กราฟ “สับปะรด” ในจีนกำลังพุ่ง ค้นหาโอกาสของ“สับปะรดไทย” ในตลาดจีน —— ตอนที่ 1 รู้จักตลาดสับปะรดในจีน (1/2)
15 Dec 2023
กฤษณะ สุกันตพงศ์ เขียน
ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน (BIC)
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง
“สับปะรด”เป็นผลไม้เมืองร้อนที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเป็นอันดับ 3 ของโลก มีการเพาะปลูกอย่างกว้างขวางในกว่า 80 ประเทศทั่วโลก นอกจากการบริโภคผลสดแล้ว สับปะรดยังถูกนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้อย่างหลากหลาย จึงถือเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่มีตลาดขนาดใหญ่มาก
“จีน” เป็นประเทศที่สามารถผลิตสับปะรดได้มากเป็นอันดับ 5 ของโลก ราวปีละ 1.65 ล้านตัน (รองจากคอสตาริกา บราซิล ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย) และเป็นประเทศที่มีปริมาณการบริโภคสับปะรดมากที่สุดในโลก

ใครจะรู้ว่า… ผลไม้นอกสายตาอย่าง “สับปะรด” จะเป็นผลไม้เมืองร้อนที่ได้รับความนิยมในจีน แหล่งเพาะปลูกสับปะรดที่สำคัญของจีนอยู่ที่มณฑลกวางตุ้ง มณฑลไห่หนาน (คนไทยเรียกว่า เกาะไหหลำ) เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง และมณฑลยูนนาน ทำให้สับปะรดได้รับการขนานนามว่าเป็น 1 ใน 4 ราชาผลไม้แห่งดินแดนจีนตอนใต้ (อีก 3 ชนิด คือ ลิ้นจี่ กล้วยหอม และมะละกอ) โดยเฉพาะอำเภอสวีเหวิน (徐闻县) เมืองจ้านเจียง มณฑลกวางตุ้งเป็นฐานการผลิตและการแปรรูปสับปะรดที่ใหญ่ที่สุดในจีน
สับปะรดที่ปลูกในจีน ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ Bali (巴厘) คิดเป็นพื้นที่ปลูกมากกว่าร้อยละ 75 ของทั้งประเทศ สับปะรดพันธุ์ Bali มีราคารับซื้อที่ค่อนข้างผันผวน ทำให้จีนเริ่มส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกสับปะรดพันธุ์อื่น อาทิ พันธุ์ Tainong 16 (台农16) /Tainong 17(台农17) / พันธุ์ MD-2 และพันธุ์ Jinboluo (金菠萝) ซึ่งมีแนวโน้มการปลูกเพิ่มขึ้นทุกปีเนื่องจากขายได้ราคาดี แถมราคาค่อนข้างมีเสถียรภาพ และสับปะรดในจีนส่วนใหญ่จะออกสู่ตลาดในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี
โดยทั่วไป ผู้บริโภคชาวจีนจะเน้นบริโภคสับปะรดผลสดเป็นหลัก โดยตลาดผู้บริโภคส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่จีนตอนใต้และภาคตะวันออกของประเทศ ความนิยมในการบริโภคสับปะรดผลสดมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีการนำมาแปรรูปเป็นอาหารคาวหวาน อาทิ สับปะรดอบแห้ง สับปะรดกระป๋อง เครื่องดื่มน้ำสับปะรด แยมสับปะรด เหล้าสับปะรด พายสับปะรดสไตล์ไต้หวัน และข้าวผัดสับปะรด
ในรายงานการหมุนเวียนของผลไม้เมืองร้อนปี 2565 ของ MeituanYouxuan ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Group-buying ยักษ์ใหญ่ของจีน ระบุว่า สับปะรด ติดโผ 1 ใน 4 ผลไม้เมืองร้อนที่ทำยอดขายได้มากที่สุด ติดต่อกัน 2 ปี ระหว่างปี 2564-2565
จับเทรนด์การบริโภคสับปะรดของชาวจีน แม้ว่าจีนจะมีกำลังการผลิตสับปะรดได้มากกว่า 1.65 ล้านตัน แต่ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการบริโภคภายในประเทศได้เพียงพอ และยังต้องอาศัยการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบัน จีนอนุญาตการนำเข้าสับปะรดจาก 6 ประเทศ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย คอสตาริกา และปานามา

