กว่างซีโชว์ผลงาน“สะพานโค้ง”ระดับโลก!
26 Feb 2020ไฮไลท์
- “จีน” เป็นผู้นำด้านงานวิศวกรรมของโลก โดยเฉพาะการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานอย่าง “สะพาน” ซึ่งขณะนี้ จีนมีสะพาน (Highway bridge) มากกว่า 8 แสนแห่งและสะพานสำหรับเส้นทางรถไฟอีกมากกว่า 2 แสนแห่ง
- “สะพานผิงหนานแห่งที่ 3”เป็นอีกความภาคภูมิใจของชาวกว่างซี เพราะเป็นผลงานด้านวิศวกรรมชิ้นโบว์แดงของชาวกว่างซีที่ได้รับการการันตีด้วยสถิติ “สะพานโค้ง” (Arch Bridge) ที่มีคานโค้งยาวที่สุดในโลกที่ 575 เมตร
- งานก่อสร้างสะพานโค้งแห่งนี้ได้สร้างทฤษฎีใหม่ให้กับวงการวิศกรรมของโลกความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการก่อสร้างฉีกกฎเกณฑ์แบบเก่า ไม่ว่าจะเป็นการสร้างฐานยึดบนพื้นที่ที่สภาพทางธรณีวิทยามีความซับซ้อนและระบบการชักรอกและเชื่อมชิ้นส่วนคานเหล็กส่วนโค้งบนที่สูงซึ่งการทำงานทุกขั้นตอนต้องอาศัยความละเอียดและความแม่นยำ ที่สำคัญเทคโนโลยีทุกอย่าง “Created in Guangxi”
คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า “จีน” ไม่ใช่ผู้นำด้านงานวิศวกรรมของโลก ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จีนมีอยู่ ทำให้จีนเป็นเจ้าของสถิติโลกในโครงการก่อสร้างหลายต่อหลายโครงการ โดยเฉพาะการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานอย่าง “สะพาน” ซึ่งขณะนี้ จีนมีสะพาน (Highway bridge) มากกว่า 8 แสนแห่งและสะพานสำหรับเส้นทางรถไฟอีกมากกว่า 2 แสนแห่ง
“สะพานผิงหนาน แห่งที่ 3”(3rdPingnan Bridge /平南三桥) เป็นอีกความภาคภูมิใจของชาวกว่างซี เพราะเป็นผลงานด้านวิศวกรรมการก่อสร้างสะพานชิ้นโบว์แดงของชาวกว่างซีที่ได้รับการการันตีด้วยสถิติ“สะพานโค้ง” (Arch Bridge) ที่มีคานโค้งยาวที่สุดในโลก
สะพานแห่งนี้ตั้งอยู่ในอำเภอผิงหนาน เมืองกุ้ยก่างของกว่างซีเป็นสะพานข้ามแม่น้ำสวินเจียง (แม่น้ำสาขาของแม่น้ำซีเจียง)เชื่อมกับทางด่วนด้านทิศเหนือของเมือง สะพานมีความยาวรวม 1,035 เมตร คานเหล็กโค้งของตัวสะพานมีความยาว 575 เมตร ลบสถิติของสะพานข้ามแม่น้ำแยงซีเกียงฉาวเทียนเหมิน (Chaotianmen Bridge/朝天门长江大桥)ในมหานครฉงชิ่งที่เคยครองสถิติโลกด้วยความยาวส่วนโค้ง 552 เมตร
สิ่งที่สร้างความภาคภูมิใจกับชาวกว่างซี คือ การลงทุนและการก่อสร้างสะพานโดยบริษัทท้องถิ่นของกว่างซี ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมดบริษัท Guangxi Communications Investment Group Corp., Ltd. หรือ CGXCIG(广西交通投资集团有限公司) เป็นผู้ลงทุนและมีบริษัท Guangxi Road and Bridge Engineering Group Co., Ltd. (广西路桥工程集团有限公司) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ CGXCIG เป็นผู้ดำเนินงาน ภายใต้การนำของศาสตราจารย์เจิ้ง เจเหลียน(ZhengJielian/郑皆连) ราชบัณฑิตประจำสภาวิศวกรรมศาสตร์แห่งประเทศจีน (China Engineering Academy/中国工程院)และศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยกว่างซี(Guangxi University/广西大学)
สะพานเริ่มการก่อสร้างเมื่อเดือนมิถุนายน 2561 และเริ่มประกอบชิ้นส่วนคานเหล็กส่วนโค้งชิ้นแรกของสะพานเมื่อวันที่12 ตุลาคม 2562 จนถึงวันที่ 10 มกราคม 2563 ชิ้นส่วนคานเหล็กชิ้นสุดท้ายถูกเชื่อมติดเป็นสะพานโค้งเสร็จสมบูรณ์ รวมเวลาก่อสร้างคานเหล็กส่วนโค้งเพียง 90 วัน
