ถอดรหัสบทความของรองนายกรัฐมนตรีหลิว เฮ่อ
25 Nov 2022ที่มา: http://lianghui.people.com.cn
เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2565 หนังสือพิมพ์ People’s Daily และเว็บไซต์ทางการของคณะรัฐมนตรีจีนได้เผยแพร่บทความของรองนายกรัฐมนตรี หลิว เฮ่อ เกี่ยวกับนโยบายด้านเศรษฐกิจของจีนเรื่อง “การบูรณาการการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศและการปฏิรูปโครงสร้างด้านอุปทานเชิงลึก”
บทความดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของหนังสือศึกษาและวิจัยรายงานการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ครั้งที่ 20 ซึ่งได้รวบรวมบทความของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน รวมถึงข้อเสนอแนะทางนโยบายที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศและเรื่องดังกล่าวอยู่ภายใต้หัวข้อ “การพัฒนาที่มีคุณภาพสูง” (high-quality development) ในรายงานการประชุมสมัชชาฯ ซึ่งเป็นเนื้อหาสำคัญของการขับเคลื่อนนโยบาย ด้านเศรษฐกิจ ของจีนในระยะ 5 ปีต่อจากนี้ และยังถือเป็นภารกิจอันดับต้นในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาจีนสู่การเป็นประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัยอย่างรอบด้าน
นายหลิว เฮ่อคือใคร….
นายหลิว เฮ่อ มีบทบาทที่สำคัญในฐานะรองนายกรัฐมนตรีคนสนิทและ “กุนซือด้านเศรษฐกิจ” ของประธานาธิบดีสีฯ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ได้ริเริ่มนโยบายเศรษฐกิจสำคัญมากมาย โดยเป็นหัวหน้าฝ่ายจีนในการเจรจาประเด็นด้านเศรษฐกิจกับสหรัฐอเมริกาและในการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 18 ครั้งที่ 3 เมื่อปี 2556 มีบทบาทที่สำคัญในการกำหนดเนื้อหาของเอกสารเพื่อผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างด้านอุปทานของจีน ซึ่งได้กลายเป็นแนวทางสำหรับการกำหนด นโยบายเศรษฐกิจจีนในยุคของประธานาธิบดีสีฯ
ที่มา: https://epaper.chinadaily.com.cn
สาระสำคัญของบทความ
(1) การกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ (การบริโภคและการลงทุน) เป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการรับมือกับผลกระทบจากภายนอกและเพิ่มเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเป็นแนวทางของจีนในการรับมือกับวิกฤตต่าง ๆ ที่ผ่านมา อาทิ วิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 2541 วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์เมื่อปี 2551 และวิกฤตโควิด-19 ในปัจจุบันการยึดมั่นต่อการขยายอุปสงค์ภายในประเทศไม่เพียงช่วยให้จีนรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจแต่ยังมีส่วนสำคัญต่อการรักษาความสมดุลและการเติบโตอย่างมั่นคงของเศรษฐกิจโลก
(2) การปฏิรูปโครงสร้างด้านอุปทานเป็นหนทางสู่การพัฒนาที่มีคุณภาพสูง ปัจจุบันปัญหาหลักของการพัฒนาเศรษฐกิจคือการที่โครงสร้างอุปทานไม่สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างอุปสงค์ โดยที่ผ่านมา การใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ส่งผลให้ผลผลิตล้นตลาดและต้นทุนการผลิตสูงขึ้น กอปรกับปัจจัยการผลิต อาทิ ประชากร แรงงาน และเทคโนโลยีเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ จีนจึงผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างด้านอุปทานที่เข้มข้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยใช้มาตรการทางกลไกตลาดและกฎหมาย เพิ่มพลวัตของภาคเอกชน ยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างภาคการเงิน ภาคเศรษฐกิจจริง (real economy) และภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพของอุปทานและการพัฒนาเศรษฐกิจ มีคุณภาพที่สูงขึ้น
