นครฉางซากระตุ้นเศรษฐกิจภายใน รุกส่งเสริมธุรกิจกลางคืน
17 Dec 2019เมื่อช่วงต้นเดือน ธ.ค. 2562 นครฉางซาถูกคัดเลือกให้เป็น “10 เมืองที่มีอิทธิพลมากที่สุดของจีนในด้านเศรษฐกิจภาคกลางคืน” (China’s Top 10 Most Influential Cities of Nighttime Economy) จัดโดยบริษัท Tencent ร่วมกับ Liaowang Institute (สถาบันวิจัยที่จัดตั้งโดยสำนักข่าวซินหัว) ซึ่ง 10 เมืองดังกล่าว ได้แก่ ฉงชิ่ง ปักกิ่ง ฉางซา ชิงต่าว เซินเจิ้น กว่างโจว จี่หนาน เฉิงตู ซีอาน และสือเจียจวง ตามลำดับ
การส่งเสริมเศรษฐกิจภาคกลางคืน (Nighttime Economy) คือการปลุกเศรษฐกิจยามค่ำคืนช่วง 6 โมงเย็น-6 โมงเช้าให้มีความคึกคัก กิจกรรมที่ขับเคลื่อนจะมุ่งเน้นภาคบริการ เช่น การช้อปปิ้ง การดื่มกิน การท่องเที่ยว เสริมสวย สปาและการดูแลสุขภาพ การศึกษา ฟังดนตรีและการเต้นรำ ดูภาพยนตร์และโทรทัศน์ ศิลปะและวัฒนธรรม
เศรษฐกิจภาคกลางคืนของจีนกำลังได้รับการส่งเสริมหลังจากคณะรัฐมนตรีจีนประกาศความคิดเห็น 2 ฉบับ คือ “ความคิดเห็นเกี่ยวกับการส่งเสริมศักยภาพการบริโภคด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว” และ “ความคิดเห็นเกี่ยวกับการเร่งพัฒนาและส่งเสริมการไหลเวียนของการบริโภคเชิงพาณิชย์” เมื่อเดือน ส.ค. 2562 โดยหนึ่งในมาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศเพื่อรับมือกับเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวก็คือ การส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจภาคกลางคืน ซึ่งต่อมามีหลายเมืองของจีนกว่า 40 เมืองต่างทยอยประกาศแผนการกระตุ้นการบริโภคในเวลากลางคืน และหนึ่งในนั้นคือ นครฉางซา มณฑลหูหนาน
แผนเร่งพัฒนาเศรษฐกิจภาคกลางคืนนครฉางซา 2563-2565
เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2562 คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปนครฉางซาได้ประกาศ “ความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินงานเร่งพัฒนาเศรษฐกิจภาคกลางคืน” ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2562 โดยมีจุดหมายสร้างนครฉางซาให้กลายเป็น “เมืองที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง” ระยะเวลาในการพัฒนา 3 ปี ซึ่งภายในปี 2565 นครฉางซาจะ (1) สร้างย่านสาธิตเศรษฐกิจภาคกลางคืนระดับเมือง 10 แห่ง ระดับอำเภอ 30 แห่ง และร้านค้าสาธิตเศรษฐกิจภาคกลางคืน 200 แห่ง (2) สร้างสถานที่หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มีการบริโภคช่วงกลางคืนให้มีชื่อเสียงในระดับประเทศ 50 แห่ง และระดับมณฑล 100 แห่ง (3) มูลค่าการค้าปลีกภาคกลางคืนต่อมูลค่าการค้าปลีกของมณฑลมีสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 20 โดยการค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นใหม่จะมีมูลค่ามากกว่า 60,000 ล้านหยวน และมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นกว่า 100,000 ตำแหน่ง โดยแผนดังกล่าวจะมุ่งเน้นการพัฒนา 4 ด้าน คือ
- สร้างย่านการบริโภคช่วงกลางคืนที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและหลากหลายทั้งการช้อปปิง อาหาร ท่องเที่ยว บันเทิง วัฒนธรรม และที่พัก เป็นต้น โดยจะ (1) สร้างย่านการค้าชั้นนำเป็นศูนย์กลาง ยกระดับคุณภาพย่านการค้าระดับสูง 9 แห่ง และสร้างย่านการค้าที่โดดเด่นระดับอำเภอ 4 แห่ง (2) สร้างย่านอาหารการกิน เช่น ถนนคนเดิน 50 เส้นทาง ตลาดกลางคืน 30 แห่ง (3) สร้างเส้นทางวัฒนธรรม ได้แก่ ลานกิจกรรมวัฒนธรรม 30 แห่ง สถานที่แสดงศิลปะและการแสดง 100 แห่ง และเส้นทางท่องเที่ยวในเวลากลางคืนที่มีคุณภาพดี 10 เส้นทาง (3) สร้างที่พักให้หลากหลาย ได้แก่ สถานที่ตั้งแคมป์กลางแจ้งกว่า 20 แห่ง โรงแรมคุณภาพดี 100 แห่ง และโฮมสเตย์พิเศษกว่า 50 แห่ง