ตลาดสับปะรดนำเข้าในจีน หลายปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่า… ‘แชมป์แบบนอนมา’ เป็นชาติเพื่อนบ้านอาเซียนของเราอย่าง ‘ฟิลิปปินส์’ ส่วนตลาดรอง ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ปานานา และคอสตาริกา ในส่วนของไต้หวันเคยเป็นแหล่งนำเข้าสับปะรดสดที่สำคัญของจีน ก่อนที่จะถูกทางการจีนระงับการนำเข้าตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 โดยมีสาเหตุจากการตรวจพบแมลงศัตรูพืชที่ติดมากับสับปะรดที่นำเข้าจากไต้หวันหลายล็อตตลอดปี 2563
ในปี 2565 จีนนำเข้าสับปะรดสดหรืออบแห้ง (HS Code08043000) น้ำหนัก 208,183 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1,192.81 ล้านหยวน โดย ‘สับปะรดปินส์’ ครองสัดส่วนมากถึงร้อยละ 96.49 ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมดของจีน ในขณะที่ปริมาณการนำเข้าสับปะรดจากไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ปานามา มีสัดส่วนรวมกันเพียงร้อยละ 3.51 เท่านั้น
“นครเซี่ยงไฮ้” เป็นผู้นำเข้าสับปะรดรายใหญ่ในจีน มีสัดส่วนมากถึงร้อยละ 66.84 ของปริมาณการนำเข้าทั้งประเทศ ตามด้วยมณฑลเจ้อเจียง (ร้อยละ 12.58) มณฑลซานตง (ร้อยละ 11.51) มณฑลกวางตุ้ง (ร้อยละ 5.74) และมณฑลยูนนาน (ร้ยละ 2.09)
เหตุที่ ‘สับปะรดปินส์’ ยึดหัวหาดตลาดจีนได้อย่างเหนียวแน่นนอกจากรสชาติที่หอมหวานเป็นเอกลักษณ์ ราคาที่แข่งขันได้แล้ว (ปี 2565 ราคานำเข้าเฉลี่ยของสับปะรดฟิลิปปินส์อยู่ที่กิโลกรัมละ 5.64 หยวน ขณะที่สับปะรดไทยราคาอยู่ที่ กิโลกรัมละ 8.21 หยวน) นอกจากระยะทางการขนส่งที่ใกล้ตลาดเป้าหมายแล้วเราต้องยกนิ้วให้กับฟิลิปปินส์เรื่องการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ (brand awareness) ทั้งในตลาดท้องถิ่น และในตลาดยุคใหม่ผ่าน Social Media ว่า‘ถ้าจะกินสับปะรด ต้องนึกถึงสับปะรดปินส์’ เหมือนถ้าจะกินทุเรียน ก็ต้องนึกถึงทุเรียนไทย
ข้อมูลการวิจัยจาก iResearch บริษัทชั้นนำด้านการสำรวจและวิจัยข้อมูลของจีน ระบุผลสำรวจการบริโภคผลไม้ของชาวจีน พบว่าร้อยละ 65.5 ของผู้บริโภคตัดสินใจเลือกแบรนด์ผลไม้ที่น่าจะเชื่อถือและแบรนด์พรีเมี่ยม นอกจากนี้ ร้อยละ 70 ของผู้บริโภคเห็นว่าผลไม้ที่มีคุณภาพต้องมาจากแหล่งผลิตที่มีคุณภาพ
อย่างในกรณีของแบรนด์ Dole น่าสนใจว่า… ถึงแม้ว่าผลไม้ของ Dole จะมีราคาสูงเมื่อเทียบกับผลไม้ชนิดเดียวกัน แต่ผู้บริโภคหลายคนยอมจ่ายแพงเพื่อแลกกับคุณภาพและความน่าเชื่อถือของแบรนด์ นับเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยสร้างจุดเด่นและมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าของ Dole ที่แตกต่างเหนือคู่แข่ง
ด้วยเหตุนี้ การประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับชื่อเสียงและมาตรฐานของแหล่งผลิตเป็นแรงจูงใจที่จะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อผลไม้ ซึ่งประเทศไทยสามารถใช้กิมมิก“สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์”หรือ GI (Geographical Indications) ในการส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มในห่วงโซ่สินค้าเกษตร และเป็นตัวรับประกันคุณภาพสับปะรดไทยได้เช่นกัน (สับปะรดอำเภอสวีเหวินก็เป็นสินค้า GI แล้วเช่นกัน)