(3) การบูรณาการการดำเนินการด้านอุปทานและอุปสงค์เป็นการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทั้งในและนอกประเทศและเป็นข้อกำหนดเชิงปฏิบัติของจีนในการสร้างประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัยอย่างรอบด้าน โดยมีหลักการที่สำคัญ ดังนี้
- ยึดมั่นต่อการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง จากการเติบโตอย่างรวดเร็วเปลี่ยนผ่านสู่การพัฒนาที่มีคุณภาพสูง เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการส่วนบุคคลที่หลากหลายและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของประชาชน โดยมีเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นวงจรหลักที่เกื้อกูลซึ่งกันและกันกับวงจรระหว่างประเทศ
- ยึดมั่นต่อการปฏิรูปโครงสร้างอุปทาน สำหรับอุตสาหกรรมที่พึ่งพาการส่งออกไปต่างประเทศและห่วงโซ่อุปทานมีความเสี่ยงจะได้รับผลกระทบจากต่างประเทศในระดับสูง ควรเร่งทดแทนด้วยการขยายอุปสงค์ภายในประเทศและสำหรับอุตสาหกรรมที่การผลิตในประเทศยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ควรเร่งปฏิรูปอุปทานและขยายการเปิดกว้างต่อภายนอก อาทิ ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์เด็กและ ผู้สูงวัย รวมถึงบริการด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) และการออกแบบ
- ยึดมั่นต่อความเจริญก้าวหน้าและความมั่นคง เน้นความมั่นคง อาทิ เศรษฐกิจมหภาค ห่วงโซ่อุตสาหกรรม พลังงาน และอุปทานของสินค้าขั้นพื้นฐาน ควบคู่กับความก้าวหน้าในการพัฒนาสภาพแวดล้อม ทำลายการผูกขาดทางตลาด ส่งเสริมการจ้างงานที่มีคุณภาพสูง ปรับปรุงระบบประกันสังคม และปฏิรูประบบการลงทุนและการเงินเชิงลึก
- ยึดมั่นต่อการใช้ประโยชน์จากศักยภาพขนาดใหญ่ของตลาดจีน ซึ่งรวมถึงข้อได้เปรียบด้านเศรษฐกิจ อาทิ ประชากร 1,400 ล้านคน กลุ่มรายได้ปานกลางมากกว่า 400 ล้านคน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมมากกว่า 220 รายการ ที่มีผลผลิตมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก เป็นต้น
- ยึดมั่นต่อการใช้แนวคิดที่เป็นระบบและรอบด้าน เพื่อป้องกันและรับมือกับความเสี่ยงและความท้าทายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่มา: https://www.foo.com.au
ภารกิจสำคัญในช่วง 5 ปีต่อจากนี้
ในท่อนส่วนสุดท้ายของบทความ นายหลิว เฮ่อได้ระบุภารกิจสำคัญ 7 ประการในช่วง 5 ปีต่อจากนี้ของจีน ได้แก่
(1) ผลักดันเศรษฐกิจวงจรคู่ ใช้ประโยชน์จากตลาดขนาดใหญ่ของจีนในการผลักดันการหมุนเวียนของเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ ยึดมั่นการเปิดกว้างและขยายขอบเขตการหมุนเวียนเศรษฐกิจ เพื่อผลักดันการไหลเวียนของสินค้า ดึงดูดเงินทุน เทคโนโลยี และบุคลากร รวมถึงยกระดับเขตการค้าเสรี เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน
(2) รักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค การดำเนินการด้านเศรษฐกิจย่อมเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงเป็นวัฏจักร แต่ต้องหลีกเลี่ยงความผันผวนในวงกว้าง จึงจำเป็นต้องปรับปรุงการกำกับนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ เสริมสร้างการประสานงานระหว่างเศรษฐกิจการคลัง (กำกับโดยรัฐบาล) และเศรษฐกิจการเงิน (กำกับโดยธนาคารกลาง) ตลอดจนบทบาทขั้นพื้นฐานของภาคการบริโภคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและบทบาทที่สำคัญของภาคการลงทุนต่อการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างอุปทาน
(3) เสริมสร้างพลวัตของเศรษฐกิจจุลภาค การส่งเสริมและสนับสนุนภาคเอกชนสำคัญอย่างยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจจีน ซึ่งอยู่ในช่วงของการ “ลองถูกลองผิด” เน้นส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และสร้างสภาพแวดล้อมสำหรับการดำเนินธุรกิจที่ดี เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพของภาคเอกชน อีกทั้งเพื่อบ่มเพาะวิสาหกิจหรือองค์กรระดับโลก
(4) เพิ่มปัจจัยการผลิต มุ่งพัฒนาระบบการศึกษาเป็นสำคัญ เน้นการพึ่งพาตนเองทางเทคโนโลยี พัฒนา สร้าง และใช้ประโยชน์จากบุคลากรที่มีความสามารถ โดยเฉพาะผู้ที่มีความสามารถในด้านนวัตกรรม รวมถึงออกนโยบายสนับสนุนการมีบุตร เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากรในระยะกลางและระยะยาว
(5) บูรณาการการพัฒนาระหว่างเขตเมือง – ชนบท และระหว่างภูมิภาค ผลักดัน (1) การบูรณาการในเขตพื้นที่เมืองและชนบท เพื่อกระตุ้นศักยภาพของอุปสงค์และคุณภาพอุปทานในตลาดจีน เร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ รวมถึงเพิ่มแรงดึงดูดในการอยู่อาศัยและการประกอบธุรกิจในเขตพื้นที่ชนบท และ (2) การพัฒนาเป็นกลุ่มเมือง ใช้รูปแบบการพัฒนา “กลุ่มเมืองและวงแหวนเศรษฐกิจ” เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่สอดคล้องกันระหว่างเมืองขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ โดยใช้ปัจจัยการผลิตหรือข้อได้เปรียบของแต่ละพื้นที่เกื้อกูลซึ่งกันและกัน ในการผลักดันการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง
(6) ยกระดับความปลอดภัยด้านห่วงโซ่อุตสาหกรรม เร่งพัฒนาภาคส่วนที่เผชิญกับการแยกตัวทางเศรษฐกิจ (decouple) อาทิ ซอฟต์แวร์พื้นฐานและฮาร์ดแวร์หลัก เพื่อรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุตสาหกรรม อีกทั้งผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมบริการที่มีคุณภาพสูงและอุตสาหกรรมการผลิตขั้นสูงที่อัจฉริยะและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
(7) ป้องกันและขจัดความเสี่ยงเชิงระบบ ต้นตอของความเสี่ยงที่สำคัญในด้านเศรษฐกิจและการเงิน เกิดจากความไม่สมดุลอย่างรุนแรงระหว่างอุปสงค์และอุปทาน การป้องกันและขจัดความเสี่ยงจำเป็นต้องเสริมสร้างการควบคุมระดับมหภาค จัดการกับความสัมพันธ์ระหว่างความเสี่ยงเชิงระบบและความเสี่ยงเชิงศีลธรรมอย่างเหมาะสม ปรับปรุงความสามารถในการกำกับดูแลและประสิทธิภาพในการจัดสรรเงินทุนและทรัพยากร ส่งเสริมวงจรที่เอื้ออำนวยต่อเทคโนโลยี อุตสาหกรรม และการเงิน และบรรลุความสมดุลในระดับที่สูงขึ้นระหว่างอุปสงค์และอุปทาน
ที่มา: https://news.cgtn.com
บทสรุป
บทความดังกล่าว เป็นการอธิบาย “เหตุและผล” ภูมิหลังการออกนโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนในช่วงที่ผ่านมา ภายใต้บริบทการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศที่เข้มข้นขึ้น ตลอดจนข้อเสนอแนะเชิงเศรษฐกิจสำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนในอนาคต และเป็นแนวทางให้กับภาคส่วนต่าง ๆ ของจีนในการขับเคลื่อนนโยบายด้านเศรษฐกิจของจีนทั้งในระดับมหภาคและจุลภาค
ในภาพรวม เนื้อหาของบทความฯ สะท้อนมุมมองของรองนายกรัฐมนตรีหลิวฯ ที่สนับสนุนการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงและการหาจุดสมดุลระหว่างแนวคิดที่เน้นกลไกตลาด (market-orientation) และแนวคิดที่เน้นการแทรกแซงของรัฐ (state-intervention) และเน้นย้ำกลไกเศรษฐกิจวงจรคู่ โดยมีเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นวงจรหลัก ในขณะที่หลีกเลี่ยงแนวคิดการปิดกั้นและโดดเดี่ยว (isolationism) จากภายนอก
* * * * * * * * * *
จัดทำโดย นายพรภวิษย์ พรสงเคราะห์
ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ กรุงปักกิ่ง
แหล่งข้อมูล:
1. 刘鹤:把实施扩大内需战略同深化供给侧结构性改革有机结合起来
http://www.gov.cn/xinwen/2022-11/04/content_5724222.htm
2. That sensible voice
https://triviumchina.com/2022/11/10/that-sensible-voice/
3. Deep dive | Party Congress Post-view: Power, personnel, and policy
https://triviumchina.com/2022/10/29/party-congress-post-view-power-personnel-and-policy/
4. 社论丨把实施扩大内需战略同深化供给侧结构性改革有机结合起来
http://www.21jingji.com/article/20221105/ada3c4f39008df7b50c69feee3f84843.html
5. China Must Boost Demand and Deepen Supply-Side Reform, Liu He Says