- สร้างจุดชมวิวให้มีฉากกลางคืนที่แปลกใหม่และสวยงาม เพื่อลดความจำเจ เช่น การแสดงดอกไม้ไฟบนเกาะส้ม (แหล่งท่องเที่ยวระดับสูงสุดของประเทศ) ในเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันเสาร์ และการแสดงโชว์แสงสีบนท้องฟ้าด้วยโดรนมากกว่า 30 ครั้งต่อปี รวมถึงสนับสนุนการจัดกิจกรรมภาคกลางคืน เช่น ตลาดกลางคืน เทศกาลโคมไฟ และการแข่งขันต่าง ๆ เพื่อให้เกิดบรรยากาศความคึกคัก ผู้คนออกมาเดินเล่น ถ่ายรูป และจับจ่ายใช้สอยในช่วงกลางคืน
- อาศัยข้อได้เปรียบทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสร้างนวัตกรรมและเพิ่มการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในเศรษฐกิจภาคกลางคืน เช่น เทคโนยีภาพเสมือนจริง VR (Virtual Reality) และ AR (Augmented Reality) การผนวก Internet Plus เข้ากับการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม รวมถึงการสนับสนุนการเปิดร้านสะดวกซื้อที่ให้บริการ 24 ชั่วโมง
- การพัฒนาสิ่งแวดล้อมและปรับปรุงการบริการสาธารณะ เช่น การสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่เศรษฐกิจภาคกลางคืน (เช่น ขนส่งสาธารณะ สัญญาณ 5G) การกำกับดูแลด้านความปลอดภัยทั้งในด้านความปลอดภัยของอาหาร การป้องกันอัคคีภัย และความปลอดภัยจากอันตรายในยามค่ำคืน
สถิติเศรษฐกิจภาคกลางคืนของจีน
สถิติที่น่าสนใจจากกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า ร้อยละ 60 ของการบริโภคของจีนเกิดขึ้นในเวลากลางคืน ซึ่งถือเป็น“เวลาทอง” สำหรับการบริโภค และในแต่ละวันห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มักมียอดขายเกิดขึ้นในช่วงเวลา 18:00 – 22:00 น. คิดเป็นสัดส่วนต่อยอดขายทั้งวันเกินกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นไปในทางเดียวกันกับข้อมูลการขายออนไลน์ของ Taobao ที่มียอดขายสูงสุดในเวลา 21.00-22.00 น. และหากเปรียบเทียบการบริโภคช่วงกลางคืนต่อยอดขายทั้งวันมีสัดส่วนเกินกว่าร้อยละ 36 ขณะเดียวกันข้อมูลจาก iiMedia Research (บริษัทให้คำปรึกษา วิจัยและสำรวจข้อมูลตลาดของจีน) พบว่า ปี 2561 ตลาดเศรษฐกิจภาคกลางคืนของจีนมีมูลค่า 23 ล้านล้านหยวน และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มเป็น 33 ล้านล้านหยวนในปี 2563 หรือเติบโตราวร้อยละ 17 ต่อปี จากการสนับสนุนเศรษฐกิจภาคกลางคืนเพิ่มขึ้นของรัฐบาลจีน
การส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจภาคกลางคืนเป็นสิ่งที่จีนไม่มองข้าม มีตัวอย่างหลายเมืองทั่วโลกพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยรูปแบบ “เมืองที่ไม่มีวันหลับใหล” ที่สามารถสร้างงานและรายได้ให้ประเทศเพิ่มขึ้น เช่น ปี 2560 ลอนดอนมีรายได้จากธุรกิจกลางคืน 26,300 ล้านปอนด์ และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 30,000 ล้านปอนด์ในปี 2573 หรือเทศกาลตลาดกลางคืน “Seoul Bamdokkaebi Night Market” ณ กรุงโซล ที่ในปี 2561 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเกือบ 4.3 ล้านคน และสร้างรายได้ถึง 11,700 ล้านวอน
พฤติกรรมการบริโภคในเวลากลางคืนของจีนกับโอกาสของธุรกิจไทย