นับเป็นอีกหนึ่งความท้าท้ายมากที่สุดของมนุษย์ในการก่อสร้างสะพานโค้งกล่าวได้ว่า เทคโนโลยีที่ใช้ในการก่อสร้างสะพานแห่งนี้เป็น “ที่สุดของเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก”อย่างไม่เคยมีใครทำมาก่อนกล่าวคือ
เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางธรณีวิทยาที่มีความซับซ้อนบริเวณฝั่งเหนือของแม่น้ำ มีชั้นดินหลายประเภททั้งชั้นดินเหนียวปนทรายแป้ง (Silty clay) ชั้นหินกรวดซึมน้ำ และชั้นหินผุ การก่อสร้างฐานรองรับโครงสร้างส่วนโค้งได้นำวิธีการก่อสร้างกำแพงทึบน้ำ (Slurry Wall) เป็นรูปวงกลม กับเทคนิคอัดฉีดซีเมนต์(Grouting)เข้าไปในชั้นหินกรวดเพื่อแก้ไขปัญหาช่องว่างในดิน เสริมความหนาแน่น และเพิ่มคุณสมบัติการรองรับแรงเพื่อใช้สร้างฐานยึดของสะพานที่มีความโค้งขนาดใหญ่เป็นครั้งแรก และเป็นการฉีกกรอบความคิดแบบเดิมที่ต้องสร้างฐานยึดของสะพานโค้งด้วยวิธีเจาะเสาเข็มที่มีปลายในชั้นหิน(Rock-socketed)
การก่อสร้างฐานรากสะพานโค้งขนาดใหญ่ด้วยเทคนิคการสร้าง “กำแพงทึบน้ำใต้ดิน” ถือเป็นครั้งแรกในประเทศจีน ฐานรากฝั่งเหนือมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางนอก 60 เมตร ความลึก 40 กว่าเมตร ความหนา 6 เมตร ใช้คอนกรีตมากกว่า 14,042 ลูกบาศก์เมตร และต้องเทคอนกรีตให้เสร็จภายในครั้งเดียว
คานโค้งของสะพานประกอบขึ้นจากโครงเหล็กสีแดงขนาดยักษ์ทั้งหมด 44 ท่อน (เป็นเส้นคู่ขนาน ด้าน ละ 22 ท่อน) เกิดขึ้นจากการนำท่อเหล็ก 1,960 ชิ้น เชื่อมประกอบกัน ซึ่งท่อเหล็กชิ้นที่ใหญ่ที่สุดมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร สูง 3 เมตร ตัดเชื่อมทำจากแผ่นเหล็กขนาด 9.4 ตร.ม. หากนำท่อเหล็ก 1,960 ชิ้นเรียงต่อกันจะได้ความสูงถึง 4,792 เมตร หรือเท่ากับการเอา “หอไอเฟล” 14 หอวางซ้อนกัน
ช่างเชื่อมต้องทำงานบนที่สูง ต้องอาศัยประสบการณ์ความละเอียดและความแม่นยำสูง ค่าความคลาดเคลื่อนในการเชื่อมคานเหล็กเส้นหลักขนาดใหญ่ต้องไม่เกิน 3 มิลลิเมตร ค่าความคลาดเคลื่อนของแกนโค้ง(arch axis) ในแนวระนาบต้องไม่เกิน 10 มิลลิเมตร ค่าความคลาดเคลื่อนของเส้นวงแหวนกับเส้นแบบต้องไม่เกิน30 มิลลิเมตร
งานติดตั้งโครงสร้างชิ้นส่วนคานเหล็กแต่ละชิ้นใช้“ระบบรอกเคเบิล” (Cable-hoisting System) ซึ่งทีมก่อสร้างได้คิดค้นและพัฒนาขึ้นมาเองควบคุมเคเบิลเครนที่มีแรงยก 300 ตันด้วยระบบไฟฟ้า เคเบิลเครนมีความสูง 200 เมตร หรือเท่ากับตึกสูง 68 ชั้น ระบบรอกเคเบิลประกอบด้วยระบบสายเคเบิลหลักกับระบบสายเคเบิลปฏิบัติงาน โดยเคเบิลเส้นหลักเป็นตัวรับแรงของระบบดังกล่าว เคเบิลเส้นหลักประกอบด้วยลวดสลิงควั่นเกลียว (locked coil wire lope) จำนวน 16 เส้น แต่ละเส้นมีความยาว 2,200 เมตร เคเบิลที่ใช้ในระบบชักรอกจากต้นถึงปลายมีความยาว 99,520 เมตร การติดตั้งคานเหล็กท่อนแรกมีความยาว 22 เมตร สูง 17 เมตร กว้าง 4.8 เมตร น้ำหนัก 156 ตัน หรือเท่ากับน้ำหนักของช้างแอฟริกา 19 ตัวรวมกัน
คาดหมายว่า สะพานผิงหนาน แห่งที่ 3 จะสามารถเปิดใช้ได้ในช่วงปลายปี 2563 นี้
จัดทำโดย นางสาววัชราภรณ์ พรหมพินิจ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีนณนครหนานหนิง
เรียบเรียงโดย นายกฤษณะ สุกันตพงศ์ศูนย์ ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีนณนครหนานหนิง
ที่มาเว็บไซต์ www.gx.chinanews.com (中国新闻网) วันที่ 10 มกราคม 2563
เว็บไซต์ www.sasac.gov.cn(广西国资委) วันที่ 14 มกราคม 2563
รูปประกอบ www.sasac.gov.cn / www.ctnews.com.cn / www.gxlq.com.cn