ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงเป็นท่าอากาศยานแห่งแรกของโลก ที่ใช้หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสโควิด-๑๙
12 Jun 2020ที่มาของภาพ : businesstraveller.com
ทุกวันนี้แนวโน้มการพัฒนาและการใช้ประโยชน์จากหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ในชีวิตประจำวัน ได้เป็นที่แพร่หลายมากขึ้น รวมทั้งได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการปฏิบัติงานป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ ทั่วโลก โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง
บริษัท Taimi Robotics Technology สาธารณรัฐประชาชนจีน และบริษัท Time Medical Systems เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ ได้วิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์ชื่อว่า “Intelligent Sterilisation Robot” (ISR) ที่มีศักยภาพในการฆ่าเชื้อไวรัส และเชื้อแบคทีเรียได้ถึงร้อยละ ๙๙.๙๙ โดยหุ่นยนต์ดังกล่าวได้สนับสนุนหน่วยแพทย์ในช่วงวิกฤตของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ในโรงพยาบาลต่าง ๆ ของสาธารณรัฐประชาชนจีนมาแล้ว อาทิ โรงพยาบาลกลางอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย โรงพยาบาลเชินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง เป็นต้น รวมทั้งได้รับการตอบรับจากหน่วยงานผู้ใช้ประโยชน์เป็นอย่างดี ในโอกาสนี้ ศูนย์ BIC และทีมเศรษฐกิจ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง ขอแบ่งปันข้อมูลจากการประมวลศึกษาข้อมูล กอปรกับข้อมูลปฐมภูมิจากการสัมภาษณ์ Mr. Alec Leung รองประธานกรรมการ บริษัท Time Medical Systems เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ดังนี้
หุ่นยนต์ ISR สามารถขับเคลื่อนได้ทั้งระบบอัตโนมัติและระบบควบคุมผ่าน remote control โดยสามารถหมุนรอบตัวได้ ๓๖๐ องศา และมีประสิทธิภาพในการยับยั้งแบคทีเรียและไวรัส รวมถึงไวรัสโควิด-๑๙ ได้ถึงร้อยละ ๙๙.๙๙ ภายในระยะเวลาเพียง ๑๐ นาที ในพื้นที่ขนาด ๕ x ๕ เมตร โดยระบบการปฏิบัติงานของหุ่นยนต์ดังกล่าวประกอบด้วย (๑) ระบบรังสีอัลตราไวโอเลต-ซี ที่มีประสิทธิในการฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ซึ่งควรใช้งานในพื้นโล่งและปลอดผู้คน เนื่องจากรังสีชนิดนี้มีผลต่อผิวหนังของมนุษย์ (๒) ระบบในส่วนของหัวพ่นด้านบน สำหรับพ่นไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide : H2O2) ซึ่งมีฤทธิ์ในการทำลายผนังเซลล์ของเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย โดยหลังจากการพ่นไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์จะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นน้ำและออกซิเจน จึงไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ และ (๓) ระบบแผ่นกรองอากาศที่มีขนาดอนุภาค ๐.๓ ไมครอน สำหรับการกรองอากาศบริเวณรอบ ๆ ตัวหุ่นยนต์ ทั้งนี้ หุ่นยนต์ ISR ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านคุณภาพเทคโนโลยีเพื่อทางการแพทย์ จากกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย (Australian Government Department of Health)
ที่มาของภาพ : travelweekly-asia.com
ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง ได้ติดต่อจัดซื้อหุ่นยนต์ ISR จากบริษัท Time Medical Systems จำนวน ๓ ตัว และได้นำมาใช้อำนวยความสะดวกในการทำความสะอาดเพื่อการยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ โดยได้จัดให้มีหุ่นยนต์ ISR ประจำตามสถานที่ต่าง ๆ ในท่าอากาศยานฯ อาทิ บริเวณพื้นที่อาคารที่ใช้ใน การให้บริการและปฏิบัติการ ตลอดจนห้องน้ำสาธารณะ ซึ่งกล่าวได้ว่า ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงเป็นท่าอากาศยานแห่งแรกของโลกที่นำนวัตกรรมหุ่นยนต์มาใช้ประโยชน์จริงในการยับยั้งและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ทั้งนี้ Mr. Leung ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ บริษัทกำลังดำเนินการจัดจำหน่ายหุ่นยนต์ ISR ให้แก่หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนจากหลายประเทศที่แสดงความสนใจนวัตกรรมนี้ อาทิ มาเลเซีย อิตาลี สิงคโปร์ และไทย
ทันโลก เป็นตัวอย่างที่ดีของการนำหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์มาใช้ประโยชน์และปฏิบัติจริงในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ เป็นโอกาสของนักวิจัย/นักวิชาการ และนักธุรกิจไทย ที่อาจพิจารณาร่วมมือแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และเชื่อมโยงนวัตกรรมกับธุรกิจ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยระหว่างไทยกับฮ่องกงในมิติต่าง ๆ ซึ่งสามารถนำไปสู่การค้าการลงทุนในอนาคต โดยฮ่องกงเป็นเมืองที่มีศักยภาพในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมและการประกอบธุรกิจการค้าการลงทุนและการบริการ กอปรกับประเทศไทยมีความพร้อมในด้านที่ตั้งของฐานการผลิต และทรัพยากร โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ EEC รวมทั้งการเกื้อหนุนจากนโยบาย Thailand ๔.๐ และการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย ๑๒ S-curves โดยที่หนึ่งในอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นภายหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ได้แก่ อุตสาหกรรมการแพทย์แบบครบวงจร โดยมี อุตสาหกรรมดิจิตอล อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดีที่ประเทศไทยส่งเสริม เป็นต้น
เรียบเรียงโดย
นางสาวเทิดขวัญ แผ้วสว่าง
เจ้าหน้าที่ศูนย์ข้อมูลธูรกิจไทยในฮ่องกง
แหล่งข้อมูล
www.time-medical.com/intelligent-sterilization-robot
www.businesstraveller.com