จากสถิติ “ตลาดท่องเที่ยวกลางคืนของจีนประจำปี 2562” โดยสถาบันการท่องเที่ยวจีน ระบุว่า (1) นักท่องเที่ยวใช้จ่ายในเวลากลางวันราวร้อยละ 70 และใช้จ่ายในเวลากลางคืนเกือบร้อยละ 30 โดยร้อยละ 80 ใช้เวลาเที่ยวมากกว่า 2 ชั่วโมง นิยมเที่ยวในช่วงฤดูร้อน และนิยมเที่ยวใกล้ที่พักในระยะไม่เกิน 6 กิโลเมตร (2) กิจกรรมที่ชอบมากที่สุดยังคงเป็นเรื่องของอาหารการกิน คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 70 รองลงมาคือ เดินเล่นสวนสาธารณะ เดินตลาดกลางคืน และช้อปปิง (3) สถานที่กลางคืนที่นักท่องเที่ยวนิยมยังคงเป็นสถานที่ที่มีกิจกรรมดั้งเดิม เช่น เดินเล่นตลาดกลางคืน ชมการแสดง และชมวิวทิวทัศน์ ส่วนกิจกรรมใหม่ที่มาแรงและนักท่องเที่ยวยอมจับจ่าย คือ การชมบรรยากาศกลางคืนในช่วงเทศกาลหรือถนนคนเดินและเมืองโบราณ รวมถึงจุดชมวิวหรือบรรยากาศที่สะท้อนวัฒนธรรมยังเป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวและมีศักยภาพในการขยายตลาด (4) วัยรุ่นยุค 80 และ 90 ช่วงอายุ 18-34 ปี ใช้จ่ายในช่วงกลางคืนมากที่สุด ผู้หญิงชอบเรื่องอาหารการกิน ส่วนผู้ชายชอบการดื่มด่ำกับบรรยากาศกลางคืนมากกว่า และปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวอยากเที่ยวในช่วงกลางคืนมีหลายเหตุผล เช่น ทิวทัศน์ยามค่ำคืนสวยงาม บรรยากาศกลางคืนให้ความสุขทั้งทางกายและใจ และความบันเทิงยามค่ำคืนมีให้เลือกหลากหลาย รวมถึงชื่นชอบสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืนที่มีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะวัยรุ่นในยุคนิยมการถ่ายรูปและแชร์ประสบการณ์ลงโลกโซเชียล
การศึกษาพฤติกรรมการบริโภคในเวลากลางคืนของจีนสามารถนำมาปรับใช้กับนักท่องเที่ยวจีนหลายล้านคนที่ไปเที่ยวเมืองไทยได้ด้วยการขยายเวลาพาชมแหล่งท่องเที่ยวและช็อปปิ้งช่วงกลางคืน เช่น ตลาดกลางคืน ร้านเสริมสวย ร้านนวดและสปา รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวกลางคืนที่แปลกใหม่ เช่น เมืองจำลอง สวนสัตว์กลางคืน แกลลอรี่ศิลปะ พิพิธภัณฑ์ และการแสดงศิลปะวัฒนธรรม ขณะเดียวกันก็เป็นจังหวะให้ธุรกิจไทยรุกตลาดจีนในภาคกลางคืนเพิ่มขึ้น เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร การออกกำลังกายในช่วงเย็นอย่างกีฬามวย และนวดแผนไทย นอกจากนี้ ธุรกิจไทยในจีนก็สามารถอาศัยกระแสการบริโภคในเวลากลางคืนของจีนที่กำลังบูมขยายเวลาเปิดทำการในช่วงค่ำ
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจกลางคืนในนครฉางซากลับมามีชีวิตชีวามากกว่าเดิมและมีกิจกรรมที่หลากหลายให้ประชาชนมีทางเลือกในการบริโภคมากขึ้น เช่น ตลาดกลางคืน การแสดงสดข้างถนน การแสดงดอกไม้ไฟ โรงอาหารรอบดึกสำหรับนักศึกษา รวมถึงร้านสะดวกซื้อ ร้านหนังสือและห้องสมุดที่ให้บริการ 24 ชั่วโมง โดยกิจกรรมที่ชื่นชอบมากที่สุดในเวลากลางคืน ได้แก่ รับประทานอาหาร สังสรรค์กับเพื่อน ดูหนัง และช้อปปิง โดยผู้บริโภคร้อยละ 70 ใช้จ่ายประมาณ 500 หยวน/ครั้ง
จะเห็นได้ว่า เศรษฐกิจภาคกลางคืนถือเป็นส่วนหนึ่งของกระจกที่สะท้อนการพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองที่ไม่หยุดนิ่งในด้านเศรษฐกิจและสังคมของจีน การพัฒนาเศรษฐกิจภาคกลางคืนไม่ได้เป็นเพียงการขยายการบริโภคหรือเพิ่มการเติบโตตัวเลขจีดีพีของเมืองนั้น ๆ แต่ยังเป็นทางเลือกในการตอบสนองความต้องการ “ดีต่อชีวิต”ของผู้คนในยุคนโยบาย “กินดีอยู่ดี” ของจีน
*************************************************************************************************
แหล่งข้อมูล
http://www.sohu.com/a/346421598_162522
https://www.iimedia.cn/c460/65762.html
http://www.hn.xinhuanet.com/2019-12/10/c_1125327886.htm
http://www.xinhuanet.com/english/2019-10/13/c_138468310.htm
http://fgw.changsha.gov.cn/jdhy_new/zcjd_284/201911/t20191128_3537977.html
http://www.sohu.com/a/346421598_162522
https://www.iimedia.cn/c460/65762.html
http://m.bch.leju.com/news-fangnews-6602875291901935128.html
http://www.sohu.com/a/341044310_120206261