ในเดือนมกราคม – กันยายน 2566 พบว่าการนำเข้าสับปะรดสดและแห้งของจีนจากต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทั้งในแง่ปริมาณและมูลค่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยมีมูลค่ารวม 1,031.33 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.26 (YoY) เป็นปริมาณการนำเข้า 1.71 แสนตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.65 (YoY)
ในจำนวนนี้ เป็นการนำเข้าจากชาติอาเซียนล้วน ๆ แน่นอนว่า.. อันดับ 1 ยังคงเป็นฟิลิปปินส์ (1.62 แสนตัน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 21.98) ตามมาด้วยไทย (5,445 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.66) อินโดนีเซีย (2,934 ตัน เป็นชาติใหม่ที่เพิ่งมีการนำเข้า) และมาเลเซีย (55 ตัน ลดลงร้อยละ 22.08)

นอกจากพฤติกรรมการบริโภคของชาวจีนที่พัฒนาขึ้น โดยเน้นเรื่องแบรนด์และคุณภาพแล้ว อีกเทรนด์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับตลาดสับปะรดในจีน เป็นเรื่องความชื่นชอบ“สับปะรดสดตัดแต่ง” ปอกเปลือก เก็บตา และบรรจุอยู่ในบรรจุภัณฑ์พร้อมทาน (Ready to eat) เหมือนอย่างสับปะรดภูแลบ้านเรา
เทรนด์ความนิยมดังกล่าวไม่ได้ ‘ฮ็อต’เฉพาะร้านผลไม้ออฟไลน์เท่านั้น ! ! ขณะนี้ “สับปะรดสดพร้อมทาน” กลายเป็นจุดขายของร้านขายผลไม้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ จากการเปิดเผยของแพลตฟอร์มเดลิเวอร์รี่ Taocaicai (淘菜菜) ของร้านFreshHippo (คนจีนเรียกว่า เหอหม่าเซียนเซิง/盒马鲜生) และแพลตฟอร์มเดลิเวอร์รี่ 100.me (คนจีนเรียกว่า ติงตง หม่ายช่าย/叮咚买菜) มียอดคำสั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์มจำนวนมาก ร้านค้าปลีก-ส่ง Sam’s Club ของ Walmart พบว่า สมาชิกมีสถิติการซื้อซ้ำสับปะรด Dole พร้อมทานเป็นจำนวนมากเช่นกัน
ด้านคุณ Yu Huiyong (余惠勇) ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้งเฟรนไชส์บริษัทผลไม้รายใหญ่ในจีนอย่าง Pagoda แสดงทัศนะที่น่าสนใจว่า ตนเองมองเห็นโอกาสของตลาดสับปะรดพร้อมทาน นอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาการปอกเปลือกยากแล้ว ผู้บริโภคยังสามารถมองเห็นคุณภาพและระดับความสุกของสับปะรดได้โดยตรง
“การยกระดับการบริโภคเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจสับปะรด การอัปเกรดกระบวนการแปรรูปและตัดแต่งผลสับปะรดสดและการบ่มเพาะพฤติกรรมการบริโภค เชื่อว่า สับปะรดพร้อมทานจะเป็น “สินค้าขายดี”(Best Selling) ในวงการผลไม้ และเป็น “ของโปรดใหม่”(New Favorite) ของหมู่วัยรุ่น”
——คุณ Yu Huiyong ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้งเฟรนไชส์บริษัทผลไม้ Pagoda กล่าว
คุณ Huang Jie (黄洁) ผู้รับผิดชอบงานจัดซื้อผลไม้ประจำภูมิภาคจีนตอนใต้ของบริษัท FreshHippo ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบัน ยอดขายสับปะรดสดหั่นชิ้นในมณฑลกวางตุ้งกับเขตฯ กว่างซีจ้วงมีสัดส่วนมากถึงร้อยละ 80 ร้าน Hema มีบริการปอกเปลือกและดิลิเวอร์รี่ถึงหน้าบ้าน สับปะรดพันธุ์จินจ้วน (金钻凤梨) มียอดขายเฉลี่ยวันละ 10,000 ลูก และยอดขายยังมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในบทความตอนต่อไป…บีไอซี จะนำท่านผู้อ่านไปศึกษาพฤติกรรมการบริโภค
พร้อมส่องโอกาส‘สับปะรดไทย’ในตลาดจีนกันครับ/ค่ะ
*************************************