนไพรที่คนจีนรู้จักเป็นส่วนผสม ทำให้ผู้บริโภครู้จักคุ้นชินและเปิดใจรับได้ไม่ยาก
“ไม่คิดว่าจะขายดีขนาดนี้” นายณัฐดนัย มุสิกวงศ์ เภสัชกรประจำโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พร้อมด้วยนางสาวปนัดดา จรัสรัตนโชติ แพทย์แผนไทยประยุกต์ และนางประเทืองทิพย์ สินสมบัติ ผู้ช่วยแพทย์แผนไทย ได้เข้าร่วมงานเทศกาลไทยฯ โดยการเชิญของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานคุนหมิง เพื่อให้ผู้เข้าชมได้ทดลองประสบการณ์นวดแผนไทย รวมทั้ง ยังได้นำผลิตภัณฑ์สมุนไพรของโรงพยาบาลฯ มาจำหน่ายด้วย อาทิ สบู่หญ้ารีแพร์ สบู่มังคุด สบู่น้ำผึ้ง ยาสีฟันกระชาย เซรั่มและครีมบัวไผ่ข้าว ยาหม่อง ยาดม ครีมและสเปรย์นวดคลายกล้ามเนื้อ และยาอมมะขามป้อม
นายณัฐดนัยฯ กล่าวว่า มีคนจีนที่สนใจเข้ามาสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์สมุนไพรของโรงพยาบาลฯ จำนวนมาก แต่มีอุปสรรคด้านการสื่อสารภาษาจีน ซึ่งได้เจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ฯ และเจ้าหน้าที่ ททท. ช่วยแปลภาษาให้ เมื่ออธิบายส่วนผสมและคุณสมบัติของสินค้าแต่ละชนิดให้ฟัง หรือทดลองนวดแผนไทยด้วยยาหม่องหรือครีมและสเปรย์นวดคลายกล้ามเนื้อ ส่วนใหญ่ก็ตัดสินใจซื้อทันที นอกจากนี้ ยังมีคนจีนที่เคยใช้สินค้าของโรงพยาบาลฯ เมื่อเห็นสินค้าก็รีบซื้อทันที รวมทั้ง มีลูกค้าจำนวนหนึ่งที่ซื้อสินค้าไปทดลองใช้ และกลับมาซื้อเพิ่มจำนวนมากในวันรุ่งขึ้น ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็กล่าวเช่นเดียวกันว่า ถ้าใช้หมดแล้วจะหาซื้อได้ที่ไหนอีก รวมทั้ง ยังบอกให้มาเปิดร้านจำหน่ายในจีนเลย
ภายในงานฯ มีผู้ประกอบการไทยและจีนหลายราย ที่ประกอบธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายสินค้าไทยในพื้นที่ แสดงความสนใจที่จะนำผลิตภัณฑ์สมุนไพรของโรงพยาบาลฯ เข้ามาจำหน่ายในจีน ซึ่งโรงพยาบาลฯ จะนำข้อมูลและผลตอบรับกลับไปพิจารณาเกี่ยวกับการทำตลาดจีนต่อไป เนื่องจากประเมินแล้วว่า ตลาดจีนและผู้บริโภคจีนมีศักยภาพ และผลิตภัณฑ์สมุนไพรของโรงพยาบาลฯ ก็มีโอกาสในตลาดจีนมากเช่นกัน
ตลอดงานฯ 5 วัน มีผู้เข้าชมงานฯ ประมาณ 70,000 คน โดยมียอดขายสินค้ากว่า 1.1 ล้านหยวน ทั้งนี้ สินค้าศักยภาพที่ได้รับความนิยมจากชาวจีนที่เข้ามาชมงานฯ ได้แก่ สินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่ม และสินค้าสุขภาพความงามและสปา ซึ่งสอดคล้องกับกลุ่มผู้ประกอบการและสินค้าที่ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน สถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง ขออนุญาตสัมภาษณ์ในครั้งนี้
นอกจากงานเทศกาลไทย ณ นครคุนหมิงแล้ว ในปีนี้ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง ยังได้จัดงานเทศกาลไทย ณ นครกุ้ยหยาง ในวันที่ 17-20 พ.ค. 2561 ซึ่งนับเป็นการจัดงานที่นครกุ้ยหยางครั้งแรกในรอบ 4 ปีอีกด้วย โดยนครกุ้ยหยางเป็นเมืองเอกของมณฑลกุ้ยโจว ซึ่งมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วลำดับต้นของจีน
งานเทศกาลไทย ณ นครกุ้ยหยาง ได้รับการสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับชาวกุ้ยหยาง ทั้งสินค้าไทย อาหารไทย วัฒนธรรมไทย และการแสดงนาฏศิลป์ไทย นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังได้มีโอกาสสัมผัสพฤติกรรมผู้บริโภคชาวกุ้ยหยางโดยตรงอีกด้วย พบว่า ชาวกุ้ยหยางมีกำลังซื้อสูง หากชอบก็จะตัดสินใจซื้อเลยโดยไม่ต่อรองราคา
ด้วยอากาศที่ค่อนข้างร้อน ทำให้อาหารที่มีธาตุเย็นและให้ความสดชื่นจะได้รับความนิยมมาก อาทิ ส้มโอไทย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำ เครื่องปรุงต้มยำ และรังนก ขณะที่ ทุเรียนและแคบหมู กลับได้รับความสนใจน้อยกว่าที่คุนหมิง
นอกจากนี้ พบว่า ชาวกุ้ยหยาง โดยเฉพาะสุภาพสตรีจะให้ความสำคัญกับความสวยความงามและการบำรุงผิวเป็นพิเศษ โดยสินค้าประเภทสปา อาทิ สบู่ ครีมและเซรั่มบำรุงผิว และแผ่นมาส์กหน้ามียอดจำหน่ายสูงมาก
จากข้อมูลข้างต้น พบว่า สินค้าไทยยังคงมีโอกาสในตลาดจีน โดยจำเป็นต้องพิจารณาพฤติกรรมของผู้บริโภคที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ โดยงานเทศกาลไทยที่จัดขึ้นโดยสถานกงสุลใหญ่ฯ ในจีน สามารถช่วยเป็นเวทีในการนำเสนอสินค้าไทยไปสู่ผู้บริโภคชาวจีน เพื่อนำผลตอบรับไปยอดต่อพัฒนาสินค้าให้ตรงความต้องการของตลาดยิ่งขึ้น รวมทั้ง ยังเป็นโอกาสในการจับคู่ธุรกิจอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ประกอบการ ก็ควรรักษาคุณภาพสินค้า เตรียมความพร้อมด้านภาษา ทั้งสลากภาษาจีนและล่ามที่สามารถแนะนำสินค้าได้อย่างถูกต้องชัดเจน รวมทั้ง เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่นิยมชำระเงินด้วย Ali Pay หรือ Wechat Pay ด้วย
จัดทำโดย
นายโกสินทร์ บุณยวัฒโนภาส
ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน สถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง