จุดประกายฟื้นชีวิตการท่องเที่ยวในลุ่มน้ำโขงเชื่อมจีน-ไทย-ลาว ด้วยการเดินทางสี่รูปแบบ “น้ำ-บก-อากาศ-ราง” สัมผัสอาณาจักรโบราณสี่เชียง “เชียงรุ่ง-เชียงราย-เชียงใหม่-เชียงทอง”
21 Oct 2025
แม่น้ำโขงซึ่งมีต้นกำเนิดจากจีน (ช่วงที่ไหลผ่านจีนเรียกว่าแม่น้ำล้านช้าง) ไหลผ่านเมียนมา ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนาม มีความลึกลับและเสน่ห์ที่ชวนค้นหา โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวตามแนวแม่น้ำช่วงที่ไหลผ่าน “จีน-เมียนมา-ลาว-ไทย” ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานและรวยรุ่มด้วยวัฒนธรรมล้านนา-ล้านช้าง ได้แก่ เชียงรุ่ง (เมืองจิ่งหงในเขตฯ สิบสองปันนา) เชียงตุง (ในรัฐฉานใต้ของเมียนมา) เชียงทอง (เมืองหลวงพระบางใน สปป.ลาว) เชียงราย และเชียงใหม่ ผนวกเป็นเส้นทางท่องเที่ยวดินแดนห้าเชียงที่มีนักเดินทางให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยในยุคที่การคมนาคมยังไม่สะดวกสบายเท่าปัจจุบัน นักเดินทางนิยมเลือกใช้เส้นทางเดินเรือระหว่างเชียงรุ่งกับเชียงรายเป็นเส้นทางหลักในการเดินทาง เพื่อเชื่อมต่อไปยังเมืองเชียงใหม่ เชียงตุง และเชียงทอง
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์สะเทือนขวัญโจรสลัดแม่น้ำโขงปล้นฆ่าลูกเรือสินค้าชาวจีน 13 ศพเมื่อเดือนตุลาคม 2554 ส่งผลให้การเดินเรือขนส่งผู้โดยสารในแม่น้ำโขงต้องถูกระงับไปเนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย ขณะที่การเดินเรือขนส่งสินค้าในแม่น้ำโขงก็มีความเข้มงวดมากขึ้น โดยจีน ลาว เมียนมา และไทยได้จัดตั้งกลไกความร่วมมือ 4 ฝ่าย เพื่อเริ่มปฏิบัติการลาดตระเวนแม่น้ำล้านช้าง/แม่น้ำโขงร่วม 4 ประเทศครั้งแรก เมื่อเดือนธันวาคม 2554 ต่อเนื่องจนถึงเดือนกันยายน 2568 ซึ่งเป็นปฏิบัติการครั้งที่ 157 โดยประเทศไทยเข้าร่วมในฐานะผู้สังเกตการณ์ ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่มีความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการเดินเรือมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ แม้ว่าในช่วงที่ไม่มีการเดินเรือขนส่งผู้โดยสารในแม่น้ำโขง แต่ก็ยังมีนักเดินทางบางส่วนเลือกเดินทางล่องแม่น้ำโขงไปกับเรือสินค้า จนกระทั่งเกิดการระบาดของโควิด-19 ซึ่งมณฑลยูนนานได้ประกาศระงับการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าของท่าเรือกวนเหล่ยเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2563
ต่อมา ด่านท่าเรือกวนเหล่ยได้ฟื้นฟูการขนส่งสินค้าอีกครั้งเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2565 โดยเรือขนส่งมันฝรั่ง 226 ตัน ได้ออกจากท่าเรือกวนเหล่ยมุ่งหน้าไปยังท่าเรือเชียงแสนของไทย แต่ไม่อนุญาตให้นักเดินทางอาศัยโดยสารเรือสินค้าแล้ว โดยกำหนดให้ผู้ขึ้นเรือสินค้าต้องมีเอกสารประจำตัวลูกเรือเท่านั้น
จนกระทั่ง เมื่อเวลา 08.30 น. ของวันที่ 13 มกราคม 2568 ด่านกวนเหล่ยได้ฟื้นฟูบริการขนส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศอีกครั้งนับตั้งแต่มณฑลยูนนานระงับบริการขนส่งสินค้าและการเดินทางผ่านแดนของประชาชนของด่านท่าเรือกวนเหล่ยเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 เป็นระยะเวลาเกือบ 5 ปี โดยเป็นเรือข้ามฟากสำหรับผู้โดยสารชาวเมียนมาที่อาศัยอยู่ฝั่งตรงข้ามด่านกวนเหล่ยที่ต้องการข้ามมาเรียนหนังสือหรือทำธุระในฝั่งจีน และชาวจีนที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ชายแดนที่ต้องการไปเยี่ยมครอบครัวหรือญาติในฝั่งเมียนมา เป็นความหวังว่าเรือบริการขนส่งผู้โดยสารทางไกลระหว่างด่านท่าเรือกวนเหล่ยกับด่านเชียงแสนจะฟื้นฟูกลับมาในไม่ช้า
ล่าสุด เมื่อวันที่ 1-5 ตุลาคม 2568 บริษัท Xishuangbanna Gold Peacock International Tourism จำกัด ได้ฟื้นฟูเส้นทางท่องเที่ยวในแม่น้ำโขงเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี (นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์โจรสลัดแม่น้ำโขงปล้นฆ่าลูกเรือจีน 13 ศพ) โดยจัดคณะนักท่องเที่ยวชาวจีน 11 ราย พร้อมมัคคุเทศก์ 1 ราย เดินทางท่องเที่ยว 3 ประเทศ (จีน-ไทย-ลาว) เริ่มจากท่าเรือจิ่งหง-ท่าเรือกวนเหล่ย-ท่าเรือเชียงแสน-เชียงราย-เชียงใหม่-หลวงพระบาง-สถานีรถไฟสิบสองปันนา โดยใช้การเดินทางหลากหลายรูปแบบทั้งเรือ-ถนน-อากาศ-ราง
โดยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ได้มีพิธีเปิดเส้นทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศ “แม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง” ที่ท่าเรือจิ่งหง เมืองจิ่งหง เขตฯ สิบสองปันนา หลังจากนั้น นักท่องเที่ยวได้โดยสารเรือจากท่าเรือจิ่งหงไปยังด่านท่าเรือกวนเหล่ยในอำเภอเหมิ่งล่า เขตฯ สิบสองปันนาเพื่อดำเนินพิธีการตรวจคนออกเมือง และโดยสารเรือล่องแม่น้ำโขงอีกประมาณ 6 ชั่วโมงไปถึงด่านท่าเรือเชียงแสนเพื่อดำเนินพิธีการตรวจคนเข้าเมือง แล้วจึงเดินทางโดยรถยนต์ไปเที่ยวถนนคนเดินเชียงรายและพักค้างคืนในตัวเมืองเชียงราย
วันที่ 2 ตุลาคม 2568 ไปเยี่ยมชมสิงห์ปาร์ค วัดร่องเสือเต้น บ้านดำ วัดร่องขุ่น และเลือกซื้อของที่ระลึก จากนั้น ก็เดินทางโดยรถยนต์ไปพักค้างคืนที่ตัวเมืองเชียงใหม่
วันที่ 3 ตุลาคม 2568 ไปเยี่ยมชมวัดพระธาตุดอยสุเทพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และถนนนิมมานเหมินท์ จากนั้น หลังรับประทานอาหารกลางวันก็เดินทางโดยเครื่องบินไปหลวงพระบาง ช่วงบ่ายไปเยี่ยมชมพระธาตุพูสี และช่วงค่ำไปเที่ยวถนนคนเดินหลวงพระบาง
วันที่ 4 ตุลาคม 2568 เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการเข้าร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวเหนียว เที่ยวตลาดเช้า เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง วัดเชียงทอง หมู่บ้านวัฒนธรรมทอผ้า “บ้านผานม” และน้ำตกตาดกวางสี โดยยังพักค้างคืนที่หลวงพระบางเป็นคืนที่สอง
วันที่ 5 ตุลาคม 2568 หลังรับประทานอาหารเช้า ก็เดินทางจากหลวงพระบาง (09.50) กลับไปสิบสองปันนา (15.00) ด้วยเส้นทางรถไฟลาว-จีน
หลังสิ้นสุดการเดินทางของนักท่องเที่ยวคณะแรก บริษัท Xishuangbanna Gold Peacock International Tourism จำกัด ก็เปิดให้ผู้ที่สนใจสามารถจองที่นั่งสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในเส้นทางดังกล่าวเป็นคณะที่สอง โดยกำหนดเดินทางระหว่างวันที่ 3-7 พฤศจิกายน 2568
ทั้งนี้ หากในอนาคต บริษัทสามารถเปิดให้บริการเส้นทางท่องเที่ยว 3 ประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสามารถเปิดให้บริการเรือขนส่งผู้โดยสารระหว่างสิบสองปันนากับเชียงแสนแบบเที่ยวเรือประจำ ก็จะยิ่งเป็นการอำนวยความสะดวกและเพิ่มทางเลือกในการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนในลุ่มแม่น้ำโขงด้วย
ที่มา: https://mp.weixin.qq.com/s/XfdHh_CJ8yiIaWaHnf4X5Q
https://mp.weixin.qq.com/s/eS3BBo8FfMzku-ZYOBKwHw
https://mp.weixin.qq.com/s/nhP_7Q5kWAT7wJriGwlv3Q
https://www.khaosod.co.th/pr-news/news_1579531
https://www.chiangraismiletour.com/content/32179/%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87-5-%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87
